ดังตฤณ : มีอยู่หลายแบบนะ จะยกตัวอย่างให้ชัดเจนที่สุดก็แล้วกัน
อย่างคนฆ่าตัวตาย ก่อนที่จะลงมือฆ่าตัวตาย
มักจะคิดอะไรสั้นๆ มักจะคิดอะไรได้แค่แคบๆ จำอะไรได้ไม่กี่อย่าง
จำความรู้สึกน้อยใจ จำความรู้สึกเครียด จำความรู้สึก ทนไม่ไหวแล้ว
มีแต่เสียงก้องหัว ทนไม่ไหวแล้ว จะต้องดิ้นรนหนีออกไปให้ได้
ความจำได้ไม่กี่อย่างนั้น พอฆ่าตัวตายไปก็อยู่อย่างนั้นแหละ
คือไปเสวยภพตรงนั้นแหละ ฆ่าตัวตายตรงไหน ก็ผูกใจแน่นอยู่ตรงนั้น
การฆ่าตัวตายซ้ำๆ นี้เรื่องจริงนะ ที่เห็นในหนังหรืออะไร
เขาเอามาจาก บางทีครูบาอาจารย์เล่าให้ฟัง บางทีพวกหมอผีมาบอก
ประเภทที่วิญญาณเฮี้ยนมาปรากฏตัว แสดงอาการฆ่าตัวตายให้ดู
คือมันวนเวียนอยู่กับความจำ อย่างที่อธิบายตอนต้นรายการ
บอกว่าถ้าเวทนาเข้มข้น สัญญาก็เข้มข้นเช่นกัน
เรื่องนี้ก็ด้วยนะ คือถ้าเวทนาสุดท้ายมีความเข้มข้นแบบไหนมาก
ความจำที่ผูกติดอยู่กับเวทนานั้น หรือสัญญาที่ผูกติดอยู่กับเวทนานั้น
ก็แจ่มชัดตามไปด้วย แล้วก็ไปปรุงแต่งให้เกิดร่างใหม่ ร่างของเปรตที่เสวยเวทนา แล้วก็สัญญาแบบเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา ตราบเท่าที่ยังไม่หมดอายุของความเป็นเปรตแบบนั้น
มักจะคิดอะไรสั้นๆ มักจะคิดอะไรได้แค่แคบๆ จำอะไรได้ไม่กี่อย่าง
จำความรู้สึกน้อยใจ จำความรู้สึกเครียด จำความรู้สึก ทนไม่ไหวแล้ว
มีแต่เสียงก้องหัว ทนไม่ไหวแล้ว จะต้องดิ้นรนหนีออกไปให้ได้
ความจำได้ไม่กี่อย่างนั้น พอฆ่าตัวตายไปก็อยู่อย่างนั้นแหละ
คือไปเสวยภพตรงนั้นแหละ ฆ่าตัวตายตรงไหน ก็ผูกใจแน่นอยู่ตรงนั้น
การฆ่าตัวตายซ้ำๆ นี้เรื่องจริงนะ ที่เห็นในหนังหรืออะไร
เขาเอามาจาก บางทีครูบาอาจารย์เล่าให้ฟัง บางทีพวกหมอผีมาบอก
ประเภทที่วิญญาณเฮี้ยนมาปรากฏตัว แสดงอาการฆ่าตัวตายให้ดู
คือมันวนเวียนอยู่กับความจำ อย่างที่อธิบายตอนต้นรายการ
บอกว่าถ้าเวทนาเข้มข้น สัญญาก็เข้มข้นเช่นกัน
เรื่องนี้ก็ด้วยนะ คือถ้าเวทนาสุดท้ายมีความเข้มข้นแบบไหนมาก
ความจำที่ผูกติดอยู่กับเวทนานั้น หรือสัญญาที่ผูกติดอยู่กับเวทนานั้น
ก็แจ่มชัดตามไปด้วย แล้วก็ไปปรุงแต่งให้เกิดร่างใหม่ ร่างของเปรตที่เสวยเวทนา แล้วก็สัญญาแบบเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา ตราบเท่าที่ยังไม่หมดอายุของความเป็นเปรตแบบนั้น
พูดง่ายๆ ว่าฆ่าตัวตายแบบที่กำลังคิดสั้น
ก็ได้เสวยอารมณ์ก่อนฆ่าตัวตายไปเรื่อยๆ ก็จำได้อยู่แค่นั้น
แต่ไม่รู้ว่าตัวเองน่ะ ตายแล้ว
บางคนก็รู้ รู้แล้วก็เสียใจ แล้วก็แก้ไขอะไรไม่ได้
