รายการตาสว่าง
ธรรมะรับเข้าพรรษากับดังตฤณ
วันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๕๒
พิธีกร :
กลับมาชมตาสว่างในช่วงนี้ครับ
เป็นเรื่องดีๆที่จะเอามาฝากท่านผู้ชมนะครับ ถ้าหากท่านผู้ชมจำได้ รายการตาสว่างเคยมีโอกาสได้สัมภาษณ์นักเขียนท่านหนึ่งนะครับ
ผู้ที่เป็นเจ้าของบทประพันธ์หนังสือที่ชื่อว่า “เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน”
และก็อีกหลายๆเล่มเลย ที่เป็นหนังสือขายดิบขายดีอย่างยิ่ง นักเขียนท่านนั้นตอนนี้เป็นแขกรับเชิญอยู่ในรายการครับ
คุณศรันย์ ไมตรีเวชครับ สวัสดีครับ
ดังตฤณ :
ดังตฤณ :
สวัสดีครับคุณดู๋, สวัสดีครับอาจารย์
(ยกมือสวัสดีพิธีกรทั้งคู่)
พิธีกร :
หรือนามปากกาว่า “ดังตฤณ”
เป็นดั่งหญ้า ตฤณแปลว่า “หญ้า”
ดังตฤณ :
ครับ
พิธีกร :
ตอนนั้นเรามีโอกาสได้พูดคุยเยอะๆ
มีเวลาเยอะ ก็หวังว่าผู้ชมคงจะได้รู้จักทั้งแนวคิด
ทั้งสิ่งที่คุณดังตฤณค้นคว้ามาจากความสงสัยว่าเราเกิดมาทำไม? เรามีชีวิตไว้ทำอะไร?
ก็คงได้คำตอบไปบ้างแล้ว ช่วงนี้มาถามคุณดังตฤณเพราะว่ามันเป็นวันเข้าพรรษา
เพิ่งผ่านวันดีๆ เมื่อวานเป็นวันอาสาฬหบูชานะครับ วันที่ธรรมจักรได้มีการขับเคลื่อนเกิดพระรัตนตรัยครบ
๓ ประการ วันนี้ก็เป็นวันเข้าพรรษา คำถามคือ ผมผ่านวันเข้าพรรษามาประมาณ ๔๐
กว่าครั้งแล้วเนี่ย ผมไม่แน่ใจว่าผมได้ประโยชน์อะไร
นอกจากแก่ขึ้นและก็รู้ว่าเป็นชาวพุทธ ก็เลยจะเชิญคุณดังตฤณมา
เผื่อท่านผู้ชมรู้สึกแบบเดียวกับผมว่า คุณผ่านวันสำคัญๆ
วันพระใหญ่ของพุทธศาสนามาไม่รู้กี่ครั้ง บางคน ๓๐ ครั้ง, ๔๐
ครั้ง เคยได้ประโยชน์อะไร? เคยมีชีวิตดีขึ้นรึเปล่า?
คุณดังตฤณอยากจะฝากอะไรในมุมมองแบบนี้บ้างครับ?
ดังตฤณ :
ครับ...ก็ เราต้องมองนะว่าคนไทยเราเชื่อว่าวันเข้าพรรษาเป็นวันศักดิ์สิทธิ์และก็ถ้าหากว่าอธิษฐาน
หรือว่าทำอะไรในช่วงเข้าพรรษาเนี่ย จะได้บุญเป็นพิเศษ อันนี้คือความเชื่อแบบไทย
พิธีกร :
อ่า..มี เคยมี
ดังตฤณ :
คร้บ ทีนี้ถ้าเราอยากจะได้ประโยชน์หรือว่าอยากได้บุญจากความศักดิ์สิทธิ์
วันศักดิ์สิทธิ์นี้จริงๆเนี่ย
เราก็ต้องทำความเข้าใจย้อนลงไปนะว่า..รากหรือที่มาของการเข้าพรรษามาจากอะไร
ในสมัยพุทธกาลเนี่ย ถ้าหากว่าภิกษุได้ตระเวนเที่ยวไปในระหว่างหน้าฝน
อาจจะไปเหยียบข้าวกล้าหรือว่าต้นพืชของชาวไร่ชาวนานะครับ
เกิดความเสียหายหรือว่าอาจจะเกิดความไม่สะดวกนะ เวลาที่ต้องเดินทางหน้าฝน
พระพุทธเจ้าก็เลยให้อธิษฐานอยู่ประจำที่ใดที่หนึ่งเป็นเวลา ๓ เดือน
พิธีกร :
ครับ
ดังตฤณ :
เพื่อให้ฝนนั้นหมดนะ
พิธีกร :
ท่านให้อธิษฐาน?
