ดังตฤณ : พอเราได้เกิดอารมณ์ที่เป็นกุศล เวลามาสวดมนต์ จะรู้สึกถึงความว่าง รู้สึกถึงความไม่วอกแวก แล้วก็มีกายนั่ง คอตั้งหลังตรงเป็นศูนย์กลางการรับรู้
พอสวดมนต์ออกไป
ก็เหมือนแก้วเสียงของเรามีโฟกัสที่ถูกต้อง
แก้วเสียงของเรา ก็เป็นพลังส่วนหนึ่งเหมือนกัน
ถ้าหากว่าได้สมดุล ถ้าหากว่าเปล่งเสียงชัดถ้อยชัดคำ เต็มปากเต็มคำออกไป
ถึงจุดหนึ่ง คุณจะรู้สึกว่า มีพลังเกิดขึ้นตรงคอ
ถ้าเป็นมุมมองแบบพวกจักระ
คือจักระที่คอจะดีขึ้นมา เต็มขึ้นมา มีพลังขึ้นมา ตอนนี้คุณจะรู้สึกว่า หัวโล่ง
ตัวโล่ง แล้วก็มีกำลังวังชา
เสียง ก็มีส่วนช่วยให้เกิดความรู้สึกตรงนี้
เป็นส่วนประกอบ เป็นส่วนร่วมที่จะทำให้เกิดสติ ในแบบที่สัมผัสความว่างได้กว้างใหญ่
คราวนี้ เราจะมาต่อด้วยการนั่งสมาธิ ตอนนี้อะไรๆ
กำลังดีหมด ถ้าต่อยอดด้วยจิตแบบนี้ เอาจิตแบบนี้ไปต่อยอด ไม่ว่าจะเป็นการนั่งสมาธิ
หรือเจริญสติ ทุกอย่างจะดีหมด
วันนี้จะเปิดเสียงสติ แบบไม่มีดนตรีนำ เอาแค่ 12
นาที และหลังจากนั้น เราจะมาเจริญสติกันต่อนะครับ
จิตที่เป็นสมาธิแล้ว พอมาเจริญสติ
จะเห็นกายใจเป็นรูปนามชัดมาก แล้วก็ถ้าหากว่าคุณเจริญสติได้ถูก ตามที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้
ปูทางไว้ จะมีความเบาแบบหายไปเลย ความรู้สึกในตัวตน อุปาทานอะไรทั้งหลาย
คือไม่ใช่ว่าร่างกาย
หรือภาวะจิตใจคุณหายเป็นอากาศธาตุ แต่จะรู้สึกว่า มีความเบาแบบไม่ยึด
มีความเบาของจิตที่รู้แบบไม่มีบุคคล รู้แบบไม่มีตัวตน หายใจแบบไม่มีใครหายใจอยู่
นั่งแบบที่ไม่มีบุคคลเป็นผู้นั่ง มีแต่กายนั่งอยู่
เดี๋ยวเริ่มฟังเสียงสติ .. การรับรู้นะครับ
เรารู้สึกถึงกายนั่ง คอตั้งหลังตรงแบบนี้ แล้วก็หายใจเป็นหลัก เสียงสติ
ให้เป็นแบคกราวด์เฉยๆ
เมื่อกี้ผมลืมไปนิดหนึ่ง ก่อนที่เราจะนั่งสมาธิ
เพื่อให้เป็นกำลังใจแก่กันและกัน เพื่อให้เกิดการรับรู้ร่วมกัน คำถามง่ายๆ
โพลก็คือว่า
Poll : ตอนนี้ คุณรู้สึกว่างไหม?