นี้เป็นตัวอย่างว่า ถ้าตายจากมนุษย์ไปสู่ความเป็นเปรต มักจะจำได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเภทที่ตายไปแบบยังมีความยึดมั่นถือมั่นแบบมนุษย์อยู่สูง
ความทรงจำ แล้วก็ความรู้สึกแบบมนุษย์ก็จะยังติดตัวตามไป
ก็ได้เสวยอารมณ์ก่อนฆ่าตัวตายไปเรื่อยๆ ก็จำได้อยู่แค่นั้น
แต่ไม่รู้ว่าตัวเองน่ะ ตายแล้ว
บางคนก็รู้ รู้แล้วก็เสียใจ แล้วก็แก้ไขอะไรไม่ได้
นี้เป็นตัวอย่างว่า ถ้าตายจากมนุษย์ไปสู่ความเป็นเปรต มักจะจำได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเภทที่ตายไปแบบยังมีความยึดมั่นถือมั่นแบบมนุษย์อยู่สูง
ความทรงจำ แล้วก็ความรู้สึกแบบมนุษย์ก็จะยังติดตัวตามไป
แต่ถ้าหล่นลงไปไกล ลงไปลึกมากๆ ไปเป็นสัตว์นรก
จะมีเวทนาที่แตกต่างจากความเป็นมนุษย์มาก
คือพอไปอยู่ในนรกที่มันเผ็ดร้อน ที่แสบร้อนมากๆ ... หมดกัน ...
คือจิตที่เสวยอารมณ์ทุกข์แก่กล้ามากๆ มากกว่าตอนเป็นมนุษย์
จะทำให้ความจำแบบมนุษย์ค่อยๆ หายไปอย่างรวดเร็ว
ลองนึกดูถึงความฝัน ตอนคุณฝันร้ายมากๆ จะจำไม่ได้นะว่าคุณเป็นใคร
จำได้แต่มีอาการวิ่งหนี จำได้แต่มีอาการ หน้าตื่น กลัว
เกิดความรู้สึกว่าลนลาน หาที่พึ่งอะไรแบบนั้น
จะจำไม่ได้แล้วว่าตัวเราชื่ออะไร มีแต่ความรู้สึกอยู่ในขณะนั้นว่าต้องวิ่งหนี
หรือว่าต้องทรมาน ปวดแสบปวดร้อน หรือว่าร้องโอดโอย
แต่ก็จะมีสัตว์นรกบางประเภทที่ ก่อนที่จะเสวยโทษทัณฑ์ก็จะมีนิมิตปรากฏขึ้นมา
ว่าเมื่อครั้งเป็นมนุษย์เคยไปทำอะไรถึงได้มารับผลแบบนั้น
มีแยกย่อยไปอีกเยอะ
อย่างถ้าตายจากความเป็นมนุษย์ไปสู่ความเป็นสัตว์
ถ้าไปเป็นหมาทันที ไปเป็นแมวทันที หรือไปเป็นลิง
ที่มีความผูกพัน หรือว่ามีความใกล้เคียงกับมนุษย์
สามารถที่จะกลับมาข้องเกี่ยวกับมนุษย์ได้อีก บางทีจำได้นะ
ผมเห็นสัตว์หลายตัว พวกหมา พวกแมว คุยกับมนุษย์รู้เรื่องนะ
ฟังรู้เรื่องทุกคำ แล้วก็คิดได้แบบมนุษย์ด้วย แต่ไม่สามารถพูด ไม่สามารถสื่อสารได้
สัตว์บางตัวจิตแรงมาก สามารถมาเข้าฝันมนุษย์ได้
แล้วก็พอไม่มีกำแพงกั้นเกี่ยวกับเรื่องภาษา สื่อจิตถึงจิตได้
สัตว์บางตัวมาบอกมนุษย์ได้นะว่าต้องการอะไร รู้สึกอย่างไร
หลายๆคนที่รักสัตว์มากๆ เลี้ยงราวกับเป็นลูก บางทีก็เลยฝันถึง
แล้วก็รับรู้อารมณ์ของสัตว์ที่ตัวเองรักมากๆ ราวกับว่าเป็นมนุษย์คนหนึ่ง
ฉะนั้น อันนี้ก็ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมบางทีถึงเกิดความรู้สึกผูกพันกันเหลือเกิน
ราวกับว่าเป็นมนุษย์ด้วยกัน
จะมีเวทนาที่แตกต่างจากความเป็นมนุษย์มาก
คือพอไปอยู่ในนรกที่มันเผ็ดร้อน ที่แสบร้อนมากๆ ... หมดกัน ...