ดังตฤณ :
ครับ คือคำว่าอธิษฐานเนี่ย
โดยคำแปลที่ถูกต้องนะ...คือการตั้งใจทำอะไรอย่างใดอย่างหนึ่งให้ชัดเจนและก็ทำให้สำเร็จ
ช่วงหลังๆเนี่ยถ้าเรามองนะ คนไทยจะมองว่าอธิษฐานหมายถึงการขอ
อธิษฐานว่าให้ได้อย่างนั้น ขอให้ได้อย่างนี้
พิธีกร :
อธิษฐาน ก็คือตั้งใจทำ
ดังตฤณ :
(พยักหน้า)
จริงๆแล้วก็การตั้งใจทำอะไรดีๆให้สำเร็จลุล่วงนะครับ
หากว่าเรามองตรงนี้ว่ารากของการเข้าพรรษามาจากการตั้งใจที่จะอยู่ที่ใดที่หนึ่งให้สำเร็จเป็นเวลา
๓ เดือน เราก็ต้องมองว่าจิตใจต้องเข้มแข็งพอสมคววรนะ
พิธีกร :
ใช่ (พยักหน้า)
ดังตฤณ :
คือถ้ามีเหตุจำเป็นอะไรก็แล้วแต่เนี่ย
พระพุทธเจ้าก็อนุญาตไว้ไม่เกิน ๗ วัน ออกนอกสถานที่ได้
พิธีกร :
ครับ
ดังตฤณ :
แต่ว่า ๓
เดือนนั้นยังไงต้องมีที่ประจำ ไปไหนไม่ได้
พิธีกร :
อันนี้เราพูดถึงพระ
ดังตฤณ :
อันนี้เราพูดถึงพระ (พยักหน้า)
พิธีกร :
แล้วถ้าพูดถึงฆราวาสล่ะ?
ดังตฤณ :
ซึ่งผมอยากให้มองตรงนี้ก่อนว่า
การกักบริเวณตัวเองไว้ ๓ เดือนมันก็ทรมานใจเหมือนกันนะ
ถ้าหากว่าทำสำเร็จได้ก็เกิดความเข้มแข็ง เกิดความมีระเบียบมีวินัยในตัวเองนะครับ
พิธีกร :
โทษนี่…ถ้ามอง
๓ เดือนนี่ก็เป็นโทษหนักนะครับ ถ้าคิดว่าโดนคนอื่นจับไปขังเนี่ย
ดังตฤณ :
ครับ คือถ้าเรามองว่า ๓
เดือนทำสำเร็จนะ แล้วจิตใจเข้มแข็งขึ้น
เราต้องมองตรงนั้นแหละ..ว่านั่นคือความศักดิ์สิทธิ์ของการเข้าพรรษาของพระ
ถ้าหากว่าเราจะเอาตามอย่าง เราจะอยากได้บุญที่มันมีความใกล้เคียงกับสงฆ์
ก็คือควรจะตั้งใจทำอะไรดีๆช่วง ๓ เดือน
พิธีกร :
อ่า…นี่คือกลไกว่า
พระพุทธเจ้าสอนพระสงฆ์ให้ทำอย่างนี้มาแล้วเป็น ๒,๐๐๐
กว่าปีเนี่ย แล้วมันเกิดประโยชน์ แล้วเรากำลังจะทำบ้าง
ดังตฤณ :
คือเราเล็งไปที่จิตใจว่าทำสำเร็จตามตั้งใจอะไรก็ตามเนี่ย
มันจะเกิดความรู้สึกเชื่อมั่นในตัวเอง เกิดความรู้สึกว่าตัวเองเข้มแข็งมากขึ้น
พิธีกร :
ฉันทำได้นี่หว่า...ที่ฉันคิดว่าทำไม่ได้เนี่ย
ดังตฤณ :
อ่า...ผมอยากแนะนำแบบนี้ว่า
ถ้าหากอยากได้บุญในวันเข้าพรรษาจริงๆนะ ลองซ้อมไว้ก่อน ก่อนถึงวันเข้าพรรษานะ
ตั้งใจทำอะไรดีๆซักอย่างหนึ่ง อย่างผมชอบที่เค้ารณรงค์กันครั้งนึงนะ
พิธีกร :
เลิกเหล้าหรอครับ?