‘ว่าง นิ่ง คงที่ /ว่าง นิ่ง
ไม่คงที่/ว่าง สลับวุ่น/ไม่ว่าง ยังวุ่น
ช่วยบอกด้วยว่าว่างแบบไหน มี 4 choices
ให้เลือก
ถ้าหากคุณรู้สึกอย่างไรอยู่ แล้วตอบโพลไป
ก็จะได้มามีความรับรู้ร่วมกัน จิตจะได้เชื่อมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวว่า
เรากำลังร่วมอยู่กับความว่างแบบนี้ พลังความว่างแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องตอบให้ดีนะ
ตอบตามที่เกิดขึ้นจริงๆ เอาตามตรง
อย่างไรก็ตาม พอรู้อยู่ตามตรงนี่นะครับ
ว่าเป็นอย่างไรอยู่ แล้วเอามาแชร์กัน ก็เป็นการเชื่อมใจเข้าหากันอยู่แล้วนะ
ตอนนี้ผลออกมานะครับ บอกว่า
ว่าง นิ่ง แล้วก็คงที่ 44%
มากที่สุด 339 คน
ว่าง นิ่ง ไม่คงที่ 38%
ว่าง สลับวุ่น 17%
รวมแล้ว ว่าง นิ่งคงที่ และ ว่างไม่คงที่
คือมีความรู้สึกถึงความว่างอย่างชัดเจน เกินกว่า 80% อย่างที่ผมกะไว้ว่าจะได้ประมาณนี้
แต่คนที่ไม่ได้ .. แล้วตอบตามจริง
ถือว่าคุณให้ความร่วมมือแล้ว ก็จะมาอยู่ในเครือข่ายของความว่างนี้ด้วยกัน
เดี๋ยวผมจะทำแอนิเมชันเป็นคลิปหนึ่งให้โดยเฉพาะ
เกี่ยวกับลำดับ คุณจะได้ไม่ลืม จะย้อนกลับมาดูก็ได้ หรือจะรอแอนิเมชัน
เดี๋ยวก็จะมีตามมา
ถือว่าประสบความสำเร็จในการมารู้จักพลังความว่างด้วยกัน
และพลังความว่างนี้ ถ้าคุณทำชำนาญแล้ว ครึ่งนาทีเท่านั้นแหละ
ที่บอกสามนาที
เพราะเผื่อให้คนที่ติดใจอยู่ในภาวะใดภาวะหนึ่งนานๆ แล้วรู้สึกว่า
อยากจะแช่อยู่ตรงนั้น .. แต่ไม่เกินสามนาที คุณจะมีความว่างแบบนี้ขึ้นเสมอ
ถ้าทำได้ครั้งแรก ครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งต่อๆ มา
สอง สาม สี่ จะยิ่งดีขึ้น จะยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะเราอาศัยคลื่นชีวะ
หรือว่าภาวะทางกาย ที่มีความมั่นคงอยู่ มาเป็นตัวปรุงแต่งจิตนะครับ
ถือเป็นการวอร์มอัพก่อนนั่งสมาธิ ก่อนสวดมนต์
ถือเป็นการที่เราปรับจิตปรับใจให้พร้อมแผ่เมตตา เพราะจะรู้ทิศรู้ทางกว้างขวางขึ้น
แทนที่จะแผ่เมตตาแบบไม่รู้ว่าเขาแผ่กันอย่างไร
แผ่ไปทิศเบื้องหน้า เบื้องข้าง เบื้องหลัง หรือ 360 องศา มีประสบการณ์อย่างไร ไม่ต้องรอถึงตรงนั้น
เอาแค่มาอยู่กับความว่างให้ได้ ความเครียดจะหายเลยนะ
ที่ใครจะเครียดมาจากเรื่องอะไรก็ตาม
คราวนี้ เรามาฟังเสียงสติ อย่าลืมนะครับ
คอตั้งหลังตรง เป็นหลักของสตินะ สังเกตลมหายใจเข้าออกเป็นหลักนะครับ
ให้เสียงเป็นแค่แบ็คกราวด์เฉยๆ
____________________
รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน
ตอน คลายเครียดใน ๓ นาที
-
หลังสวดมนต์
วันที่
24 กรกฎาคม 2564
ถอดคำ
: เอ้
รับชมคลิป :https://www.youtube.com/watch?v=Y3XvHMHHWd0
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น