วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2562

ปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน ให้คนใกล้ตายฟัง ))เสียงสติ(( จะช่วยไหม?


ดังตฤณ : อย่างที่นัดหมาย เราจะมานั่งสมาธิและแผ่เมตตาร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้พิเศษตรงที่ เรามี update เสียงสติเวอร์ชั่น (version) ใหม่ และเสียงนี้เท่าที่ลองด้วยตนเองและฟังจากเสียงฟีดแบค น่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่ work ที่สุด กล่าวคือจะใช้เวลาสั้นมากในการทำให้เกิดความสงบ และจะมีการใช้เทคนิคนิดหนึ่ง ในการช่วยให้จิตเข้าสู่ภาวะโฟกัส ซึ่งยังไม่เคยใช้เทคนิคนี้ในเวอร์ชั่นไหนมาก่อน

คุยกันนิดหนึ่งในช่วงต้นรายการ เพราะตอนนี้มีคนที่ทำแล้วได้ผลกันเยอะ แล้วก็มีคำถามที่เกิดจากความอยากรู้อยากเห็น หรืออยากจะเอาไปประยุกต์กับสิ่งที่เป็นชีวิตแวดล้อมของตัวเอง อย่างเช่นว่า อยากจะให้คนที่กำลังจะจวนอยู่จวนไป ให้คนที่นอนติดเตียง หรือว่าใกล้ๆ เหมือนกับแทบจะไม่รับรู้อะไรแล้ว ฟังเสียงสติ

ไม่ใช่ว่าผมเห็นทุกเคสมาแล้วนะ ผมได้แค่บอกกว้างๆ อย่างนี้แล้วกัน ตอนที่คุณหัวโล่ง ตอนที่คุณรู้สึกว่า ฟังแล้วสบายไปทั้งตัวนั่นแหละ ตรงนั้น ถ้าสมมติถ้าคุณจะต้องตาย ณ เวลานั้น ครึ่งหนึ่ง หรือ 50
% ได้ไปดีแน่นอน

ส่วนจะไปดีแค่ไหน ขึ้นกับว่าเราระลึกถึงบุญแบบไหนได้ในช่วงท้าย ในตอนที่หัวโล่งนั้น หรือว่า อาจิณณกรรมของคุณในทางที่เป็นกุศล ผลักดันให้ไปในทิศทางไหน จะขึ้นไปได้สูงแค่ไหน หรือว่ามีสิทธิ์ที่จะพ้นจากความยึดติด พ้นจากอุปาทานในกายใจ ในขันธ์ห้าหรือเปล่า ขึ้นกับที่สะสมมา

แต่การที่หัวโล่ง ตัวโล่ง รู้สึกจิตเป็นกุศล คือครึ่งหนึ่งแล้ว เป็นฐานให้แล้ว ทีนี้ในแง่ที่เอาไปให้คนที่เป็นญาติ หรือว่าเขายังไม่เคยมีแนวคิด หรือว่าอยากนั่งสมาธิ ก็ไม่แน่ ไม่สามารถบอกได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แบบตายตัว ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะอย่างที่เห็นเท่าที่ลองมา หลายคนผู้สูงอายุ หรือว่าคนที่บางทีนึกไม่ถึงว่าจะฟังได้ ก็ปรากฏว่าฟังได้ นึกไม่ถึงว่าจะได้ผล มีจิตคุณภาพแบบผิดความคาดหมาย ก็เกิดขึ้นนะ แต่กับบางคนดูเหมือนกับน่าจะได้ แต่ก็ไม่ได้ ก็มี

นี่คือต้องบอกเป็นกลางๆ นะครับว่า ตอนนี้ที่รู้แน่ๆ รู้จริงๆคือ ถ้ามีความเข้าใจ เป็นคนที่อยากนั่งสมาธิมาก่อนแล้วทำไม่ได้มาตลอดชีวิต มาฟัง จะได้ผลดีเป็นพิเศษ เพราะจะมีความตั้งอกตั้งใจ และทิศทางของจิตจะเปิดรับ อย่างบอกว่า ให้ฟัง แล้วสังเกตลมหายใจไป ก็จะสังเกต แต่บางทีด้วยความที่อยากเอาแนวของตัวเองที่เคยชินมา แบบนั้นก็ไม่แน่ไม่นอนนะครับ บางคนบอกว่าบริกรรมพุทโธไป แล้วได้ผล ในขณะที่อีกหลายคนบริกรรมพุทโธแบบหนักๆ ไปตั้งใจเค้น พอไปบริกรรมพุทโธระหว่างฟัง สมองส่วนหน้าก็เลยทำงานหนัก แล้วก็ต้านเสียง ต้านการจูนสมอง มีตัวแปรเยอะมาก ฉะนั้น ถ้าจะมาเอาคำตอบกันอย่างแจ่มชัด อย่างแน่นอน ว่าคนใกล้ตายสามารถฟังแล้วมีประโยชน์ได้ไหม ก็ขึ้นกับว่า ทดลองแล้ว แก้วหูยังดี มีใจเปิดรับกับเรื่องของการทำสมาธิ แล้วก็ฟังเข้าใจว่า ที่มีเสียงหึ่งๆ เป็นเสียงของการจูนสมอง ไม่ใช่เสียงดนตรีที่กล่อมให้เกิดความเพลิดเพลิน เคลิบเคลิ้ม แล้วก็ต้องรู้สึกถึงลมหายใจไปด้วย

