วันอังคารที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

Q09ฟังเสียงสติช่วงท้าย อึดอัดเหมือนจมน้ำ

ดังตฤณ : ส่วนใหญ่ที่อึดอัด หรือว่าใจเต้นแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคล้ายจะจมน้ำ เป็นเพราะว่าจิตของคุณ เสียดุล

 

คือตอนที่คุณรู้สึกเหมือนสบายผ่อนคลาย แล้วจิตตั้งตรง จะเห็นได้ว่าใจ จะเปิดนะครับ

 

แต่เมื่อไหร่ที่คุณพลาด แม้แต่แค่จังหวะเดียว ที่ใจเหมือนจะกดลงมา แล้วภาวะทางกายมีความเกร็งขึ้นโดยไม่รู้ตัว จะสะสมไปอีกทางหนึ่งได้เลย คือกดตัวเองให้รู้สึกอย่างที่คุณบอก คือ จมน้ำ

 

คราวหน้า พอมีอาการคล้ายๆ จะจมน้ำขึ้นมา หรือว่ามีความรู้สึกอึดอัดขึ้นมา ง่ายๆ เลย เชิดคางขึ้นนิดหนึ่ง และหายใจยาวขึ้น ดึงให้ความรู้สึกกลับมาตั้งตรงอยู่กับความรู้สึกวางเฉย มีความรู้สึกใจแห้งสะอาด ไม่มีความกำ ไม่มีความเกร็ง

 

หรือจะเอาอย่างนี้ก็ได้ ถ้าหากว่ารู้สึกว่าดึงจิตเฉยๆ ไม่พอ สังเกตดูว่าฝ่าเท้า ฝ่ามือ ผ่อนคลายอยู่ไหม

 

โดยปกติ ถ้าเรามีความรู้สึกเหมือนอึดอัดหรือจมน้ำอยู่ ฝ่าเท้าฝ่ามือจะอยู่ในสภาพที่ไม่ผ่อนคลาย แต่พอเราสำรวจ แล้วฝ่าเท้าฝ่ามือมีอาการตึงๆ เกร็งๆ หรือกำๆ อยู่ แล้วเราผ่อนคลายออกได้ ก็จะสบายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ย้ำอีกที .. หัดนั่งแบบเชิดคางนิดๆ ให้ชินนะครับ แล้วก็คอตั้งหลังตรงสำคัญที่สุดเลย

 

ถ้าหากว่า ทำทั้งหมดที่ผมว่าไปแล้วยังไม่ดีขึ้น ยังไม่หาย อาจหยุดพัก ออกมาเดินเล่น ออกมาอะไรให้สบาย แล้วค่อยกลับไปนั่งใหม่ดู เพื่อที่จะให้เกิดการรีเซ็ตทางสภาวะทั้งกายทั้งใจ

 

พอกลับไปใหม่ เราจะจับจุดถูกว่าเริ่มพลาดตอนไหน แต่ถ้าตอนกำลังนั่งอยู่ บางทีจะไม่รู้ จะกลมกลืนไปหมดนะครับ

 

หมอบี : ขอเสริมนิดหนึ่งแล้วกันครับว่า ส่วนหนึ่งที่ .. จริงๆ ก็โอเคนะครับ อาจมีเรื่องเวลาที่รู้สึกว่าอาการเหวี่ยงๆ เหมือนที่บอกว่าใจเต้นแรง คล้ายจมน้ำอะไรพวกนี้ ส่วนหนึ่ง .. พื้นฐานเบื้องต้นก่อนที่จะมาฝึกจิตฝึกใจ อาจเป็นอีกกรณีหนึ่งที่แบบว่า .. อยากให้เข้าใจเรื่องสัมมาทิฏฐิอย่างถูกต้องเพิ่มเข้าไปอีกนิด

 

บางทีการที่เรามองภาพ หรือเข้าใจเรียนรู้จากหลายๆ ศาสตร์ ทั้งตะวันตก ตะวันออก ก็อาจมีบางเรื่องไม่ค่อยตรงกันนัก อย่างเช่นว่า ตะวันตกอาจสอนให้เราคิดบวกๆๆ แต่ในความเป็นจริง ในทางพุทธ เวลาจะทำจิตทำใจให้ภาวนาได้ อาจต้องปรับจิตปรับใจมา ไม่ใช่ทำให้เป็นบวก แต่ว่าทำให้รู้เห็นตามความเป็นจริง คือรู้สภาวะ ณ ปัจจุบันจริงๆ จะทำได้ดีกว่า จะไม่ฟุ้ง ไม่กระเพื่อมมาก ไม่รู้สึกจมมาก

 

ดังตฤณ : คือถ้าพยายามบวกมากไป จะกลายเป็นแรงดัน ถูกไหม (หมอบี : ใช่ครับ แบบนั้น) คือเรื่องมองบวก คิดอะไรเป็นบวกให้หมด ก็อย่างที่หมอบีว่าจริงๆ นะ จะต่างกับแนวคิดแบบพุทธ

