ถาม : ฝันว่าคุณดังตฤณมาถ่ายทอดวิชาความรู้ให้
เป็นฝันที่แจ่มชัดมาก อยากทราบว่าที่เห็นนั้นเป็นคุณดังตฤณ
หรือภาคหนึ่งของจิตคุณดังตฤณจริงๆหรือเปล่า?
>
จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๙
ดังตฤณ:
ดังตฤณ: ยิ่งผมเขียนหนังสือและบทความมากขึ้น
ช่วงหลังก็ยิ่งได้รับคำถามทำนองนี้จากคุณๆมากขึ้นเช่นกัน
ก็ขอให้คำตอบพร้อมข้อเท็จจริงไว้ ณ ที่นี้ในคราวเดียวนะครับ
ปรากฏการณ์ทางฝันนับเป็นเรื่องลึกลับชนิดหนึ่ง
ที่พวกเราเผชิญกันอยู่ทุกคืน ประสบการณ์ ‘ฝันทั่วไป’ที่เกิดจากการก้าวลงสู่ความหลับแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวนั้น
ทำให้คนส่วนใหญ่ตัดสินว่าความฝันเป็นคลื่นลมในหัวที่เหลวไหลไร้สาระ
ไม่แตกต่างจากความฟุ้งซ่านไร้สติทั่วไป
ขณะที่ยังมีคนอีกส่วนหนึ่งเห็นความฝันเป็นช่องทางเชื่อมต่อกับต่างมิติ เช่น
ขอดูเลขหวยงวดที่กำลังจะออก หรือติดต่อกับญาติที่เพิ่งตาย
แต่บางคนก็มีความสามารถพิเศษยิ่งกว่านั้น
เช่น นักพยากรณ์ระดับโลกอย่างเอ็ดการ์ เคย์ (Edcar
Cayce) ฝึกหลับเพื่อรู้นิมิตเหตุการณ์ในอนาคต
ซึ่งหลายคำทำนายของเขาก็ถูกต้องตรงจริง
มิฉะนั้นคงไม่ได้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักประมาณน้องๆนอสตราดามุส
นอกจากนั้น
ความฝันเป็นทางมาของผลงานแปลกใหม่ เช่น นักประพันธ์ขายดีข้ามชาติอย่างสตีเฟ่น คิง
(Stephen King) ได้พล็อตเรื่องจากฝันระทึกในบางคืนของเขา
คีตกวีนามอุโฆษอย่างนิโคโล แพกานีนี่ (Nicolo Paganini) ก็ได้งานเพลงชิ้นสำคัญมาจากการฝันว่าปีศาจสีไวโอลินให้ฟัง
ทุกวันนี้ฝรั่งนักเล่นฝันก็มีเทคนิควิธีใหม่ๆในการใช้ฝันให้เป็นประโยชน์ตามประสงค์
เช่น การฝึกมีสติรู้ตัวในฝันที่สมจริง (Lucid
Dreaming) การฝันร่วมกัน (Mutual Dreaming) การใช้ฝันเพื่อเยียวยารักษา
(Healing Dreaming) ฯลฯ จริงจังขนาดตั้งเป็นสถาบันวิจัยพัฒนากันใหญ่โตทีเดียว
สรุปว่าความฝันก็สำคัญไม่ใช่เล่นเหมือนกัน
ไม่ต้องเอาอะไรที่กล่าวมาข้างต้นเลยก็ได้
อย่างน้อยคุณคงเคยได้ยินข่าวโจรกลับใจมอบตัว
เพียงเพราะฝันร้ายเห็นผีเหยื่อมาทวงแค้นทุกคืน หรือคุณอาจเจอมากับตัวเอง
ประเภทต้องย้อนกลับไปหาคนรักเก่า เพียงเพราะทนอารมณ์พิศวาสแทบขาดใจในฝันหวานไม่ไหว
หลายครั้งความฝันอาจเปลี่ยนวิธีที่คุณใช้ชีวิต หรือเปลี่ยนการตัดสินใจของคุณได้
จึงไม่ควรดูแคลน หรือมองว่าเป็นเรื่องเล็กที่สักแต่ผ่านไปชั่วคืน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝันเดิมๆที่เกิดขึ้นบ่อยๆ และจูงจิตให้ปักใจเชื่อว่านั่นเป็นโลกที่สองของคุณ
