ดังตฤณ : แต่ละคนไม่เหมือนกัน และแต่ละครั้งก็ไม่เหมือนกันด้วย
ที่เห็นเป็นภาพ
หรือเห็นเป็นฉากๆ เป็นนิมิต คือการปรุงแต่งของจิตชั่วคราว ซึ่งเอาแน่เอานอนไม่ได้
ในแต่ละครั้ง
คุณอย่าไปตั้งคำถามว่า
นั่นคืออะไร
แต่ให้ตั้งโจทย์ว่า
เมื่อคุณเห็นนิมิตที่ปรากฏในระหว่างทำสมาธิ
มองว่าเป็นการปรุงแต่งจิตชั่วคราว
นี่คือหลักการเจริญสติแบบพุทธ
ถ้าเราเกิดนิมิตอะไรขึ้นมาระหว่างนั่งสมาธิ
แล้วไปยึดมั่นถือมั่นมัน
หรือแม้ไปสงสัยว่า
คืออะไร
ในที่สุดแล้ว
เราจะหลงเข้าไปอยู่กับข้อสงสัยตรงนั้น จนไม่เกิดสมาธิ
เป็นนิวรณ์ชนิดหนึ่ง
ที่เรียกว่า วิจิกิจฉา หรือความลังเลสงสัย
ทำให้จิตเดินสมาธิแบบเป็นวนลูปนะ
ไม่เข้าถึงสมาธิ
วนลูปอยู่กับความคิดนั่นแหละ
หมอบี : ด้วยความที่พื้นฐานผู้ถาม เป็นคนที่ต้องใช้ความคิดมากๆ
เพราะว่า เข้าใจว่าน่าจะเป็นครู
ด้วยความที่ต้องสื่อสารมากๆ
แล้วก็เหมือนกับต้องพยายามจะสร้างภาพแห่งความเข้าใจของตัวเองมา
เพื่อจะอธิบายให้ผู้อื่นฟัง ตรงนี้ ถ้าเรายังไม่สามารถไปตัดตรงนั้นได้
ก็เหมือนกับเราจะใช้ความคิดเรื่อยๆ
ก็จะเป็นความเครียดที่สะสมอยู่ในตัวค่อนข้างเยอะ แบบรู้ตัวบ้างไม่รู้ตัวบ้าง
ดังตฤณ : คนเป็นครู พูดไปก็ทำบุญใหญ่นะ
ทำให้คนมีความรู้ แต่ในอีกทางหนึ่ง ถ้าไม่รู้จักเคลียร์จิตใจตัวเอง
ก็กลายเป็นอะไรกองสุมๆ เข้ามาไม่เลิก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
เด็กยุคนี้รับมือยากเหลือเกิน
___________________
รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน
ตอน คลายเครียดใน ๓ นาที
-
คุยกับหมอบี
วันที่
24 กรกฎาคม 2564
ถอดคำ
: เอ้
รับชมคลิป: https://www.youtube.com/watch?v=3oxSBYXIHhQ&t=12s
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น