วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2563

(เกริ่นนำ) ฝึกรู้อิริยาบถที่ตั้งลมหายใจ


ดังตฤณ :  สวัสดีครับทุกท่าน พบกับรายการปฏิบัติธรรมที่บ้านนะครับ คืนวันเสาร์สามทุ่ม

ทุกท่านครับ ผมอยู่ในโลกนี้มาเกินครึ่งศตวรรษก็เพิ่งมีปีนี้แหละ ที่ได้เห็นได้ประจักษ์กับประสบการณ์ตัวเองว่า ความกลัวตายทั้งโลกที่เกิดขึ้นพร้อมๆกันทั่วทุกมุมโลกมันเป็นยังไงนะครับ

ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ .. เอาตามความรู้สึกเนี่ยเป็นปีที่แย่ แล้วก็เป็นปีที่คนที่ไม่เคยกลัวตายมาก่อนก็อาจจะกลัวกันคราวนี้เอง

คนที่เคยมีความรู้สึกว่าไปเดินห้างนี้ชิลล์ๆ(Chill)เหมือนบ้านที่สอง ก็เริ่มจะกลายเป็นความรู้สึกแหยงๆ เกิดความรู้สึกเหมือนกับเข้าไปในที่ๆมีการรบราฆ่าฟัน หรือว่ามีแหล่งแพร่เชื้อ หรือว่ามีอะไรที่น่ากลัว ไม่ใช่สภาพแวดล้อมที่ชิลล์ๆเหมือนแต่เดิมอีกต่อไป แล้วมันไม่ใช่เฉพาะเมืองไทย มันเกิดขึ้นทั่วโลกนะครับ

บรรยากาศแบบนี้ ถ้าหากว่าเราไม่ได้มีต้นทุนทางธรรม ก็จะรู้สึกว่าโลกนี้น่ากลัว โลกนี้ไม่น่าอยู่แล้ว หรือว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของเรารึเปล่า ควรจะทำอะไรให้มันคุ้มค่ากับวันสุดท้ายแค่ไหน

ความรู้สึกที่มันเกิดขึ้นพร้อมๆกันแบบนี้นะ มันหาปีอื่นมาประชุมความรู้สึกเดียวกันไม่ได้นะครับมันยากมาก

ทีนี้ถ้ามองตามความรู้สึกแบบพุทธนะครับ สมมติว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้าย ต่อให้วันนี้เป็นวันสุดท้าย ถ้าหากว่าคุณมีความเข้าถึง หรือว่ารู้ว่าจะเอาจิตเอาใจไปฝากไว้กับอะไรที่คุ้มที่สุด

คุณจะรู้สึกว่าวันนี้วันสุดท้ายเป็นวันที่คุ้มกว่าร้อยปีที่คุณไม่ได้ฝากจิตฝากใจไว้กับสิ่งที่ควรฝาก เหมือนอย่างพระธรรมบทที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้นะครับว่า มีอายุมาร้อยปีไม่สู้คนที่อยู่มาแค่หนึ่งวันแต่รู้ธรรมะของพระองค์ ธรรมะที่พระองค์ค้นพบแล้วก็ชี้ทางให้ คือจริงๆแล้วเนี่ยไม่มีใครเป็นเจ้าของนะครับธรรมะเนี่ย

ธรรมะเป็นของกลางแต่ต้องอาศัยมหาบุรุษที่มีบารมีระดับพระพุทธเจ้า ถึงจะค้นพบโดยพระองค์เอง แล้วก็สามารถนำมาระบอกต่อ ทีนี้ตรงนี้มันเป็นเหมือนกับมาตรวัดได้

ถ้าหากว่าคุณปฏิบัติธรรมตามแนวทางที่พระพุทธองค์ชี้ แล้วเกิดความรู้ คืออาจจะไม่ได้รู้แจ่มแจ้งเหมือนกับพระอรหันต์ แต่ค่อยๆเขยิบไปตามลำดับ แล้วเกิดความรู้สึกว่า เออมันทำได้นะ ปีนี้ ๒๕๖๓ ยังทำการเจริญสติแบบที่พระพุทธเจ้าสอนเมื่อสองพันกว่าปีที่แล้วได้อยู่ ยังได้ผลอยู่แล้วก็ยังเป็นพยานยืนยันให้พระพุทธเจ้าได้ว่า ถ้าเห็นแบบนี้ แม้กระทั่งอยู่ที่ต้นทางมันก็คุ้มค่าชีวิตแล้ว

