ถาม : ผู้ที่ทำอาชีพค้าขายสุราจะได้รับวิบากกรรมในด้านใด? อย่างไรบ้าง? และจะมีอกุศลวิบากที่ส่งผลเฉพาะต่อการปฏิบัติธรรม
หรือเข้าถึงธรรมอย่างไรบ้าง?
ดังตฤณ:
อันดับแรกเลยก็อยากจะบอกว่า
สิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าเป็น "มิจฉาวณิชชา" หรือว่าการค้าขายที่ผิดที่ไม่ดี
ก็มีสุรารวมอยู่ในนั้นอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการขายเนื้อ เป็นการค้ามนุษย์
เป็นการขายยาพิษ เป็นการขายสุรา เป็นการขายอาวุธ
เหล่านี้พระพุทธเจ้าตรัสว่าเป็นมิจฉาวณิชชาทั้งสิ้น
มิจฉาวณิชชาคือ
พูดง่ายๆว่า
ค้าขายไปแล้ว
มันได้กำไรทางโลกแต่ขาดทุนทางธรรม !
คิดง่ายๆเลย
ทีนี้ผมก็อยากจะให้มองอย่างนี้ด้วยว่า การขายเหล้ามันมีหลายระดับ
บางคนเนี่ยตั้งใจเปิดร้านเหล้าเลย ชัดๆเลย ไม่ใช่แค่ให้คนมีการกินเหล้าย้อมใจ
แต่เอาผู้หญิง เอาบรรยากาศมาย้อมใจให้มึนเมา มัวเมา ลุ่มหลงไปในทางที่ต่ำ
ในทางที่มืดชัดๆด้วย
แต่บางคนก็เปิดร้านเล็กๆ
เป็นร้านชำแล้วขายเหล้าด้วย ตัวการคัดกรองเหล้าเข้ามาเป็นสินค้าเนี่ย
ใจมันก็ค่อนข้างจะยึดพอสมควรว่า ร้านเราขายเหล้า ร้านเราทำกำไรด้วยการขายเหล้า
อันนี้ก็เป็นอีกระดับหนึ่งนะ คือเบาลงมากว่าการที่ไปสร้างบรรยากาศย้อมใจเหมือนข้อแรก
แต่ว่ามันก็ยังหนักอยู่ เพราะว่าจิตมันยังเล็งไปที่เหล้าอยู่
เห็นเหล้าเป็นสินค้าเด่นๆชัดๆอยู่ และเป็นตัวทำกำไรอยู่
ยกขึ้นมาอีกระดับหนึ่งอย่างพวกโรงแรม
หรือว่าสถานบริการที่มีความหลากหลายอย่างเนี่ย เขาก็ให้การขายเหล้าเป็นแค่ส่วนหนึ่ง
ใจมันจะไม่เข้าไปเกาะอยู่มากกับกิจการค้าเหล้า คือจะดูแลให้สถานพัก สถานบริการ
มันเป็นไปตามธรรมชาติของสถานที่ประเภทนั้นๆ
มากกว่าที่จะคิดว่าจะให้ของๆเรามันเป็นร้านขายเหล้า นี่ก็จะเบาลงมาอีกระดับหนึ่ง
ผมอยากจะบอกว่าคือ
ขายเหล้าเนี่ยยังไม่ได้ตัดสินว่าจะไปดีหรือไปไม่ดี
มันขึ้นอยู่กับว่าเราเน้นแค่ไหนกับการขายเหล้า อีกอย่างหนึ่งคือ
เราขายเหล้ามีการชักชวนหรือเปล่า มีการโน้มน้าวหรือเปล่าด้วย
ถ้ามีการโน้มน้าวอย่างเช่นทุกวันนี้ ก็จะเห็นขบวนการเชียร์เบียร์
คนไม่อยากกินก็ไปทำให้เขาอยากกินขึ้นมา ด้วยการเอาขาอ่อนไปล่อ หรือว่าไปทำตาหวานๆ
แล้วก็กินไหมคะ ถ้าไม่กินก็ทำคล้ายๆปากเบะนิดนึง ไม่กินเหรออะไรแบบนั้น
ก็เป็นอะไรที่อยากจะให้เข้าใจว่า มันมีระดับของการขายเหล้าแตกต่างกัน
แล้วทีนี้เรามาเล็งว่า
ผลกับผู้ที่กินเหล้าคืออะไร?
พระพุทธเจ้าตรัสว่า
ถ้ากินเหล้ามากๆ ระดับที่เป็นขี้เมานะ คือแอลกอฮอล์เข้าไปในสายเลือด
ขนาดว่าได้กลิ่นแอลกอฮอล์มาจากลมหายใจเลย ระดับนั้นพระพุทธเจ้าตรัสว่า คงไม่พ้นนรก
เพราะว่าจิตใจมันถูกย้อมให้ลงสู่ที่ต่ำ คนที่เป็นขี้เมาดูง่ายๆเลย
พูดจามันออกทางต่ำหมดแหละ มันไม่ค่อยจะพูดจากันเรื่องสูงๆหรอก พูดกันเรื่องต่ำๆ แล้วก็ด่ากันหยาบๆคายๆ
แล้วก็มีชัดเจนเลยคือว่า โมโหร้าย โมโหอาละวาดอะไรแบบนี้
พระพุทธเจ้าตรัสว่า
โทษสถานเบาของการเคยเป็นนักเลงสุรา ร่ำสุราไว้มากๆ โทษสถานเบาก็คือว่า
ถ้ากลับมาเกิดในมนุษยโลกอีกครั้งจะเป็นบ้า คือจิตใจจะฟุ้งซ่านจัดมาก
คิดอะไรมันเหมือนกับคิดไม่ออกบอกไม่ถูก พูดง่ายๆว่า โง่เพราะพิษสุราข้ามชาติ
นี่ตรงนี้นะเป็นสิ่งที่นักเลงสุราเขาจะได้รับกัน
แล้วคิดดูก็แล้วกันว่า
คนที่ยุยงส่งเสริม หรือว่าเอาสุรามาทำให้เขาต้องเป็นบ้า มันจะเป็นอย่างไร
มันก็ออกแนวเดียวกันแหละ วันหนึ่งมันก็ต้องมีคนมายุให้เราเป็นบ้า วันหนึ่งมันก็ต้องมีคนมายุให้เราทำลายสติตัวเอง
จะโดยทางใดทางหนึ่งก็ตาม วันหนึ่งก็คงมามีใครทำให้เราลุ่มหลงมัวเมา
มันมาด้วยกันเลยเห็นไหม
คือเหล้ามันทำให้สติขาด
แล้วก็ทำให้เกิดความมัวเมา ทำให้เกิดความมัวหมอง
แล้วไอ้อะไรที่มันเป็นเครื่องประกอบของความมัวเมา ความมัวหมอง ไม่ว่าจะเป็นขาอ่อน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทะเลาะวิวาท มองหน้ากันนิดเดียวในร้านเหล้าสามารถฆ่ากันได้
จิ้มกันได้ ทั้งหลายทั้งปวงแล้วก็คือว่า อะไรที่มันเกี่ยวข้องกับทางต่ำ
มันก็ดึงลงต่ำได้หมดแหละ ขึ้นอยู่กับว่าใครจะทำหนักทำเบาแค่ไหน
________________
คลิกที่บทความเพื่ออ่านต่อ :
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น