ดังตฤณ :
ใช่ (พยักหน้า) งดเหล้าเข้าพรรษา
มันคล้องจองกันดี
พิธีกร :
เค้ายังรณรงค์กันอยู่นะครับ
ดังตฤณ :
แล้วยังจำกันได้ คือใครๆพอนึกว่าวันเข้าพรรษาควรทำอะไรก็จะนึกถึงคำนี้แหละ
เป็นคำที่เวิร์ค เพราะคนจำกันได้ แต่จริงๆแล้วเราพิจารณาว่างดเหล้าคืออะไ? ก็คือการถือศีลข้อนึง
คือข้อห้าได้
ซึ่งโอเค โดยหลักการน่ะดี
แต่ว่าในทางปฏิบัติคนส่วนใหญ่ทำไม่ได้ เพราะว่าไม่ได้ซ้อมไว้ก่อน หรือว่าคนหลายคนนะ
ที่ขี้เหล้าหน่อยหรือว่าชอบกินเหล้าเป็นประจำเนี่ย จะรู้สึกว่าตัวเองขาดไม่ได้
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำ ผมก็อยากจะให้คำแนะนำอย่างนี้ว่า
แทนที่เราจะล็อคไว้ว่าเอาเรื่องเหล้าเรื่องเดียว
เอาเรื่องอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับศีล ๕ ก็ได้ หรือนิสัยเสียๆอะไรบางอย่างที่ตัวเองรู้อยู่นะ
แต่ไม่ได้เลิกซะนานเพราะไม่ได้ตั้งใจ
และก็จะไม่มีเทศกาลอะไรเป็นพิเศษที่จะทำให้เกิดความรู้สึกคึกคัก
หรือเกิดความรู้สึกว่าเราก็น่าจะเข้าขบวนการร่วมรณรงค์
ขจัดนิสัยเสียๆหรือเพิ่มนิสัยนิสัยดีๆเข้ามานะ อันนี้ก็..ก่อนเข้าพรรษาเนี่ย ผมขอให้คำแนะนำว่า
ถ้าปีนี้ทำไม่ทันเอาปีหน้าก็ได้นะ
พิธีกร :
ปีนี้ยังทันเนี่ย
วันนี้ยังไม่หมด ยังเหลืออีก ๑๐ นาที (หัวเราะ) ใกล้หมดวันละ
ดังตฤณ :
คือถ้าหากว่าเรารู้ตัวว่าเราเป็นคนขอบด่านะ
กลับมาถึงบ้าน ด่าลูก ด่าเมีย หรือว่าตอนเช้าก่อนไปที่ทำงานเนี่ย นึกว่าเดี๋ยวจะไปด่าใครดี
อะไรแบบนั้นนะ รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองนิสัยเสียแบบนี้
พิธีกร :
นี่ว่าถูกคนเลยนะเนี่ย
(หัวเราะ) คุณดังตฤณบอกเลยว่า ๓ เดือนเนี่ย เราจะไม่ว่าใครเลย เราจะปิยวาจา
ดังตฤณ :
คือจริงๆผมไม่อยากให้ตั้งกำหนดไว้
๓ เดือน เพราะมันเป็นไปได้ยาก คือคนเนี่ยนะ
จะเปลี่ยนนิสัยตัวเองแค่เดือนเดียวก็ยากอยู่แล้ว ผมอยากให้ซ้อมอย่างนี้ก่อนว่า
ตั้งใจแค่ ๒ วัน เพราะ ๒ วันเนี่ย คือจากสถิติที่ผมดูมานะเป็นไปได้มากที่สุด
