ถาม : คำพูดที่ว่า ‘คนกตัญญูคิดตอบแทนพ่อแม่
ไม่มีวันอดตาย’ เป็นจริงหรือไม่ครับ?
ดังตฤณ:
หลายคนฝังใจจริงๆ ว่าถ้าทำบุญอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ใส่บาตรทุกวัน หรือเลี้ยงดูพ่อแม่ให้สุขสบาย แล้วทุกอย่างจะดีเอง ไม่ต้องขยันทำงาน ไม่ต้องควบคุมการใช้จ่าย ในที่สุดพอเงินไม่พอใช้ ก็โทษว่าผลบุญไม่มีจริง อุตส่าห์ทำดีไม่เห็นได้ดีเลย
การเป็นคนกตัญญูกตเวทีนั้น ให้ผลเป็นความสุขความเจริญ ความไม่เสื่อมจากลาภยศ โดยมีข้อแม้ว่าต้องไม่งอมืองอเท้าด้วย
ในโลกนี้
ผมเห็นกรรมชนิดเดียวที่ทำให้อดตายได้จริงๆ
ก็คือ กรรมที่เป็นคนหนักไม่เอาเบาไม่สู้
คิดแต่จะงอมืองอเท้านี่แหละ
หากใครทำกรรมชนิดนี้
ต่อให้แบกพ่อแม่ไว้บนบ่า
ด้วยความมีใจกตัญญูรู้คุณอย่างสูง
ก็เชื่อเถอะครับว่าอดตายแน่
ตรงข้าม แม้เป็นคนอกตัญญู
แต่ขยันทำงาน ก็อาจมีข้าวกินอยู่ดีได้
โดยเฉพาะในช่วงที่
กรรมแห่งการเป็นคนอกตัญญู
ยังไม่ส่งผลให้เกิดความติดขัด
หรือส่งผลให้เสื่อมจากลาภ
ผมเห็นกรรมชนิดเดียวที่ทำให้อดตายได้จริงๆ
ก็คือ กรรมที่เป็นคนหนักไม่เอาเบาไม่สู้
คิดแต่จะงอมืองอเท้านี่แหละ
หากใครทำกรรมชนิดนี้
ต่อให้แบกพ่อแม่ไว้บนบ่า
ด้วยความมีใจกตัญญูรู้คุณอย่างสูง
ก็เชื่อเถอะครับว่าอดตายแน่
ตรงข้าม แม้เป็นคนอกตัญญู
แต่ขยันทำงาน ก็อาจมีข้าวกินอยู่ดีได้
โดยเฉพาะในช่วงที่
กรรมแห่งการเป็นคนอกตัญญู
ยังไม่ส่งผลให้เกิดความติดขัด
หรือส่งผลให้เสื่อมจากลาภ
อยากให้เข้าใจว่าคำคม คำขวัญ หรือวาทะกินใจทั้งหลายนั้น บางทีกระตุ้นให้คิด หรือก่อให้เกิดกำลังใจด้านดี แต่อาจไม่ลงกันสนิทกับกฎแห่งกรรมวิบาก เพราะกฎแห่งกรรมวิบากนั้นมีง่ายๆแค่ว่าทำดีได้ดีแบบนั้นๆ ทำชั่วได้ชั่วแบบนั้นๆ เมื่อใดถึงกาลให้ผลก็ให้ผล เมื่อใดยังไม่ถึงกาลให้ผลก็รอไว้ก่อน คาดคะเนหรือกะเกณฑ์ให้เป็นไปตามปรารถนา หรือเป็นไปตามโวหารใดๆไม่ได้เลย
ที่มา หนังสือเตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว โดย ดังตฤณ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น