วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2557

ทำกรรมอย่างไรช่วยให้พบเนื้อคู่

ถาม : ทุกคนมีเนื้อคู่หรือเปล่าคะ? และ ทำกรรมวิบากอะไรมาชาตินี้ถึงไม่มีเนื้อคู่ ?
รับฟังทางยูทูป : http://youtu.be/ZGkRmJeII3o

ดังตฤณ:  คนเราไม่รู้หรอกว่าตัวเองมีคู่หรือไม่มีคู่ หรืออาจจะพลัดกับคู่ตัวเองไปแล้วด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์  มันไม่สามารถรู้ได้ เพราะคนปกติไม่มีอภิญญาไม่มีความหยั่งรู้

ผมตอบกว้างๆอย่างนี้
การที่เราจะมีคู่หรือไม่มีคู่
มันไม่ใช่อยู่ที่ว่าโชคชะตาจะพามาเจอหรือไม่เจออย่างเดียว


แต่มันอยู่ที่คุณสำรวจตัวเองด้วยหรือเปล่า  ว่าตัวคุณเอง
.. อันนี้ไม่ได้พูดเจาะจง อันนี้พูดตามหลักกว้างๆคือ เวลาที่คนถามว่า เค้ามีสิทธิ์จะพบรักแท้หรือว่าคู่ครองที่อยู่ด้วยกันตลอดรอดฝั่ง มีสิทธิ์ไหม ผมมักตอบว่า

คุณมีสิทธิ์จะรู้ครึ่งทาง
มีสิทธิ์ที่จะรู้เหตุปัจจัยครึ่งนึง
!
นั่นคือถ้าคุณสำรวจตัวเองแล้วพบว่า
พ่อแม่ของคุณ คนในบ้านของคุณ หรือเพื่อนสนิทของคุณ
อยากอยู่กับคุณไปเรื่อยๆ อยากเจอคุณเรื่อยๆ
มีความรู้สึกเมื่อเจอคุณแล้วรู้สึกดี  รู้สึกสบายใจ
คุณอยู่กับใครๆ ก็มีคนบอกคุณว่า
อยากอยู่ด้วยจังเลย อยากอยู่ไปตลอด
ไม่อยากที่จะขับไล่ไส่ส่งไปไหน ไม่อยากจะแยกบ้านไปไหน
นั่นแหละปัจจัยขั้นพื้นฐาน
ที่จะทำให้คุณเจอคนที่สามารถอยู่ด้วยกันได้ตลอดไป
!
มันครึ่งนึงไง มันเป็นเหตุปัจจัยครึ่งนึง

ถ้าคุณเป็นคนที่มีแต่ใครต่อใครอยากอยู่ด้วย
อยากเจอหน้า คิดถึง เมื่อไหร่จะมาหา เมื่อไหร่จะได้เจอกัน
อยากนัดเจออะไรต่างๆ นั่นนะเป็นปัจจัยครึ่งนึง
ครึ่งทางที่จะทำให้คุณพบรัก พบเนื้อคู่ที่จะอยู่ด้วยกันตลอดไป
!

แต่ถ้าหากในทางตรงข้าม
มีแต่คนบอกว่าทำไมฉันอยู่กับคุณแล้วอึดอัดจัง
เมื่อไหร่แกจะออกจากบ้านไปซะที  อะไรทำนองนี้
มันก็เป็นลาง เป็นลางบอกเหตุได้ว่า
คุณมีโอกาสที่จะได้อยู่คนเดียวตลอดไป

.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

ถ้าหากคุณมีปัจจัยที่มีเสน่ห์ มีเสน่ห์ของตัวเอง
มีความน่าพบ มีความน่าอยู่ใกล้
ถ้ากระแสความคิดคุณ
มันออกมาแบบเมื่อครู่นี้ที่คุณนั่งแผ่เมตตาร่วมๆกัน

ถ้าเอาแค่ตรงนั้น จับเป็นประเด็นที่พูดกันให้เข้าใจง่ายๆที่สุด
ถ้า กระแสของจิตคุณมันออกมาแบบเมื่อครู่นี้  
มีแต่ความสว่าง
มีแต่ความโล่ง
มีแต่ความเปิด
มีแต่ความกว้าง
มีแต่ความสบาย
ไม่มีกระแสของความคิดเบียดเบียน

เวลาคนอยู่ใกล้คุณ
เค้าจะมีความรู้สึกดึงดูด รู้สึกถึงแรงดึงดูด
ไม่ว่าคุณจะหน้าตาเป็นยังไง
ไม่ว่าคนจะรู้สึกว่าตัวเองมีคู่ หรือไม่มีคู่ หรืออะไรก็แล้วแต่
จะมีคนที่อยากอยู่ใกล้คุณเสมอ !

.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

ถ้าหากมีจำนวนคนที่อยากอยู่ใกล้คุณมากขึ้นๆ
คุณจะมีตัวเลือก คุณจะมีความรู้สึกอยากเลือกใครดี
อนุญาตให้ใครมาอยู่ใกล้  ไม่อนุญาตให้ใครมาวันนี้อะไรต่างๆ 

แต่ถ้าคุณไม่มีกระแสดึงดูด ไม่มีเสน่ห์ 
มีแต่คนเค้าจะเป็นฝ่ายเลือกคุณ
เค้าจะเป็นคนอนุญาตให้อยู่ใกล้เค้าวันไหน
นี่คือความจริงของโลก
!
ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องหน้าตา
ไม่พูดถึงเรื่องฐานะ
ไม่พูดถึงเรื่องเสน่ห์อย่างอื่นที่เป็นของหยาบกาย 
แต่พูดถึง
เสน่ห์ทางใจ !