ยิ่งถ้าเป็นความฝันที่เกี่ยวกับการพัฒนาจิตวิญญาณ
อันนั้นยิ่งต้องถือเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย
เพราะหมายถึงว่าคุณจะได้ใช้ชีวิตนี้เป็นประตูสู่ความพ้นทุกข์
หรือหลงวนติดกับอยู่กับวงจรลวงใจเดิมๆ เท่าที่ผมฟังมา
นักปฏิบัติธรรมมากรายเล่าว่าตนเองได้วิธีฝึกจิตมาจากพระพุทธองค์หรือเทพพรหมที่มาสอนในฝัน
ชาวบ้านธรรมดาหลายรายเปลี่ยนเป็นคนทรงเจ้าเพียงชั่วข้ามคืน โดยอ้างว่า ‘นายเก่า’
มาตามตัว และขอใช้ร่างเพื่อเป็นช่องทางให้ช่วยเหลือมนุษย์เพิ่มบารมี
(หรือแปลอีกทีคือหาบริวารเพิ่ม)
ฟันธงกันแบบตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม
ของพวกนี้มีครับ ที่เป็นเรื่องจริง ไม่ได้อุปาทานไปเอง แต่ส่วนใหญ่โดนสะกดจิตหมู่
ช่วยกันสร้างอาณาจักรในฝันตามรูปแบบที่พากันปักใจเชื่อ
แล้วก็เลยพากันฝันเห็นอะไรเหมือนๆกัน หรือคล้ายๆกัน
หรือกระทั่งเหมือนได้ไปเจอและพูดคุยกันในอีกโลกหนึ่ง ทั้งที่จริงเป็นโทรจิตผ่านฝัน
หรือผ่านภาวะสมาธิที่เชื่อมถึงกัน
ซึ่งล้ำสมัยเหนือเทคโนโลยีเครือข่ายคอมพิวเตอร์ไร้สายที่ว่าเร็วสุดขีดในปัจจุบัน
เพราะในการสื่อสารทางจิตขณะฝันนั้นคุณจะเห็นภาพและเสียงเป็นสามมิติคมชัดไร้ที่ติ
ในขณะที่เทคโนโลยีโลกเสมือนผ่านการสื่อสารไร้สาย ยังห่างไกลจาก พ.ศ. ๒๕๔๙
ไปหลายสิบปี
ฝันอันน่าติดใจบางเรื่องอาจดึงดูดให้หลายคนติดอยู่ใน
‘โลกใบที่สอง’ ซึ่งจิตสร้างขึ้นมาเองขณะหลับ พวกนี้อาจเกิดขึ้นได้น้อย
เพราะอย่างที่บอกว่าคนเราไม่ค่อยเชื่อความฝันชั่วครู่ชั่วคราว
แต่บางคนบทจะเชื่อขึ้นมาก็ถึงขั้นที่จิตสร้างฝันแบบเดิมให้เสพได้เกือบทุกคืนเลยทีเดียว
พวกอารมณ์รุนแรง ความตั้งใจเด็ดเดี่ยวมากๆมักทำกันได้ครับ
เกริ่นเสียยาว
ไม่ใช่อะไร อยากปูพื้นเสียก่อนว่าจิตขณะฝันไม่ใช่เรื่องเหลวไหลอย่างที่คิด
แต่ก็ไม่ควรยึดมั่นถือมั่นจนเกินเลย เอาล่ะ! วกกลับมาตอบให้ตรงคำถามเสียที
ขอแจงเป็นข้อๆนะครับ
๑) ความแจ่มชัดสมจริงของฝันไม่ได้แปลว่าฝันเป็นความจริงเสมอไป
มันอาจหมายความว่าจิตของคุณนิ่ง มีคุณภาพ มีความสว่างเป็นกุศล
เช่นบางคนอ่านหนังสือธรรมะเสร็จแล้วหลับทันที
ก็อาจเกิดปรากฏการณ์ทางจิตได้หลากหลาย ขอให้ทำความเข้าใจว่า ‘เรื่องจริง’
ที่เกิดขึ้นแน่ๆคือจิตดีๆนั่นเอง ส่วนเหตุการณ์ในฝันไม่ต้องไปนับก็ได้ว่าจริงเท็จอย่างไร
เพราะแก่นสารของชีวิตคุณอยู่ที่จิตเป็นกุศลหรืออกุศล
เมื่อหลับด้วยกุศลจิตได้ก็น่าดีใจเหนือสิ่งอื่นใดแล้ว
๒) คำแนะนำดีๆ
ถ้าดีจริงและสอดคล้องกับคำสอนของพระพุทธเจ้า
แม้มาจากฝันก็หาใช่ข้อน่ารังเกียจแต่อย่างใด หากเป็นกำลังใจให้คุณอยากบำเพ็ญทานบารมี