คือจิตที่เสวยอารมณ์ทุกข์แก่กล้ามากๆ มากกว่าตอนเป็นมนุษย์
จะทำให้ความจำแบบมนุษย์ค่อยๆ หายไปอย่างรวดเร็ว
ลองนึกดูถึงความฝัน ตอนคุณฝันร้ายมากๆ จะจำไม่ได้นะว่าคุณเป็นใคร
จำได้แต่มีอาการวิ่งหนี จำได้แต่มีอาการ หน้าตื่น กลัว
เกิดความรู้สึกว่าลนลาน หาที่พึ่งอะไรแบบนั้น
จะจำไม่ได้แล้วว่าตัวเราชื่ออะไร มีแต่ความรู้สึกอยู่ในขณะนั้นว่าต้องวิ่งหนี
หรือว่าต้องทรมาน ปวดแสบปวดร้อน หรือว่าร้องโอดโอย
แต่ก็จะมีสัตว์นรกบางประเภทที่ ก่อนที่จะเสวยโทษทัณฑ์ก็จะมีนิมิตปรากฏขึ้นมา
ว่าเมื่อครั้งเป็นมนุษย์เคยไปทำอะไรถึงได้มารับผลแบบนั้น
มีแยกย่อยไปอีกเยอะ
อย่างถ้าตายจากความเป็นมนุษย์ไปสู่ความเป็นสัตว์
ถ้าไปเป็นหมาทันที ไปเป็นแมวทันที หรือไปเป็นลิง
ที่มีความผูกพัน หรือว่ามีความใกล้เคียงกับมนุษย์
สามารถที่จะกลับมาข้องเกี่ยวกับมนุษย์ได้อีก บางทีจำได้นะ
ผมเห็นสัตว์หลายตัว พวกหมา พวกแมว คุยกับมนุษย์รู้เรื่องนะ
ฟังรู้เรื่องทุกคำ แล้วก็คิดได้แบบมนุษย์ด้วย แต่ไม่สามารถพูด ไม่สามารถสื่อสารได้
สัตว์บางตัวจิตแรงมาก สามารถมาเข้าฝันมนุษย์ได้
แล้วก็พอไม่มีกำแพงกั้นเกี่ยวกับเรื่องภาษา สื่อจิตถึงจิตได้
สัตว์บางตัวมาบอกมนุษย์ได้นะว่าต้องการอะไร รู้สึกอย่างไร
หลายๆคนที่รักสัตว์มากๆ เลี้ยงราวกับเป็นลูก บางทีก็เลยฝันถึง
แล้วก็รับรู้อารมณ์ของสัตว์ที่ตัวเองรักมากๆ ราวกับว่าเป็นมนุษย์คนหนึ่ง
ฉะนั้น อันนี้ก็ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมบางทีถึงเกิดความรู้สึกผูกพันกันเหลือเกิน
ราวกับว่าเป็นมนุษย์ด้วยกัน
อย่างสมัยพุทธกาล ก็มีกรณีที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสเอง
ว่ามีเศรษฐีคนหนึ่ง ตอนมีชีวิตอยู่ฝังเงินใส่ตุ่ม
คือ งกมาก มีเงินไม่ได้เอาไปใช้ ไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์
ไม่ได้ทำบุญทำกุศลอะไร ไปฝังตุ่มเสียอย่างนั้น แล้วก็ไม่ให้ลูกให้หลานด้วย
เดี๋ยวนี้ก็มีแบบนั้น คือ รวยจนโง่ รวยจนแบบว่าใช้เงินไม่เป็น
รวยแบบไม่หัดให้ทาน สมบัติก็ไม่ได้เอาไปไหน ฝังไว้ตามพื้นบ้าน