หนึ่งวัน ขอแค่หนึ่งวัน ขอเอาวันสุดท้ายเลยก็ได้ สมมติว่าอะไรๆมันจะหายไปหมดในวันพรุ่งนี้ ขอแค่วันนี้เราทำอย่างที่พระพุทธเจ้าสอนได้เนี่ย คุ้มแล้วกับชีวิตนี้ทั้งชีวิตนะครับ

วันนี้เราก็มาต่อกันด้วยเรื่องของการฝึกรู้อิริยาบถที่ตั้งลมหายใจ คือเราเริ่มต้นจากการหายใจยาวเป็น รู้ว่าลมหายใจเข้าออกที่กายนี้ แล้วก็นำความรู้สึกเป็นสุขเวลาที่หายใจยาวมาให้กับร่างกายนะครับ แล้วจิตใจน่ะบางทีมันก็ฟุ้งบ้าง หรือว่าสงบบ้าง ถ้าหากว่ามันมีความสุขอยู่กับลมหายใจยาวมันก็สงบลง

แต่ถ้ามันมีความทุกข์ มันมีความอึดอัด มันมีความรู้สึกไม่ดี จะกับลมหายใจ หรือว่ากับเรื่องราวที่จิตคิดจิตค้นขึ้นมาเองเนี่ยนะครับ พอมีความทุกข์แล้ว ความฟุ้งซ่านมันก็จะถูกผลิตออกมาต้นตอความทุกข์นั่นแหละ แล้วก็เกิดความรู้สึกยุ่งเหยิง ควบคุมจิตใจยาก

แต่ถ้าหากว่าเราเห็นว่าลมหายใจยาว มันทำให้ความคิดสามารถที่จะเบาบางลง หรือสงบระงับลงได้เนี่ย เราก็จะมีแก่จิตแก่ใจที่จะสังเกตต่อไปว่า ความไม่เที่ยงที่บอกว่ามากับการแสดงตัวของลมหายใจก็ตาม ความสุขก็ตาม หรือว่าความฟุ้งซ่านก็ตามเนี่ย มันยิ่งเห็นก็ยิ่งมีความรู้สึกถอยออกมาจากอาการยึดมั่นถือมั่น อันนี้ถ้าหากว่าใครทำได้ถึงตรงนี้แล้ว ก็จะรู้สึกว่าต่อให้วันนี้เป็นวันสุดท้าย เราก็มีดีไปตายนะครับ มีดีพร้อมตายแล้ว

วันนี้เรามาคุยกันเรื่องของอิริยาบถอันเป็นที่ตั้งของลมหายใจ ซึ่งเรารู้มาแล้วนะว่า มันเกิดลมหายใจยาวบ้างสั้นบ้างขึ้นมาได้จริงๆ แล้วถ้าหากว่า เรามีสติพอที่จะรู้ลมรู้สุขแล้วก็รู้จิตสังขารหรือความคิดฟุ้งซ่านได้เนี่ยนะครับ การที่กลับมาย้อนกลับมาเห็นอิริยาบถอันเป็นที่ตั้งของสิ่งเหล่านั้นเนี่ยมันง่ายนิดเดียว

วันนี้นะครับก็ใช้หูฟังแบบเดิม แต่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำความเข้าใจอย่างเดียวนะครับ มันทำตามกันไม่ได้ เพราะว่าต้องมีการเดินต้องมีการลุกนั่นอะไรต่างๆ อันนี้เนี่ยจะเป็นการที่เราแสดงภาพเพื่อให้เกิดความเข้าใจถึงภาพรวมนะครับ แล้วเอาไปทำเอง

เสียงสติจะช่วยให้สมองของคุณอยู่ในโหมดจำแม่นขึ้น เพราะว่าเราจะไปโยงกับครั้งก่อนๆด้วย ถ้าหากว่าใครทำตามมาแล้วนะครับ จะเห็นว่าเสียงสติเวลาที่ทำให้จูนให้สมองของเราสงบลง มีความพร้อมเปิดรับพร้อมที่จะเรียนรู้ แล้วก็ดูเข้ามาในกายใจของตัวเอง มันจำได้แล้วว่าจะเริ่มต้นมุมมองมาจากจุดไหน มาจากจุดที่กำลังคอตั้งหลังตรงอยู่นี่แหละ มาจากจุดที่กำลังหายใจเข้าหายใจออก มาจากจุดที่เรากำลังรู้สึกผ่อนคลายสบายเป็นสุข หรือว่ารู้สึกอึดอัด ต่อให้อึดอัดแล้วรู้ก็มีสตินะครับ แต่ถ้าอึดอัดอยู่แล้วสมมติให้มันเป็นสุข หรือว่าพยายามให้มันมีความสุขยื้อความสุข หรือบางทีดึงความสุขเข้าตัว อันนี้ไม่ใช่สติ อันนี้เป็นกิเลส อันนี้เป็นตัณหาเป็นภวตัณหานะครับ

