- บางวันก็สว่าง บางวันก็มืด ขึ้นอยู่กับการรักษาศีลและความฟุ้งซ่านในแต่ละวันค่ะ
ดังตฤณ : เป็นคอมเมนท์ก่อนนั่งสมาธินะ เป็นโพลชุดแรกนะ
ถูกต้องเลยนะ
ถ้าหากว่า การพูดการจา วิธีคิดของคุณเป็นไปในแบบที่ มีสติ อยู่ในกรอบของศีล
คุณจะเห็นได้ชัดว่า สะท้อนออกเดี๋ยวนี้เลย ไม่ต้องรอชาติหน้านะ
เวลาทำสมาธิ
จะเวิร์ค จะได้ผล จะประสบความสำเร็จได้ง่ายนะ แต่ถ้าหากว่าวันไหน ปล่อยให้ความคิด
คำพูด พล่านไป พร่าเลือนไป แบบนี้ สมาธิก็จะพร่าเลือนตามไปด้วย
-
ดีขึ้นค่ะ ลมหายใจเสมอกัน รู้ถึงกายด้วยค่ะ
ดังตฤณ : คือหลังจากทำท่าที่สองแบบใหม่นะครับ ถ้าทำถูก
จะเกิดปีติ สุขขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพราะว่าเอาง่ายๆ เลย เนื้อตัวจะผ่อนคลายสบาย
แล้วลมหายใจยาวขึ้น แบบที่ไม่อึดอัด ไม่เครียด ไม่เกร็งนะ
-
รู้สึกถึงลม_กาย นั่งมีความคิดแทรกเป็นระยะค่ะ
ดังตฤณ : พอรู้ว่า กายชั้นหนึ่ง เลเยอร์หนึ่ง
ลมหายใจก็อีกเลเยอร์หนึ่ง ความคิดก็อีกเลเยอร์หนึ่ง จริงๆ มีประโยชน์
คือถึงแม้ว่าจะยังไม่เกิดปีติ ไม่เกิดสุข ไม่เกิดสมาธิอะไรขึ้นมา แต่เกิดปัญญา
สามารถเห็นว่าจริงๆ แล้ว ลมหายใจก็อย่างหนึ่ง ร่างกายก็อย่างหนึ่ง แล้วความฟุ้งซ่านก็อย่างหนึ่ง
แค่นี้ก็มีความมั่นใจขึ้นมาได้แล้วว่า
เราสามารถเห็นกายใจโดยความเป็นขันธ์ 5 ได้
เป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่ทิศทางที่ถูกต้องแน่นอน
-
รู้สึกเหมือนมี ?
เป็นคนไปดู ไปรู้อาการ,ลม
ดังตฤณ : ตัวนั้นแหละ ที่เรียกว่า จิต ตัวที่รู้
ตัวที่ดู คือจิตนะครับ
-
ปกตินั่งขัดสมาธิค่ะ วันนี้ มานั่งเก้าอี้ รู้สึกว่ามันนั่งสบายกว่า
ยกแขนหายใจโล่งได้ดีกว่า จริงๆ ค่ะ แต่พอทำนานๆ เข้า ก็รู้สึกไม่อยากยกแขนกำกับ
อยากจะตามดูแต่ลมหายใจอย่างเดียวค่ะ
ดังตฤณ : ถ้าหากว่าเราต้องการประมาณนี้นะ
สำหรับภาพง่ายๆ
คร่าวๆ ที่เรามาทำความเข้าใจร่วมกัน ไม่ใช่เห็นแบบนี้เป๊ะนะ แต่ประมาณนี้ว่า
ร่างกายเหมือนกับถุงลม ที่โป่งออกได้ แล้วก็ยุบเข้ามาได้
อย่างอื่น
จะท่าทาง จะหยุด หรือจะยกก็ตาม ไม่มีความหมาย เราต้องการสิ่งนี้เป็น แก่นสารนะครับ
ในเบื้องต้นของการทำสมาธิแบบอานาปานสติ
ถ้าหากว่าเห็นอย่างนี้ได้
โอเคหมด ใช้ได้หมดนะ