เสร็จแล้วตายไป ด้วยความที่มีความตระหนี่จัดก็เลยเป็นเหตุให้ไปเป็นหมา
ทีนี้เป็นหมาที่เกิดใกล้บ้านเก่าตัวเอง แล้วมาเจอลูกหลาน
ก็มาเห่าอยู่ ลูกหลานก็ไล่ตะเพิด ไม่ดูดำดูดี เพราะจำไม่ได้
ว่านี่พ่อตัวเอง ปู่ตัวเอง ตาของตัวเอง กลับมาเกิดเป็นหมา
ว่ามีเศรษฐีคนหนึ่ง ตอนมีชีวิตอยู่ฝังเงินใส่ตุ่ม
คือ งกมาก มีเงินไม่ได้เอาไปใช้ ไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์
ไม่ได้ทำบุญทำกุศลอะไร ไปฝังตุ่มเสียอย่างนั้น แล้วก็ไม่ให้ลูกให้หลานด้วย
เดี๋ยวนี้ก็มีแบบนั้น คือ รวยจนโง่ รวยจนแบบว่าใช้เงินไม่เป็น
รวยแบบไม่หัดให้ทาน สมบัติก็ไม่ได้เอาไปไหน ฝังไว้ตามพื้นบ้าน
เสร็จแล้วตายไป ด้วยความที่มีความตระหนี่จัดก็เลยเป็นเหตุให้ไปเป็นหมา
ทีนี้เป็นหมาที่เกิดใกล้บ้านเก่าตัวเอง แล้วมาเจอลูกหลาน
ก็มาเห่าอยู่ ลูกหลานก็ไล่ตะเพิด ไม่ดูดำดูดี เพราะจำไม่ได้
ว่านี่พ่อตัวเอง ปู่ตัวเอง ตาของตัวเอง กลับมาเกิดเป็นหมา
พระพุทธเจ้าท่านเห็นประโยชน์ ท่านก็เลยสงเคราะห์บอกว่า
นี่คือพ่อของเธอในชาติก่อน นี่คือตาของเธอ นี่คือปู่ของเธอมาเกิดเป็นแบบนี้
พอคนฟังก็ไม่เชื่อ พระพุทธเจ้าก็เลยบอกให้มันนำไป
หาสมบัติที่ฝังอยู่ตามจุดไหนของบ้าน บอกได้ถูกหมดเลย
พวกนั้นเลยเชื่อ ว่านี่เป็นผู้ใหญ่ในบ้านที่เคยเป็นท่านเศรษฐีจริงๆ
แต่ก็มาปรากฏในรูป ของสุนัขเสียแล้ว
นี่ก็เป็นตัวอย่างให้เห็นว่า
ถ้าเพิ่งไปจากความเป็นมนุษย์ สู่ความเป็นสัตว์เดรัจฉาน
แล้วก็อยู่ในละแวกสถานที่แบบเดิมๆ ที่กระตุ้นให้เกิดความจำได้ ก็จะยังจำได้อยู่
แต่ถ้าไปเกิดเป็นสัตว์นานแล้วหลายภพหลายชาติ ไม่ออกจากความเป็นสัตว์ซะที
อย่างครูบาอาจารย์ที่เคารพของเรา บางท่านก็มาเล่าให้ฟังเป็นอุทธาหรณ์
บอกว่าพอท่านพลัดพลาดลงไป เกิดเป็นสุนัข ท่านอยู่อย่างนั้นหมื่นชาติ
เพราะว่าติดใจกามแบบสุนัข หรือว่าภาวะแบบสุนัข
ท่านระลึกชาติได้ ท่านก็ร้องไห้สงสารตัวเองนะ
บอกว่าโอ้โห สังสารวัฏนี่น่ากลัวจริงๆ พลาดลงไปทีเดียว