ศีลบารมี หรือกระทั่งภาวนาบารมี ก็ถือว่าเป็นนิมิตมงคลอันประเสริฐสำหรับตัวคุณเอง
ต่อให้คุณฝันว่าคุยกับม้าพูดได้ แล้วม้าให้ข้อคิดอันวิเศษ นำไปใช้ได้จริง
เชื่อม้ามันเสียหน่อยก็ไม่เสียหายหรอก ยิ่งถ้าฝันว่าคุยกับคน ก็คงไม่น่าประดักประเดิดที่จะนำมาพิจารณาบ้าง
๓)
ผมไม่เคยส่งตัวเองเข้าไปในฝันของคนที่ไม่เคยพบหน้ากัน ฉะนั้นสิ่งที่คุณเห็นในฝันไม่ใช่
‘ตัว’ ของผม ในขณะที่คุณเห็นผมคุยด้วย ผมอาจกำลังนอนหลับสนิท
อาจกำลังนั่งสมาธิเพลินๆ หรืออาจกำลังยืนบิดเอวแก้เมื่อยจากการทำงานหลังขดหลังแข็งอยู่ก็ได้
๔)
หากพบว่าสิ่งที่ผมพูด ไม่ใช่อะไรที่คุณเคยได้ยินจากใคร
ไม่ใช่กระทั่งข้อเขียนต่างๆของผมในโลกความจริง อันนี้มีความเป็นไปได้หลากหลายครับ แต่ที่น่าจะเป็นมากกว่าอย่างอื่น
คือจิตของคุณเองคุยกับตัวเอง โดยเอาผมไปเป็นหุ่นแทนอีกภาคหนึ่งของคุณ
ข้อสุดท้ายนี้ต้องขยายความ
และถ้าจะจาระไนกันจริงๆก็คงได้เนื้อความหลายสิบหน้า เอาเป็นว่า ณ
ที่นี้พูดแค่สั้นๆว่า เนื้อความทั้งหมดที่คุณอ่านจากหนังสือหรือข้อเขียนใดๆของดังตฤณ
ล้วนแล้วแต่ไหลมาจากจิตของผม เมื่ออ่านบ่อยหน่อยถึงจุดหนึ่ง
ก็อาจกล่าวว่าคุณสัมผัส ‘กระแสจิตของผม’ ได้
หลายคนอาจรู้สึกเหมือนคุยกับผมต่อหน้าต่อตากันมานาน
สะสมแนวคิดและมุมมองของผมไว้ไม่น้อย
อันนั้นก็เข้าไปเป็นข้อมูลที่จิตของคุณหยิบจับมาปรุงต่อได้พิสดารสารพัด
บางคนเห็นผมตอบคำถามไขข้อข้องใจในฝันได้เป็นฉากๆ ตื่นขึ้นมายังจำได้สนิท นั่นก็เป็นความฉลาดทางจิตของคุณเอง
เป็นปัญญาที่เกิดจากการสั่งสมความสว่างและแง่คิดตามจริง
เมื่อใดจิตมีคุณภาพ
พร้อมจะมีเหตุผล พร้อมจะรู้เห็นโลกตามจริง
เมื่อนั้นจิตย่อมมีคำตอบแก้ข้อสงสัยให้ตัวเองได้เสมอ อาจด้วยการหยั่งรู้อดีต
ปัจจุบัน และอนาคต เชื่อมโยงเป็นเหตุเป็นผลกันตลอดสาย
ความฉลาดขณะหลับฝันนั้น
เป็นสิ่งที่ยังไม่มีใครค้นคว้าวิจัยกัน แต่บอกได้อย่างหนึ่ง
คือถ้าก่อนหลับคุณสั่งสมกุศลอันเป็นธรรมชาติสว่างไว้มาก
ฝึกที่จะมองและยอมรับชีวิตตัวเองตามหลักกรรมวิบาก
ตลอดจนฝึกที่จะมองและรู้เห็นกายใจตนเองโดยความเป็นของไม่เที่ยง ไม่น่ายึดมั่นถือมั่น
เมื่อลงสู่ความหลับอย่างมีสติ คุณอาจพบขุมทรัพย์ทางวิญญาณอันล้ำค่า
ในอีกทางหนึ่ง
เพื่อให้คำตอบครอบคลุมความจริงทั้งหมด ผมอยากช่วยยืนยันว่าบางกรณี มีครูบาอาจารย์
หรือมีเทพมาเข้าฝันได้จริงๆ กลทางจิตไม่ใช่เรื่องยากนักสำหรับผู้ทรงฌาน
คือแค่กำหนดดูวาระจิตอันเป็นปัจจุบันขณะของคนที่ต้องการติดต่อ