ที่ทำเสียงสติมาก็ดี
หรือท่าใช้มือไกด์ก็ตาม เราต้องการสิ่งนี้ (เห็นร่างกายเป็นถุงลม) เป็นหลัก
-
เวลาทำท่าที่หนึ่ง และท่าที่สองไปสักพัก มักจะมีน้ำตาซึมออกมาแทบทุกครั้ง
แต่ยังรู้สึกสบาย รู้ลมได้ต่อเนื่องตลอดทั้งสายครับ ส่วนความสว่างที่เกิดขึ้น
ไม่ได้สว่างขาวผ่องใส แต่เป็นแสงนวลๆเหมือนสีเปลือกไข่ครับ
ดังตฤณ : จัดเข้าข่ายที่เราได้ดูกันในแอนิเมชันนะครับ
คือจะสว่างเรืองๆ ออกมา นวลๆ เกินกายออกมาหน่อยๆ แต่ยังไม่ถึงขั้นสว่างจ้า
แต่ก็มีประโยชน์มากแล้ว
เพราะว่า ถ้าสว่างนวลแบบนี้ โดยมากแล้วถ้านานพอ ทำให้มีความเป็นอย่างนี้ไปได้นานพอ
ไม่นานจิตจะเงียบ คุณจะรู้สึกถึงจิตที่เงียบ เงียบจากความฟุ้งซ่าน
เงียบจากความรู้สึกว่าจะเอาอะไรให้ตัวให้ตน
จะมีความตั้งอกตั้งใจดูลมหายใจด้วยความรู้สึกเป็นสุข
และมีความพอใจอยู่แค่นี้ ไม่ได้ต้องการอะไรอย่างอื่นแล้ว เรียกว่ามีปีติ
มีสุขขึ้นมาอ่อนๆ แล้ว ถ้าหากว่ามาถึงขั้นนี้ได้
-
พลังงานความร้อนในร่างกายมากขึ้น.. ค่ะ
ดังตฤณ : นั่นเป็นการปรับธาตุให้อุ่นขึ้นนะ
ถ้าคุณรู้สึกว่ามีสมาธิ รู้สึกว่า ตัวอุ่นแบบดีๆ คือรู้สึกดีนี่ ความอุ่นนั้น
จริงๆ แล้วก็นับว่าเป็นความอุ่นที่มีประโยชน์นะครับ เพราะแสดงถึงพลังงาน
แสดงถึงความกระตือรือล้น
แสดงถึงความพร้อมที่จะดำเนินจิตไปบนเส้นทางของการพิจารณาธรรม
-
สาธุค่ะ วันนี้ทำสมาธิแล้วรู้สึกตัวเบา ใจเบามากเลยค่ะ หลังจากไม่สามารถทำสมาธิตามอาจารย์ได้ใน
3 สัปดาห์ที่ผ่านมาเพราะปอดติดเชื้อรา และไม่สามารถหายใจลึกๆยาวๆได้ ดีใจมากค่ะที่วันนี้กลับมาทำสมาธิได้แล้ว
ดังตฤณ : ดีใจด้วยนะครับ คุณดีใจผมก็ดีใจนะ
เพราะว่ายิ่งเราทำกันได้มากขึ้นเท่าไหร่
ก็ยิ่งมีการสืบทอดแก่นของพระศาสนาเพิ่มขึ้นเท่านั้น
ใครจะติดขัดอะไร
หรือว่าหลงสะดุดอะไรไปบ้าง แต่อย่างน้อยกลับเข้าทางได้
เป็นเรื่องน่ายินดีทั้งสิ้นนะครับ
รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน
ตอน เหลือแต่ตัวรู้สังขารขันธ์
-
ช่วงรวมฟีดแบค ช่วงโพลที่ 1
วันที่
25 กันยายน 2564
ถอดคำ
: เอ้
รับชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=JUyCQBIWSIU&t=143s
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น