บางทีไม่รู้เลยนะว่านานเท่าไหร่กว่าจะได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก
ถ้าพูดถึงเรื่องความจำหลังความตาย เอาง่ายๆว่า
หากกลับมาเกิดในโลกนี้ จะในสภาพของมนุษย์หรือในสภาพของสัตว์ก็แล้วแต่
ถ้ามาอยู่ในละแวกเดิม ส่วนใหญ่จะระลึกชาติได้
อย่างเด็กระลึกชาติได้กันเยอะ
เพราะว่าหลายคนกลับมาเกิดในที่ที่จะเห็นหน้าคนเก่าๆ
เห็นสิ่งแวดล้อมแบบเดิมๆ ก็เลยกระตุ้นความทรงจำกลับมานะครับ
แต่อย่างถ้าไปเกิดเป็นสัตว์ประเภทมด หนู ตัวเล็กๆ สมองเล็กๆ
สัตว์นี่นะ หู ตา จมูก เวลาที่รับประสบการณ์โลกภายนอกเข้ามา ไม่เหมือนกับมนุษย์
ยิ่งสัตว์ตัวเล็กลงเท่าไหร่ ยิ่งมีประสาทสมองน้อยลงเท่าไหร่
ยิ่งมีความมัว มีความพร่าเลือน มีความไม่ชัดเจน แล้วก็จำอะไรไม่ได้
ต่อให้มาเกิดในบ้านตัวเองแต่เป็นหนู สภาพที่มันใหญ่ขึ้น
สภาพที่บ้านไม่ปรากฏเป็นบ้านแบบเดิม ก็ทำให้จำอะไรไม่ได้
ขึ้นกับสภาพแวดล้อมที่ไปเกิดด้วยนะครับ
ถ้าไปเกิดเป็นเทวดา หรือพรหม
คิดว่าน่าจะเกือบร้อยทั้งร้อย จะระลึกได้ว่าตัวเองมาจากไหน
ที่จำไม่ได้ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกมิจฉาทิฏฐิ
พวกที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ ไม่ใช่ไปนรกอย่างเดียว ไปเป็นเทวดาได้ด้วย
เพราะคำว่ามิจฉาทิฏฐิคือ การตั้งความเห็นไว้ไม่ถูก การตั้งความเห็นไว้ไม่ตรง
คือแค่ถ้าไม่เชื่อว่า นรกสวรรค์มี หรือว่าวิบากกรรมมี
ถ้าไม่เชื่อส่วนตัวนะยังไม่เป็นไรเท่าไหร่
เพราะหลายคน ถึงแม้ว่าจะไม่เชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด
แต่ก็ไม่ทำบาปทำกรรม แล้วก็ยังทำบุญทำกุศล
ด้วยใจชอบให้ตัวเองเป็นอย่างนั้นนะครับ
ตายไปก็มีสิทธิ์ได้ไปสวรรค์อย่างที่พระพุทธเจ้าตรัส
“ถึงแม้จะไม่ปรารถนาไปสวรรค์ แต่ถ้าทำถูกเหตุถูกผลที่จะได้ไปสวรรค์ ก็ได้ไปสวรรค์อยู่ดี”
แต่ถ้าหากว่าเป็นพวกที่ ไม่แค่มีความไม่เชื่อไว้เป็นส่วนตัว
แต่ไปเผยแพร่แล้วก็พยายามทำให้คนอื่นเชื่อว่า
... ไม่มีหรอก นรก สวรรค์ รับประกันได้ เป็นเรื่องหลอกเด็ก นิทาน จนป่านนี้ยังมาเชื่ออะไรอีก ...
