วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562

ดูคลิปคนถูกเเกล้ง เเล้วจิตยินดีไปเอง มีวิบากไหม, เห็นแจ่มแจ้งว่าจิตไม่ใช่เรา มีผลอย่างไร


ดูคลิปที่คนถูกเเกล้ง เเล้วจิตมันยินดีไปของมันเอง จะมีวิบากไหมครับ? เเล้วถ้าเห็นอย่างเเจ่มเเจ้งว่าจิตไม่ใช่เราจริงๆจะเป็นไงครับ?

ดังตฤณ : ดูคลิปแบบไหน ใจก็ปรุงแต่งแบบนั้นนะ ถ้าดูคลิปแกล้งคน ต้องถามด้วยว่าเขาเดือดร้อนหนักขนาดไหน ถ้าเดือดร้อนขนาดถึงตาย แล้วเรายินดี แบบนี้ ใกล้ๆ กันกับร่วมฆ่าเลยนะ ร่วมลงมือฆ่าเลย ใกล้เคียงนะ คือไม่ใช่ปานาติบาต แต่มีแนวโน้มที่จะทำให้วันหนึ่งเรามีจิตยินดี คิดฆ่าคนขึ้นมาได้ พูดง่ายๆ ว่าเข้าไปอยู่ในวงโคจรของพวกเพชฌฆาต

คือพอมีจิตยินดีไปกับเขา ตัวนี้นี่ เขาทำอะไร เราก็เข้าไปมีความเป็นอย่างนั้นนั่นแหละ แต่ถ้าแกล้งเล็กๆ น้อยๆ ในแบบที่เอาฮา แล้วมีความรู้สึกขำขันไปด้วย นี่ก็ออกแนวแบบคึกคะนอง คือมีหลายแบบเหลือเกินนะ อย่างพวกที่แกล้งแบบสร้างสรรค์ ลงทุนให้ตัวเองเจ็บตัว แล้วให้คนอื่นอ้าปากหวอ ตกใจอะไรแบบนี้นี่ก็ระดับหนึ่ง แต่ประเภทที่ทำให้เขาเดือดร้อน ให้เขาวิ่งหนีจนจะทับกันตายอะไรแบบนี้ นั่นก็อีกระดับหนึ่ง แล้วแต่ ระดับความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น

ถ้าใจเรามีความยินดีไปกับความเดือดร้อนหนักๆ อย่างนี้ มีผลตรงที่ทำให้เราไปมีส่วนกับที่จะต้องเสวยทุกข์ในแบบนั้นๆ คือไม่หนักเท่ากับคนทำ คนลงมือทำ แต่ว่าจะมีส่วนติดมาด้วย เรียกว่าเป็น กตัตตากรรม คือกรรมนั้นเราไม่ได้จงใจเจตนาด้วยตัวเอง แต่เราพลอยยินดีไปกับผู้ทำ คือพอเห็นผลว่าเกิดอะไรแบบนั้น ก็นึกสนุกไปกับเขา นึกยินดี นึกปลื้มเป็นข้างเดียวกันไปกับเขา ก็ได้ส่วนกรรมเดียวกับเขามา

เวลาที่รับผล สมมติเขาต้องรับเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ เราอาจต้องรับสักสิบเปอร์เซ็นต์อะไรแบบนั้น มันไม่ใช่กรรมอันเกิดจากเราจงใจด้วยตัวเอง แล้วก็มีคนเดือดร้อนเพราะเราเอง แต่เป็นกตัตตากรรม อันเกิดจากการยินดีร่วมไปกับเขา

อีกคำถามที่บอกว่า ถ้าเห็นอย่างแจ่มแจ้งว่าจิตไม่ใช่เราจริงๆ ก็บรรลุมรรคผลเลยนะ คือถ้าหากว่าการเห็นนั้น สตินั้น มีกำลังมากพอที่จะรวมให้จิตเข้าถึงฌานได้ ฌานนั้นจะเป็นมรรคผลนะครับ เพราะว่า จิตเป็นพื้นยืนที่สำคัญของตัวตน อุปทานว่ามีตัวเราก็อยู่ตรงที่ว่าเรามีจิต เรามีความคิด เรากำลังรู้สึกนึกคิดอยู่ เรากำลังมีสภาพทางใจแบบนั้นแบบนี้ ตัวที่มันสำคัญมั่นหมายไปว่าสภาวะของจิตนั้นๆ สภาวะของจิตหนึ่งๆ เป็นตัวเรา พอมันถูกมองได้เป็นครั้งแรกว่า เอ๊ย มันไม่ใช่ มันเป็นแค่ธาตุรู้ วิญญาณธาตุ มันปรากฏขึ้นเดี๋ยวเดียว แล้วเดี๋ยวก็ดับหายไป เหมือนมายากลที่ปรากฏแค่ชั่วคราว แล้วเดี๋ยวก็แปรปรวนไป แปรไปเป็นอื่น ตัวนี้ถ้าหากว่าจิตมีสติ มีกำลังมากพอ แล้วรู้ได้ว่าจิตไม่ใช่เรา ก็โพล่งขึ้นมาเป็นการบรรลุ จะขั้นโสดา (โสดาบัน) หรืออะไรก็แล้วแต่นะครับ

แต่ถ้ายังมีกำลังอ่อน แค่เห็นแผ่วๆ ว่าจิตไม่ใช่เรา ความคิดไม่ใช่เรา มันเป็นเหมือนกับสภาวะ เป็นธาตุอะไรสักอย่างหนึ่ง ที่ปรากฏขึ้นมาชั่วคราวแล้วหายไป โดยไม่มีการรวมเป็นฌานอย่างนั้นก็ไม่ได้มรรคผล แต่ได้เป็นวิปัสสนานะครับ ได้เป็นปัญญาเห็นความจริง ได้เป็นสติรู้เข้าไปในภาวะภายใน แล้วก็จะเป็นบันไดขั้นต่อๆ ไปให้กับวิปัสสนาญาณที่สูงขึ้น

สำหรับคืนนี้ ก็เป็นคืนก่อนที่จะได้ถึงปีใหม่ ก็เป็นปีที่หนักหนาสำหรับหลายๆ คน ในขณะเดียวกันก็เป็นปีของโอกาสสำหรับหลายๆ คนเช่นกัน พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า ศาสนาของท่าน ไม่มีการให้พร เพราะอย่างพระองค์ก็ตรัสบอกว่า ตถาคตเลิกให้พรนานแล้ว แต่คนก็ชอบเรื่องการพูดดีๆให้กัน ทีนี้ผมก็จะทิ้งท้ายนะครับว่า ก่อนสิ้นปี คือธรรมทั้งหมดที่เราได้ยินดีมาร่วมกันตลอดปี ขอให้คงอยู่ แล้วขอให้เจริญขึ้นในปีต่อๆ ไป เพราะว่า ธรรมะ หรือว่ากุศลธรรมที่พวกเราได้ร่วมทางแบบพุทธมาด้วยกัน รับประกันว่าไม่ได้พาเข้ารกเข้าพง แต่จะพาตรงไปสู่สวรรค์ แล้วก็นิพพานอันเป็นที่สุดของความเป็นชาวพุทธนะครับ

-----------------------------------------------------------------------
ปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน สวดมนต์ข้ามปี ชีวิตจะดีจริงไหม?
▶▶ คำถามช่วง ถามตอบ ◀◀
29 ธันวาคม 2561



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น