ถาม : ดิฉันแต่งงานกับคนต่างชาติที่มิได้ศรัทธาในศาสนาพุทธ
แม้ไม่ขัดขวางแต่ก็ไม่สนับสนุน เพราะกลัวเราจากไป เราจึงต้องแอบทำเงียบๆ
จะถือเป็นวิบากที่เราอาจเคยไม่สนับสนุนคนอื่นมาก่อนหรือไม่? ดิฉันไม่คิดเปลี่ยนศาสนาของสามี
แต่อยากให้เขาเปิดใจให้เรามากกว่านี้ ขอบคุณค่ะ
ดังตฤณ:
วิธีที่จะทำให้เขาเปิดใจ
ก็คือต้องหาให้เจอว่าใจเขาอยู่ที่ไหนก่อน เขาน่าจะสนใจเรื่องไหน
ก็เอาเรื่องนั้นมาโยงกับหลักธรรมในศาสนาพุทธ ถ้าคุณเข้าใจหลักธรรมอย่างถ่องแท้
คุณจะสามารถพูดธรรมะได้โดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำว่าธรรมะ แต่จะสามารถให้เหตุผลได้เหมือนคนพูดกันธรรมดาๆ
แต่ที่ไม่ธรรมดาคือเมื่อทำให้คนฟังเข้าใจแล้ว
เขาจะเข้ามาอยู่ในขอบเขตอันปลอดภัยของธรรมะอันเป็นกุศลโดยไม่รู้ตัว
ผมเคยผิดพลาดมาครั้งหนึ่ง
คือคุยกับฝรั่งเกี่ยวกับเรื่องที่เขากำลังสนใจ คือวิธีควบคุมความโกรธ
เพราะเขาเป็นประเภทโกรธแล้วลุยท่าเดียว เขาเห็นโทษ
เห็นความเสียหายอันเกิดจากความโกรธมามิใช่น้อย
เพราะฉะนั้นเมื่อหัวข้อการสนทนาคือการควบคุมความโกรธ
หรืออย่างน้อยบริหารความโกรธให้อยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสมได้บ้าง
ก็เป็นสิ่งที่จับความสนใจเขาได้ในขณะนั้น
แต่พอคุยไปคุยมา เขาเอะใจว่าผมนับถือศาสนาไหน
พอรู้ว่านับถือพุทธ เขายิงคำถามเลยว่ายูเชื่อเรื่องนรกสวรรค์ไหม?
เชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิดไหม? ผมก็ตอบแบบไม่ทันดูลาดเลาว่าเชื่อ
และไม่ใช่การเชื่อส่งเดชนะ
แต่มันเป็นทำนองเดียวกับยูเชื่อว่าภาพยนตร์สักเรื่องมีอยู่จริงๆก็เมื่อยูไปดูมาแล้ว
เห็นเหตุเห็นผล เห็นว่าต้นเรื่องปลายเรื่องเป็นอย่างไรมาแล้ว ไม่ใช่ฟังเขาว่าจะมีๆ
หรือกระทั่งเห็นแค่หนังตัวอย่างสั้นๆ
โดยไม่ทราบเค้าโครงเรื่องหรือเหตุผลต้นปลายอะไรเลย
ไอเลือกที่จะเป็นชาวพุทธที่รู้เหตุรู้ผลแบบประจักษ์จริง
ไม่อย่างนั้นไอก็ไม่เชื่ออะไรสักอย่าง
ผมอุตส่าห์พูดเป็นคุ้งเป็นแคว
แต่เขาเพิกเฉย เพราะเพียงคำว่า ‘เชื่อ’ คำเดียว ก็เบรกเขาไว้แล้ว ทำให้เขาหยุดฟังอะไรๆทั้งหมดแล้ว
เนื่องจากพื้นเพศรัทธาของเขาจะออกแนวโลกนี้มีแต่วัตถุ เมื่อวัตถุแตกสลาย
ทุกสิ่งก็ดับหายตามไป ฉะนั้นใครเชื่อเรื่องนรกสวรรค์ชาตินี้ชาติหน้า
เขาถือว่าโง่บรมหมด
น้ำหนักคำพูดหรือเหตุผลใดๆทั้งหลายที่ตามหลังความเชื่อชนิดนี้มา
จะมีค่าเป็นศูนย์ทันที ไม่ฟังอะไรต่ออีกเลย
คนบางคนเริ่มจากการบรรยายความสุขในการปฏิบัติธรรมของเราให้เขาฟัง
เขาก็คล้อยตามและอยากสุขบ้าง แต่คนบางคนเขาถูกล้อมกรอบให้มีอคติกับชาวพุทธเป็นทุน
ก็จำเป็นต้องเริ่มจากปัญหาของเขา
ถ้าเราเสนอแนวทางแก้ปัญหาของเขาได้ด้วยวิธีแบบพุทธ เช่นอุบายกำจัดความโกรธ
หรือแนวคิดเพื่อพบประโยชน์อันเป็นที่สุดของตนเอง อะไรก็ได้ที่เขาน่าจะสนใจ
ความสำเร็จก็อยู่แค่เอื้อม
พูดง่ายๆว่าคุณในฐานะภรรยาผู้ใกล้ชิด
ต้องทราบว่าแง่มุมไหนของพุทธศาสนาที่เขารับได้หรือไม่ได้ หากค่อยๆพูด
ค่อยๆคุยกันให้เกิดความเข้าใจ คุณก็จะทราบว่าศาสนาของเราเปิดใจคนได้ทุกประเภท
อยากรู้เรื่องอดีตอนาคตที่มองไม่เห็น อยากรู้เรื่องปัจจุบันที่จับต้องได้
ก็ป้อนให้เขาอย่างตรงจุด เมื่อเขาเปิดใจ เมื่อเขาศรัทธา
เขาจะสนับสนุนคุณทุกประการครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น