เหล่านี้ จะก่อมโนกรรม วจีกรรม แล้วก็กายกรรมที่ห่อหุ้ม
ให้บางทีต่อให้ได้ดิบได้ดี ไปเกิดเป็นเทวดา ก็ลืม ลืมว่าตัวเองเคยเป็นใครมา
เหมือนกับว่าวิบากที่เคยไปพยายามเค้นคอให้คนอื่นไม่เชื่อ
เรื่องการเวียนว่ายตายเกิด หรือว่าเรื่องการมีวิบากของกรรม
ทำให้ไปเกิดใหม่ แล้วก็ถูกบล็อคความจำ คือนึกว่าตัวเองเกิดมาก็เป็นเทวดาอย่างนี้เลย
หรือแม้แต่พระพรหม ต่อให้เป็นพระพรหมที่รู้แจ้งจักรวาล
บางทีรู้ภพภูมิอะไรอื่นหมด เห็นคนอื่นเกิดตายอะไรหมด
แต่ไม่เห็นตัวเองเกิดตายเลย ก็หลงยึดว่าตัวเองเป็นต้นกำเนิดจักรวาล
เป็นผู้สร้างภพภูมิ นี่ก็เป็นมิจฉาทิฏฐิได้หลายแบบนะครับ
มิจฉาทิฏฐิก็ทำให้ ต่อให้เป็นเทพเจ้า
ก็ไม่สามารถที่จะจำได้ว่าตัวเองเคยทำอะไรมา ถึงได้มาสู่ความเป็นแบบนี้!
นี่คือพ่อของเธอในชาติก่อน นี่คือตาของเธอ นี่คือปู่ของเธอมาเกิดเป็นแบบนี้
พอคนฟังก็ไม่เชื่อ พระพุทธเจ้าก็เลยบอกให้มันนำไป
หาสมบัติที่ฝังอยู่ตามจุดไหนของบ้าน บอกได้ถูกหมดเลย
พวกนั้นเลยเชื่อ ว่านี่เป็นผู้ใหญ่ในบ้านที่เคยเป็นท่านเศรษฐีจริงๆ
แต่ก็มาปรากฏในรูป ของสุนัขเสียแล้ว
นี่ก็เป็นตัวอย่างให้เห็นว่า
ถ้าเพิ่งไปจากความเป็นมนุษย์ สู่ความเป็นสัตว์เดรัจฉาน
แล้วก็อยู่ในละแวกสถานที่แบบเดิมๆ ที่กระตุ้นให้เกิดความจำได้ ก็จะยังจำได้อยู่
แต่ถ้าไปเกิดเป็นสัตว์นานแล้วหลายภพหลายชาติ ไม่ออกจากความเป็นสัตว์ซะที
อย่างครูบาอาจารย์ที่เคารพของเรา บางท่านก็มาเล่าให้ฟังเป็นอุทธาหรณ์
บอกว่าพอท่านพลัดพลาดลงไป เกิดเป็นสุนัข ท่านอยู่อย่างนั้นหมื่นชาติ
เพราะว่าติดใจกามแบบสุนัข หรือว่าภาวะแบบสุนัข
ท่านระลึกชาติได้ ท่านก็ร้องไห้สงสารตัวเองนะ
บอกว่าโอ้โห สังสารวัฏนี่น่ากลัวจริงๆ พลาดลงไปทีเดียว
บางทีไม่รู้เลยนะว่านานเท่าไหร่กว่าจะได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก
ถ้าพูดถึงเรื่องความจำหลังความตาย เอาง่ายๆว่า
หากกลับมาเกิดในโลกนี้ จะในสภาพของมนุษย์หรือในสภาพของสัตว์ก็แล้วแต่
ถ้ามาอยู่ในละแวกเดิม ส่วนใหญ่จะระลึกชาติได้
อย่างเด็กระลึกชาติได้กันเยอะ
เพราะว่าหลายคนกลับมาเกิดในที่ที่จะเห็นหน้าคนเก่าๆ
เห็นสิ่งแวดล้อมแบบเดิมๆ ก็เลยกระตุ้นความทรงจำกลับมานะครับ
แต่อย่างถ้าไปเกิดเป็นสัตว์ประเภทมด หนู ตัวเล็กๆ สมองเล็กๆ
สัตว์นี่นะ หู ตา จมูก เวลาที่รับประสบการณ์โลกภายนอกเข้ามา ไม่เหมือนกับมนุษย์
