วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2564

Q10สว่าง หมายถึงการรู้ลมเข้าออก แต่ไม่ใช่เกิดความสว่างจริงใช่ไหม

ดังตฤณ : ถ้ามืด หมายความว่า เราหมกตัวอยู่กับอารมณ์ จะโกรธ ก็ปล่อยให้ใจแล่นไปตามความโกรธ หรือหมกมุ่นครุ่นคิดอะไร ก็อยู่กับความหมกมุ่นครุ่นคิดแบบนั้น อย่างนี้เรียกมืด ไม่สามารถมองแล้วเกิดความรู้สึกขึนมาได้ว่า กายอยู่ในอิริยาบถไหน ลมหายใจกำลังเข้าหรือออก จะมืดๆๆ ลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเหลือแต่อารมณ์ที่ปรากฏ กัดกินใจ หรือครอบงำจิตใจของเรา

 

ความสว่าง เกิดขึ้น เมื่อคุณเริ่มรู้สึกว่า ตอนนี้ นั่งอยู่ในท่าไหน มีลมหายใจเข้า มีลมหายใจออก หรือแม้กระทั่งว่า รู้สึกเหมือนกับมีความฟุ้งซ่านลอยเอื่อยๆ เป็นสายหมอกอยู่ในหัว อย่างนี้เรียกว่า มีความสว่างเกิดขึ้นแล้ว

 

สว่างในระดับที่จะทำให้เกิดความเห็นว่า อิริยาบถปัจจุบันเป็นอย่างไร ลมหายใจเป็นอย่างไร อันนี้คือสว่างแล้ว เพราะหลุดจากความครอบงำแบบหยาบๆ ดิบๆ ที่ความฟุ้งซ่านจัด หรือการมีโทสะอย่างแรงกล้ามาครองงำจิตใจ

 

ลองนึกดูถึงตอนที่เรากำลังโกรธจัด จะหน้ามืดไปหมด แล้วคิดอะไรไม่ออก นึกอะไรไม่ออกเลย มีแต่ความหมกมุ่นอยู่กับศัตรูตรงหน้า หรือบางทีศัตรูอยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตร แต่ใจของเราอยู่ชิดใกล้กับเขานิดเดียว เหมือนกับเขามานั่งอยู่ในใจ

 

แบบนี้ นึกถึงกาย นึกถึงใจไม่ออกนะ มีแต่นึกถึงศัตรูที่อยู่ภายนอก ห่างออกไป หรือนึกถึงศัตรูที่อยู่ภายในในรูปของความทรงจำ

 

แต่พอเราเริ่มรู้สึกถึงอิริยาบถปัจจุบันได้ ไม่มีอารมณ์อื่นเข้าแทรก รู้สึกว่า กำลังนั่งหลังตรง คอตั้งหลังตรงอยู่ หายใจเข้าหรือหายใจออกอยู่ แค่นี้ถือว่าเป็นความสว่างระดับต้นแล้ว

 

ต่อเมื่อเราหลับตาไป แล้วรู้สึกเหมือนสว่างเรืองๆ สว่างจริงๆ อันนี้เป็นความสว่างแบบที่คุณเห็นแสงอื่นทั่วไปด้วยตาเปล่านั่นแหละ

 

จะเหมือนกับมีแสงสว่างเรืองๆ ออกมาจากภายในจริงๆ อันนี้ก็เรียกว่าเป็นการปรุงแต่งของความสว่าง ในระดับของสมาธิต้นๆ

 

แต่ความสว่างในแบบที่เจิดจ้าจริงๆ ยิ่งกว่าแสงพระจันทร์ ยิ่งกว่าแสงของสปอตไลท์นะ สว่างได้มากกว่านั้นจริงๆ จะรู้สึกออกมา และเห็นได้เฉพาะตนว่า จิตของเรามีความสว่างแบบนั้น แผ่ออกไปทุกทิศทุกทาง ก็เป็นความสว่างในระดับที่เกิดสมาธิตั้งมั่นแล้ว

 

คนอื่น บางทีจะเห็นด้วยตาเปล่าด้วยซ้ำ คือเหมือนกับมีอะไรแผ่ออกมาเป็นรัศมี เป็นออร่า ที่เวลาคนทำสมาธิได้แบบที่นิ่งมากๆ หรือว่ามีความเบิกบานมากๆ มีความสว่าง มีความผ่องใสมากๆ บางทีเห็นได้ด้วยตาเปล่าเลย ว่า ไม่เหมือนกับจิตธรรมดาทั่วไป ไม่ใช่คิดๆ นึกๆ อยู่แน่ๆ ต้องเกิดอะไรขึ้นสักอย่างกับเขา รู้สึกเหมือนกับว่า มีรัศมีอะไรบางอย่าง กว้างขวางออกมา ออกนอกตัวเขา แบบนี้ ก็เป็นมุมมองของภายนอก

 

แต่ว่าภายในจะรู้เลยว่า สว่างจัดจ้าขนาดไหน

____________________

ความสว่างที่ว่าหมายถึงความรู้ ที่มีลมเข้า-ออกใช่ไหมคะ ไม่ได้หมายถึงความสว่างเกิดขึ้นจริงๆใช่ไหมคะ?

รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน เหลือแต่ตัวรู้สังขารขันธ์

- ช่วงคำถาม คำตอบ

วันที่ 25 กันยายน 2564

ถอดคำ : เอ้

รับชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=YIRxTmym0BM

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น