ถ้าหากว่าคุณยิ่งมาทางสว่าง ยิ่งมาทางธรรมะมากขึ้นเท่าไหร่
คุณยิ่งมีแรงดึงดูดมากขึ้นเท่านั้น 
ไม่ต้องไปศัลยกรรมทางกาย
แต่ ศัลยกรรมทางจิตนั่นแหละ
!

การศัลยกรรมทางจิต เป็นสิ่งที่ลงทุนน้อยที่สุด
แต่ได้ผลจริงมากที่สุด 

ไม่บอกว่าได้ผลดีที่สุด แต่ได้ผลจริงๆมากที่สุด !

.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

ที่นี้ในคำตอบต่อมา คือไปทำกรรมอะไรมาถึงไม่เจอเนื้อคู่?

ผมอยากให้มองอย่างนี้ก็แล้วกัน
ในเรื่องของคู่
เป็นการตกลงร่วมกัน เป็นความพอใจร่วมกันก่อน
ว่าสิ่งที่มันผูกพันกันไว้
สิ่งที่มันผูกมัดให้ใจสามารถ
มีความเสน่หากันได้ข้ามภพข้ามชาติ

พระพุทธเจ้าตรัสไว้
มีคู่สามีภรรยาคู่นึงถามพระองค์ อยากเจอกันตลอดไปทำอย่างไรดี
ทำอย่างไรดีจะให้อยู่ด้วยกันตลอดรอดฝั่งไปทั้งชาติ
ให้มีความมั่นใจ มีความอบอุ่นใจว่าตายไปแล้วไปเจอกันอีก
ทรงตรัสตอบว่า ถ้าอยากจะให้เป็นอย่างนั้นมีทางเดียว
คือสั่งสม ศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญา ให้เสมอกัน
อยู่ร่วมกันแล้วจะได้เจอกันอีก

"ศรัทธา"
ก็เอาง่ายๆเชื่อในสิ่งที่ดีร่วมกัน
อย่างเช่น ยึดมั่นถือมั่นในศาสนาพุทธ
หรือว่าจะศาสนาไหนก็แล้วแต่
ถ้าศาสนาไหนก็เป็นตัวชี้ว่าเป็นความเชื่อแบบไหน
เชื่อแบบพระเจ้า เชื่อแบบเหตุผล
เชื่อแบบธรรมชาติ เชื่อในสิ่งที่มีผู้บันดาล
แต่อย่างน้อยก็ขอให้เชื่อในความดีเถอะ
เชื่อในทางที่เป็นกุศลเถอะ
อันนั้น ถือว่าเสมอกันได้และเป็นแรงผูกพันต่อกันได้

ในเรื่องของ
"
ศีล" เป็นความสะอาด
คือศรัทธาไปทิศทางเดียวกันแล้ว
แต่ถ้าศีลที่ไม่เสมอกัน
ก็เหมือนกับจิตที่สกปรกดวงนึงอีกดวงนึงสะอาด
มันก็เปรียบเทียบได้กับคนที่รักสะอาดกับคนที่รักสกปรกอยู่ร่วมกันไม่ได้

ในเรื่องของ
"จาคะ" ก็คือเรื่องของน้ำใจ
ถ้าหากว่ามีน้ำใจที่ไม่เสมอกัน 
จะคอยจ้องเอารัดเอาเปรียบอีกฝ่ายนึง
มันก็อยู่ด้วยกันไปด้วยความรู้สึกไม่เป็นสุข ไม่เกิดความผูกพัน

ในสุดท้ายก็คือเรื่องของ
"ปัญญา"
คุยกันรู้เรื่องคิดอะไรตรงกัน
เข้าใจเหตุผลแบบเดียวกัน
และในที่สุดก็คือ มีความสว่างทางปัญญาเสมอกัน

.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

พอเชื่อพระพุทธเจ้าแล้ว ก็ต้องเข้ามาฝึกมองด้วย
เรื่องกายใจนี่มันไม่เที่ยง
ไม่มีอะไรที่น่ายืดมั่นถือมั่น
ไม่มีอะไรที่มันเป็นตัวเป็นตน
นี่ฝึกมาด้วยกัน

ถ้าหากว่าเกิดกระแส เกิดสายใยอะไรที่เป็นไปในทางเดียวกัน
แบบนี้ เสมอกัน
ก็เกิดการผูกมัดกันแน่น
ก็สามารถเจอกันได้
ก็สามารถอยู่รอดตลอดรอดฝั่ง ทั้งปัจจุบันและอนาคต
ทำให้มาเจอกันอีก จะมีแรงเหวี่ยงให้มาเจอกัน

สรุปคือ ถ้าหากว่าสมมติว่าคุณมีเสน่ห์แล้ว
คนพูดอาจจะสวย อาจจะดูน่ารัก
อาจจะมีคนมาห้อมล้อมอะไรต่างๆมากมาย
แต่ไม่เจอใครที่คุณถูกใจสักที
ก็เป็นไปได้ว่าบุญที่ทำร่วมกันมามันไม่เสมอกัน
หรือคุณอาจจะสวยเกินไป เลยไม่มีใครเข้ามา
เลยต้องอยู่กับตัวเองก็เป็นไปได้

เรื่องที่พูดนี่จะไปสรุปแค่จุดใดจุดนึงมันไม่ถูก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น