แต่ถ้าหากว่าเราขณะนี้มีความผ่อนคลายสบายดีอยู่ แล้วก็มีความพร้อมที่จะดูอิริยาบทอันเป็นที่ตั้งของลมหายใจเนี่ย มันจะเริ่มจากอิริยาบถนั่ง แต่เดี๋ยวพอดูคลิปจะมีสอนทำสมาธิด้วยการเดิน หรือพูดง่ายๆว่าเดินจงกรมให้เป็นสมาธิขึ้นมานะครับ

ตอนนี้ถึงคุณจะยังไม่ได้ทำตามก็ตาม แต่ว่าการที่ใจของเราอยู่ในพร้อมรู้ ฟังไปด้วยดูไปด้วยเนี่ย มันจะจำขึ้นใจแล้วเอาไปเดินตามเองในภายหลังได้นะครับ

พอเห็นกายได้อย่างมีสมาธิเนี่ย คราวหน้าก็จะโยงเข้ากับเรื่องวิธีเห็นกายเป็นกระดูกนะครับ ซึ่งไม่ยากอย่างที่คิดนะครับ เอาง่ายๆเลยแค่คุณหายใจได้อย่างมีสมาธิ เห็นชายโครงมันกระเพื่อมพะเยิบพะยาบเนี่ยนี่ก็เรียกว่าเป็นการที่จิตเนี่ยเข้าไปสัมผัสชัดรู้ถึงความมีกระดูกอยู่แล้ว ถ้าหากว่าจิตใสใจสบายขึ้นกว่านั้นต่อเนื่องไปอีกสักพักนึงมันก็เห็นได้สบายๆ ไม่ใช่เรื่องลึกลับหรือต้องใช้ความสามารถพิเศษอะไรเลยนะครับ

ทีนี้คุณก็จะเห็นนะว่า ลำดับของสติปัฏฐาน๔ ที่พระพุทธเจ้าสอนเนี่ย มาเริ่มจากการเห็นลมหายใจ เห็นเวทนา เห็นจิต แล้วก็สามารถที่จะเจาะลึกลงไปได้เรื่อยๆไม่ใช้ของยากนะครับ แล้วก็คือไม่ใช่ของง่ายหรอก แต่ว่าไม่ใช่ของยากเกินเอื้อม แล้วก็ไม่เกินวิสัยที่เราๆท่านๆที่ยังอยู่ในเมืองเนี่ย จะทำให้เห็นได้ด้วย

เพราะอย่างตอนนี้ก็มีเสียงสติช่วย ดึงให้สมองช้าลงคลื่นสมองช้าลง เสร็จแล้วความพร้อมที่จะรู้พร้อมที่จะโฟกัสมันก็มากขึ้น สมัยก่อนต้องอาศัยความวิเวกของป่า ตอนนี้เราก็เอาเครื่องทุ่นแรงแบบคนที่อยู่ในยุคไอที เอาเทคโนโลยีมาประยุกต์กัน

เอาล่ะครับ ต้องใช้หูฟังนะ ความยาวประมาณแค่ห้านาทีเท่านั้น สำหรับท่านที่ยังไม่เคยรับชมรับฟังมาก่อนนะครับ เสียงสติเป็นเทคโนโลยีทางเสียงต้องใช้หูฟังนะครับ แอล(L)เข้าซ้าย อาร์(R)เข้าขวาให้ถูกต้องด้วยนะครับ แล้วก็ดูไปด้วย อันนี้มันจะเป็นแอนิเมชั่นประกอบไปด้วยเพื่อความเข้าใจว่า เราจะเจริญสติในแบบที่อาศัยอิริยาบถเดิมเนี่ยมาทำสมาธิได้อย่างไรนะครับ โอเคครับเริ่มเลยนะครับ

---------------------------------------------------------------------------------

ผู้ถอดคำ                      แพร์รีส แพร์รีส
วันที่ไลฟ์                  ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ (รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน)
ตอน                             (เกริ่นนำ) ฝึกรู้อิริยาบถที่ตั้งลมหายใจ
ระยะเวลาคลิป           ๑๑.๑๒ นาที
รับชมทางยูทูบ          https://www.youtube.com/watch?v=j3gq_KKYhgI&list=PLmDLNhxScsWPHpIdf0LAQiQM1j9ZebEMx&index=28&t=0s



** IG **

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น