วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2564

Q05ระหว่างรู้ว่าไม่มีตัวเรา กับ รู้สึกตัวเบา ควรไปทางไหน

 ดังตฤณ : ตรงนี้สำคัญ เป็นความเข้าใจที่สำคัญ นี่คือเบสิคอีกข้อหนึ่งนะ

 

แต่ละครั้งจะไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน และอย่าไปตัดสินว่าตรงไหน ใช่แล้ว .. จะขึ้นกับการปรุงแต่ง ณ เวลาหนึ่งๆ นะครับ ให้เป็นไปตามนั้น ให้เกิดขึ้นตามนั้น แล้วก็รับรู้ตามนั้น

 

อย่างถ้าหากว่าครั้งนี้รู้สึกเบาๆ สบายๆ ไม่มีตัวเรา นี่ก็ให้มีความเข้าใจว่าจิตเขาเลิกยึดมั่นถือมั่น จากเดิมที่มีอาการกำ กลายเป็นอาการแบ

 

คราวที่แล้ว มีสมาธิพุ่งตรงมาก มีกำลัง มีน้ำหนัก เหมือนลูกศรที่แล่นไป นั่นก็คือมีน้ำหนักไปในทาง วิตักกะ หรือวิจาระ

 

นี่ รู้แบบนี้ รู้แบบมีความเข้าใจประกอบว่ามันต่างไปด้วยเหตุปัจจัยอะไรได้บ้าง แต่ไม่ใช่ไปตัดสินว่า ฉันจะเอาอย่างนี้ถึงจะดีนะ แบบนั้นจะรู้ไม่รอบ แล้วก็ไปกักไว้ fixed ไว้ตายตัว เจาะจงตายตัวว่า ฉันจะเอาสมาธิแบบนี้เท่านั้น

 

จริงๆ การทำสมาธิจะต่างไปได้เรื่อยๆ การเจริญสติ ก็ยืนพื้นอยู่บนฐานของสมาธิ มีคุณภาพแบบไหนให้สติยืน มันก็ใช้คุณภาพแบบนั้นในการรู้ในการเห็น

 

การที่เรามองว่าจิตแบบนี้หนักๆ ไม่มองว่าเป็นวิธีทำสมาธิที่ถูก หรือผิด .. นี่ ตรงนี้ใกล้เคียงที่จะเห็นความจริงมากกว่า ว่าความหนักๆ นั้น มีกำลัง มีน้ำหนักนั้น ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตน

 

แต่ถ้าเราไปยึดปุ๊บว่า นี่เป็นวิธีที่ฉันจะยึดไว้ ให้เกิดขึ้นแบบนี้ ตัวนี้ มีของเราแล้ว มีภาวะของเราเกิดขึ้นมาแล้ว มีน้ำหนักขึ้นมาทางใจแล้วว่า ฉันจะยึดอันนี้ไว้

 

อะไรก็แล้วแต่ที่ล่อให้หลง ล่อให้ยึด อย่าไปหลงตามมัน อย่าไปยึดตามมัน

 

ข้อสรุปง่ายๆ

 

__________________________

ครั้งนี้รู้สึกเบาสบายๆ รู้ตามจริงว่าไม่มีตัวเรา ต่างกับครั้งที่แล้วที่ รู้สึกมีสมาธิพุ่งตรงมาก ตัวเบาหวิวชั่วขณะ ควรไปทางไหนมากกว่ากันคะ?รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน ก้าวไกลไม่ลืมก้าวแรก

ช่วงถาม-ตอบ

วันที่ 29 สิงหาคม 2564

ถอดคำ : เอ้

รับชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=UfmaQSFuJyA

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น