และรู้ว่าเขากำลังอยู่ในสภาพ ‘พร้อมจะเห็นนิมิต’ อย่างเช่นกำลังหลับไหล
หรืออย่างเช่นกำลังเข้าสมาธิได้สว่างนิ่ง ผู้ทรงฌานก็เพียง ‘เชื่อมต่อ’
จากจิตถึงจิตด้วยการนึกว่าจะให้เขาเห็น คงคล้ายกับที่คุณแอบย่องมาข้างหลังใครแล้วเพ่งนึก
เหมือนสะกิดให้เขารู้สึกถึงการมาของคุณ หันมาเห็นคุณนั่นแหละ
เพียงแต่อำนาจจิตขั้นสูงจะทำได้ยิ่งกว่า ‘สะกิดให้รู้สึก’ เยอะ
เมื่อกล่าวว่าเป็นไปได้จริง
ก็ขอกล่าวในอีกทางหนึ่ง คือกรณีของเรียนรู้วิธีฝึกจิตหรือปฏิบัติธรรมจากในฝัน
เช่นเห็นพระพุทธเจ้าหรือพระชื่อดังรูปใดมาสอน
อันนั้นผมไม่คิดว่าเป็นเรื่องปลอดภัยนัก เพราะโอกาสเสี่ยงไปเข้าทางมิจฉาทิฏฐิ
มีสูงกว่าเข้าทางสัมมาทิฏฐิ
จากที่ฟังคำให้การของผู้เรียนกรรมฐานจากครูบาอาจารย์ในฝัน ปรากฏว่า ๙ ใน ๑๐
เป็นอุปาทานเข้าข้างตัวเองที่ไม่รู้ตัว หรือแม้จะเจอ ‘ของสูงมาจริง’
ก็หาใช่นำไปสู่ความพ้นทุกข์เด็ดขาด แต่จะมาชวนให้ไปเป็นบริวารของท่านเสียมากกว่า
ยกตัวอย่างเช่นครูบาอาจารย์ในฝันมักเริ่มต้นด้วยการแนะนำให้รู้จักกับนิพพาน
ส่วนใหญ่จะเห็นเหมือนแดนสุขาวดี มีปราสาทวิมานแก้ว มีดอกบัวสะพรั่ง
มีบรรยากาศสงบเยือกเย็นน่าเป็นสุขเหลือประมาณ หรืออีกทีก็เห็นว่านิพพานเป็นอวกาศ
มีตัวเองลอยเท้งเต้งอยู่อย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร
ตื่นขึ้นมาแล้วบ่นอุบว่านิพพานไม่เห็นมีอะไร น่าเบื่อจะตาย
ผมฟังแล้วก็ได้แต่ถอนใจครับ พวกที่เชื่อว่าตนมีเทพพรหมมาโปรดถึงในฝันนั้น
พูดบอกหรือชี้แจงให้เข้าใจยาก เนื่องจากหลงนึกว่าตัวเองมีดีเหนือมนุษย์เสียแล้ว
ถ้าจะเรียนกรรมฐาน
ขอแนะนำให้เรียนกับครูบาอาจารย์ที่มีชีวิต มีความสามารถแสดงเหตุผล
และคุณสามารถนำไปสอบเทียบกับพระไตรปิฎกได้ ว่าถูกต้องหรือคลาดเคลื่อนเพียงใด
วันหนึ่งเมื่อคุณรู้จักนิพพาน คุณจะรู้ว่าไม่มีรสอะไรเหนือกว่านั้นอีกแล้วจริงๆ
และนิพพานก็เป็นสิ่งที่สัมผัสรู้ได้ด้วยจิตขณะตื่นเต็ม
ไม่ใช่ต้องหลับฝันหรือพึ่งบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนเสียก่อน จิตอันบำเพ็ญบารมีครบพร้อมแล้วนั่นแหละ
ที่จะพบว่านิพพานอยู่ใกล้แค่เอื้อม ขอแค่มองชีวิตจริงให้ถูก
มองชีวิตจริงให้เป็นเท่านั้น
หลังจากอ่านคำตอบจบ
คืนนี้คุณอาจฝันเห็นอะไรต่ออะไร ก็ขอแนะนำไว้ล่วงหน้า ว่าให้ถือเป็นกำลังใจ
แต่อย่ายึดไว้เป็นอุปาทานนะครับ
ดังตฤณ:
ดังตฤณ: ยิ่งผมเขียนหนังสือและบทความมากขึ้น ช่วงหลังก็ยิ่งได้รับคำถามทำนองนี้จากคุณๆมากขึ้นเช่นกัน ก็ขอให้คำตอบพร้อมข้อเท็จจริงไว้ ณ ที่นี้ในคราวเดียวนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น