ที่คนตั้งใจทำอะไรดีๆแล้วจะสำเร็จ
พิธีกร :
อ่า พอได้ ๒
วันต่อมา…
ดังตฤณ :
ทีนี้พ้อยท์ (point) ก็คือว่าเมื่อ
๒ วันผ่านไป คุณจะรู้สึกขึ้นมาทันที สำรวจเข้ามาที่ใจตัวเองนะ
จะรู้สึกว่าตัวเองเข้มแข็งขึ้น มีความเชื่อมั่นมากขึ้น เมื่อคุณสามารถ…
พิธีกร :
เฮ้ย..ฉันทำไปได้ ๒
วันแล้ว
ดังตฤณ :
อ้า..อย่างถ้าคนหลายคนเลยทบทวนชีวิตตัวเอง
เอ๊ะ…สงสัย
ไม่แน่ใจว่าตัวเองเคยทำอะไรดีๆไว้บ้างรึเปล่านะ ตรงนี้แหละ
ที่คุณจะมั่นใจได้เพราะคุณตั้งใจเลยว่าจะทำดีให้ได้ในขอบเขตที่ชัดเจน
พิธีกร :
ผมเข้าใจแล้ว
ทริคแบบนี้นะครับ พอตั้ง ๒ วันแล้วเราทำได้เนี่ย เราสำเร็จละและเราทำเพิ่มได้
ดังตฤณ :
สามารถที่จะเพิ่มได้
พิธีกร :
แต่ถ้าเราตั้ง ๓
เดือนเนี่ย ผ่านไป ๒ อาทิตย์ โอ้โห...จะตายแล้ว
ดังตฤณ :
มันทำไม่ได้
พิธีกร :
ก็จะรู้สึกท้อ
รู้สึกว่าล้มเหลว
ดังตฤณ :
รู้สึกล้มเหลว (พยักหน้า)
อันนี้ผมขอให้เป็นเทคนิค ๒ วันถ้าหากคุณตั้งใจทำอะไรก็แล้วแต่นะ ที่สำรวจเข้าไปแล้วเนี่ยมีอะไรที่เสียๆอยู่
หรือว่าอะไรที่…
พิธีกร :
เสียๆเลิก ดีๆเพิ่ม
ดังตฤณ :
ใช่...ภายใน ๒ วัน ถ้าหากทำได้นะ
แล้วมีความรู้สึกแฮปปี้ รู้สึกเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น อธิษฐานต่อไปขออีก ๒
วันต่อยอดนะ หลังจากนั้นเกิดความรู้สึกเชื่อมั่น ระหว่างปีเนี่ยซ้อมไว้เรียบร้อยนะ
พอถึงวันเข้าพรรษา หน้าพระ...จะตั้งอธิษฐาน เค้าเรียกว่าอธิษฐานพรรษา
ตั้งใจว่าจะอยู่ที่นั่นที่นี่เป็นประจำ ๓ เดือน
พิธีกร :
ครับ…เราก็ตั้งใจว่าทำนี่ๆ
๓ เดือน เอามั่ง แต่ผ่านการซ้อมมาแล้ว ๒ วัน, ๒
วัน ไปเรื่อยๆ
ดังตฤณ :
อ่า..ผ่านการซ้อมมาแล้ว
เกิดความเชื่อมั่นปูพื้นมาแล้วนะว่า เราสามารถทำได้เหมือนกัน
พิธีกร :
ฝากท่านผู้ชมไว้นะครับ
นี่คือเรื่องดีๆในวันเข้าพรรษาที่กำลังจะหมดไปในวันนี้ แต่ว่าเค้าลือกันว่า
เรื่องดีๆเนี่ย ไม่ทำวันนี้ ทำพรุ่งนี้ก็ได้ (หัวเราะ) มันเลยเข้าพรรษามาซักวันนึงแล้วทำคงไม่ผิดกติกา