 

แนวคิดแบบพุทธ ไม่ใช่มองบวก แต่มองตามความเป็นจริง นี่เป็นคอนเซปต์ที่หมอบีพูดชัดเจนมาก แล้วเป็นจุดที่หลายๆ คนสับสนอยู่ ระหว่างศาสตร์สองศาสตร์

 

แล้วผมขอเสริมนิดหนึ่งนะ บางทีถ้าฟังเสียงสติใหม่ๆ แรกๆ ในช่วงท้ายๆ จะดึงคลื่นสมองขึ้นสูงนะ สำหรับคนที่ยังไม่คุ้น อาจใจเต้นได้ หรือว่ามีความรู้สึกเหมือนกับถูกเร่งขึ้นมาให้ตื่นมากๆ นี่นะ ขอให้สังเกตตัวเองด้วยนะครับ ทำแต่ละครั้ง ใจของเราช่วงท้ายๆ ของเสียงสติ จะเคลียร์ขึ้นๆ ไหม

 

ถ้าเคลียร์ขึ้น อันนั้นคือ pattern ของสมองคุณถูกปรับจริงๆ เลยนะ สังเกตตัวเองในชีวิตประจำวันได้เลย จากที่บางทีเข้าโหมดหมกมุ่น หรือเข้าโหมดที่จะไปสนใจเรื่องไร้สาระอะไรก็ตาม จะไม่อยาก จะอยากมีจิตเคลียร์ อยากมีจิตที่สบายๆ โล่งๆ มากกว่า

 

ตรงนั้นหมายความว่า เสียงสติ ไปคลิกกับคุณแล้ว แล้วก็ปรับให้ Pattern การทำงานของสมอง รูปคลื่นสมองของคุณ จะเริ่มเปลี่ยนจริงๆ ลงไปถึงชีวิตประจำวัน จากเดิมที่ต้องนั่งสมาธิถึงจะรู้สึกเคลียร์ แต่จะเคลียร์ลงไปถึงชีวิตประจำวันเลย

 

แต่ต้องสังเกตด้วยนะ แต่ละครั้งจะต่างไป ค่อยๆ เขยิบ ต่างไปเรื่อยๆ ... บอกอย่างนี้แล้วกัน ตัวเสียงสติ ช่วงท้ายๆ ผมดึงให้คลื่นสมองอยู่ในรูปแบบที่ประสบการณ์ภายนของคุณจะรู้สึกว่า หัวเคลียร์ หัวโล่ง ราวกับว่าเป็นสมาธิ

 

จริงๆ ไม่ได้เป็นสมาธิหรอก คุณแค่มี pattern ของสมองที่ย่านสูงกับย่านต่ำ ได้ดุลกัน

 

ทีนี้ ถ้ายังไม่ได้ดุล อันเนื่องจากการที่ มันสูงแล้วยังดึงคุณจากความคิดไม่ได้ .. ที่เป็นสมอ ที่เป็นตัวตุ้มถ่วงนี่ ดึงขึ้นไปไม่ได้ ก็จะรู้สึกเหมือนกับว่า มีอาการเร่งตัวเอง จิตมีอาการเร่งไปข้างหน้า หรือว่าพุ่งขึ้นข้างบนนะครับ

 

อันนี้บอกไว้เป็นเรื่องปกตินะ แล้วถ้าทำไปเรื่อยๆ ให้สังเกตด้วยว่าตรงนี้จะค่อยๆ เคลียร์ แล้วอาการใจเต้นจะค่อยๆ หายไป และระหว่างวัน คุณจะสนใจสิ่งไร้สาระน้อยลง แล้วก็มีแก่จิตแก่ใจที่จะโฟกัสอยู่กับเรื่องที่ควร แล้วทำให้จิตมีสตินะครับ

___________________

รู้สึกนิ่งได้เร็วค่ะ ไม่รู้สึกง่วง รู้สึกตัวตลอด ลมหายใจละเอียดมากๆ เบาสบาย ไม่รู้สึกว่ามีตัวเองอยู่เลย แต่ตอนคลื่นเสียงช่วงท้ายๆ เกิดอาการใจเต้นแรงๆ รัว ๆ อึดอัด คล้ายจะจมน้ำ แต่ยังมีสติ และพยายามจับอยู่ที่ลมหายใจตลอดเวลา เพราะเหตุใด ขอเรียนถามอาจารย์ค่ะ

รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน คลายเครียดใน ๓ นาที

- คุยกับหมอบี

วันที่ 24 กรกฎาคม 2564

ถอดคำ : เอ้

รับชมคลิป: https://www.youtube.com/watch?v=VH7PN9EsCOQ

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น