ยิ่งสัตว์ตัวเล็กลงเท่าไหร่ ยิ่งมีประสาทสมองน้อยลงเท่าไหร่
ยิ่งมีความมัว มีความพร่าเลือน มีความไม่ชัดเจน แล้วก็จำอะไรไม่ได้
ต่อให้มาเกิดในบ้านตัวเองแต่เป็นหนู สภาพที่มันใหญ่ขึ้น
สภาพที่บ้านไม่ปรากฏเป็นบ้านแบบเดิม ก็ทำให้จำอะไรไม่ได้
ขึ้นกับสภาพแวดล้อมที่ไปเกิดด้วยนะครับ
ถ้าไปเกิดเป็นเทวดา หรือพรหม
คิดว่าน่าจะเกือบร้อยทั้งร้อย จะระลึกได้ว่าตัวเองมาจากไหน
ที่จำไม่ได้ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกมิจฉาทิฏฐิ
พวกที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ ไม่ใช่ไปนรกอย่างเดียว ไปเป็นเทวดาได้ด้วย
เพราะคำว่ามิจฉาทิฏฐิคือ การตั้งความเห็นไว้ไม่ถูก การตั้งความเห็นไว้ไม่ตรง
คือแค่ถ้าไม่เชื่อว่า นรกสวรรค์มี หรือว่าวิบากกรรมมี
ถ้าไม่เชื่อส่วนตัวนะยังไม่เป็นไรเท่าไหร่
เพราะหลายคน ถึงแม้ว่าจะไม่เชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด
แต่ก็ไม่ทำบาปทำกรรม แล้วก็ยังทำบุญทำกุศล
ด้วยใจชอบให้ตัวเองเป็นอย่างนั้นนะครับ
ตายไปก็มีสิทธิ์ได้ไปสวรรค์อย่างที่พระพุทธเจ้าตรัส
“ถึงแม้จะไม่ปรารถนาไปสวรรค์ แต่ถ้าทำถูกเหตุถูกผลที่จะได้ไปสวรรค์ ก็ได้ไปสวรรค์อยู่ดี”
แต่ถ้าหากว่าเป็นพวกที่ ไม่แค่มีความไม่เชื่อไว้เป็นส่วนตัว
แต่ไปเผยแพร่แล้วก็พยายามทำให้คนอื่นเชื่อว่า
... ไม่มีหรอก นรก สวรรค์ รับประกันได้ เป็นเรื่องหลอกเด็ก นิทาน จนป่านนี้ยังมาเชื่ออะไรอีก ...
เหล่านี้ จะก่อมโนกรรม วจีกรรม แล้วก็กายกรรมที่ห่อหุ้ม
ให้บางทีต่อให้ได้ดิบได้ดี ไปเกิดเป็นเทวดา ก็ลืม ลืมว่าตัวเองเคยเป็นใครมา
เหมือนกับว่าวิบากที่เคยไปพยายามเค้นคอให้คนอื่นไม่เชื่อ
เรื่องการเวียนว่ายตายเกิด หรือว่าเรื่องการมีวิบากของกรรม
ทำให้ไปเกิดใหม่ แล้วก็ถูกบล็อคความจำ คือนึกว่าตัวเองเกิดมาก็เป็นเทวดาอย่างนี้เลย
หรือแม้แต่พระพรหม ต่อให้เป็นพระพรหมที่รู้แจ้งจักรวาล
บางทีรู้ภพภูมิอะไรอื่นหมด เห็นคนอื่นเกิดตายอะไรหมด
แต่ไม่เห็นตัวเองเกิดตายเลย ก็หลงยึดว่าตัวเองเป็นต้นกำเนิดจักรวาล
เป็นผู้สร้างภพภูมิ นี่ก็เป็นมิจฉาทิฏฐิได้หลายแบบนะครับ
มิจฉาทิฏฐิก็ทำให้ ต่อให้เป็นเทพเจ้า
ก็ไม่สามารถที่จะจำได้ว่าตัวเองเคยทำอะไรมา ถึงได้มาสู่ความเป็นแบบนี้!
ปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน ผิดศีลในฝันบาปไหม?
▶▶ คำถามช่วง – ถามตอบ ◀◀
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น