อธิษฐานผิดวัน
ดังตฤณ :
คือจริงๆแล้วผมจะพูดว่าอย่างนี้ก็แล้วกัน
พิธีกร :
ครับ
ดังตฤณ :
เวลาที่เรามองว่าคนอื่นเค้าตามธรรมเนียมนิยม
เค้าต้องทำกันให้ได้ ๓ เดือนอย่างนี้นะถึงจะได้เท่าพระ และก็รู้สึกว่าสำหรับตัวเราเป็นไปไม่ได้
ผมก็เลยย่อให้ว่าเป็น ๒ วัน อย่างวันนี้เข้าพรรษา
อ่ะ..ตั้งใจแค่วันนี้กับพรุ่งนี้ก็ได้ วันนี้กำลังจะหมดอยู่แล้ว
กำลังจะถึงเที่ยงคืนอยู่แล้ว มันง่ายมากเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่ออีกแค่ ๒๔
ชั่วโมงนะ มันก็ได้ ๒ วัน ทีนี้พ้อยท์ก็คือว่าเมื่อผ่านไป ๒ วันแล้วเราสามารถทำได้
เกิดอะไรขึ้นกับจิตใจของเรา บางคนเนี่ยเกิดความรู้สึกไม่เชื่อมั่นในตัวเองมาตลอด
มีความรู้สึกว่าไม่สามารถทำอะไรได้สำเร็จมาตลอด คุณลองดู...มาทำบุญในวันศักดิ์สิทธิ์
มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์รองรับและก็มีความคึกคักของคนที่ตั้งใจทำอะไรดีๆพร้อมกันทั่วประเทศ
พิธีกร :
เจอคนแบบเดียวกัน
ดังตฤณ :
คุณจะเกิดความรู้สึกว่าเข้าบรรยากาศ
มันจะมีกำลังเป็นพิเศษ
เพราะฉะนั้นถ้าหากว่าจะยึดเอาวันเข้าพรรษาเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ยึดอย่างนี้ก็แล้วกัน
ถามตัวเองว่าคุณตั้งใจอะไรดีๆที่จะให้เกิดขึ้นกับตัวเองบ้างแล้วรึยัง? อะไรเสียๆอยากให้มันหมดออกไปจากตัวเองบ้างแล้วรึยัง?
ถ้าหากว่าตั้งใจแล้วนะ ขอให้ทำให้ได้ ๒ วันพอ
พิธีกร :
๒ วันก่อน
ดังตฤณ :
แล้วพอแข็งแรงนะ
ปีไหนก็ได้เลือกเอาวันเข้าพรรษา ทำให้ครบ ๓ เดือนนะครับ
พิธีกร :
ชัดเจนครับ
ท่านผู้ชมครับ
ข้อที่ ๑.
อย่าตอบผมว่าฉันไม่มีอะไรเสียเลย
คงเป็นไปไม่ได้
อันนั้นไม่ใช่คนแล้วครับ
๒.
ก็คือลองทำดูครับ
อย่าให้วันเข้าพรรษาในวันนี้เป็นอีกวันนึงของปีหนึ่งที่ผ่านไปโดยไม่เกิดประโยชน์กับตัวเอง
ขอบคุณคุณดังตฤณเป็นอย่างสูงครับ ขอบพระคุณมากครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น