ทำไมถึงต้องรู้สึก เพราะเสียงนี่จะจูน ผมออกแบบมาให้จูนในเรื่องของการรับรู้ลมหายใจโดยเฉพาะ คือระบบการหายใจ จะมีความยืดหยุ่นสูงขึ้น จะมีความรู้สึกว่า จมูกโล่ง ตัวโล่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวอร์ชั่นที่จะเปิดให้ฟังพร้อมกัน จะมีความพิเศษตรงที่ใช้เทคนิคหลายอย่างเพิ่มเข้าไป

สรุป สำหรับคำตอบเบื้องต้น กับคำถามที่ว่า ฟังเสียงสติ ช่วยคนใกล้ตายได้หรือไม่ ก็บอกง่ายๆ เลยว่าถ้าเขาเข้าใจสิ่งที่เราพยายามจะให้ว่า นี้เป็นเหมือนกับเครื่องช่วยให้สมองถูกจูนเข้าสู่ภาวะที่คิดอะไรดีๆ คิดอะไรเป็นกุศล และมีความสงบ และสมองจะเข้าสู่โหมดปรับให้ร่างกายมีความยืดหยุ่นพร้อมจะเป็นสมาธิ แล้วเขายอมฟัง ยอมดูลมหายใจ โอกาสที่จะช่วยให้ไปดี มีสูงมาก เพราะว่าตอนคนเราหัวโล่ง ตัวโล่ง จะคิดแต่เรื่องอะไรดีๆ จะจดจำได้ บางคนมาเล่าให้ฟัง คนอายุมากแล้วบอกว่า ฟังไปแล้วความจำเก่าๆ ผุดขึ้นมาจากไหนไม่รู้ นึกว่าลืมไปหมดแล้ว ตรงนี้ถ้าหากว่าเราเอาไปให้คนที่กำลังจะต้องเปลี่ยนภพเปลี่ยนภูมิฟังด้วยความตั้งใจ อยากให้เขานึกอะไรดีๆ ได้ แบบแจ่มชัด ก็มีสิทธิ์สูง

อย่างพอฟังเสียงสติเสร็จแล้วไปชวนคุย รื้อฟื้นเรื่องเก่าๆ ที่เกี่ยวกับการทำบุญด้วยกัน ก็จะเหมือนกับค่อยๆ ดึงเขากลับเข้าสู่ภาพนิมิตที่จะยึดไว้ในแบบอาศัยเป็นที่พึ่งที่แท้จริง เพราะที่พึ่งที่แท้จริงพระพุทธเจ้าตรัสว่า ก็คือกรรม ก็คือบุญของเราที่ทำไว้ แล้วก็ยังจำได้อยู่

บุญบางอย่างจำไม่ได้แล้ว แต่ก็จะเรียงแถวเรียงคิวกันเข้ามา ถ้าหากว่าได้อะไรที่เป็นตัวหลักที่จำได้แม่นๆ อย่างเช่น มีความชื่นใจว่าได้ไปใส่บาตรพระกับลูกอะไรแบบนี้ แล้วความชื่นใจนั้นก็ไปดึงเอาความจำตั้งแต่ที่ตนเองเคยใส่บาตรคนเดียว เคยใส่บาตรกับคุณพ่อคุณแม่ตั้งแต่สมัยเด็กอะไรแบบนี้ ก็เป็นไปได้ แล้วก็จะทำให้ชีวิตของคนๆนั้น เต็มไปด้วยสิ่งดีๆ ในชีวิต ช่วงท้ายถ้ามีความชื่นใจ มีความรู้สึกดีๆ อย่างมาก โอกาสจะไปไม่ดี ค่อนข้างต่ำ ต่อให้ทำบาปทำกรรมมาเยอะหน่อย แต่ไม่ถึงขั้นอนันตริยกรรม คือทำบาปทำกรรมมาแต่ช่วงท้ายๆ มีแต่ความรู้สึกดีๆ คิดถึงอะไรดีๆ และจิตใจสว่าง ตัวโล่ง หัวโล่ง ก็จะเรียกว่า มีอสัญกรรม หรือ กรรมเมื่อใกล้ตาย คิดอะไรดีๆ หน่วงอะไรดีๆ ไว้ ยังไงได้ไปดีก่อน โอกาสที่จะมีบาปมีกรรมเล็กๆ น้อยๆ หรือแม้กระทั่งบาปใหญ่ๆ ที่จะเข้ามาปะทะจิตให้เกิดความเสียหายก่อนตาย ก็ต่ำลงนะครับ

สำหรับเสียงใหม่ ถ้าใครยังไม่เคย
download นะครับ ก็เข้าไปที่
http://dungtrin.com/BB/

เข้าไปที่ “คลื่นสมาธิ” http://dungtrin.com/BB/Meditation.html

ผมจะตั้งชื่อให้เห็นง่ายๆ ชัดๆ เลย


เสียงที่หนึ่ง ซึ่งเป็นเสียงที่เราเพิ่งร่วมทำสมาธิแผ่เมตตากันไป จะตั้งชื่อไว้ “ปัดเป่าความฟุ้งซ่าน”
เสียงที่สอง เอาใจคนชอบสบาย กะฟังแบบสบาย บอกเลยเป็นภาษาให้เข้าใจง่ายๆ ชัดๆ ว่า “พร้อมนอน” คือฟังแล้วจะง่วง
เสียงที่สาม ก็เป็น “สมาธิจงกรมครึ่งชั่วโมง”
เสียงที่สี่ เป็น “สมาธิจงกรม ๑ ชั่วโมง”

ถ้านั่งไหว อยากให้ลอง จะมีพัฒนาการมาเรื่อยๆ อย่างเริ่มฟังจากเจ็ดนาที แล้วก็ไต่ขึ้นมาเป็นครึ่งชั่วโมง ถ้ามีความสุข จะมีความรู้สึกว่า แป๊บเดียวเท่านั้นเอง และถ้านั่งหนึ่งชั่วโมงได้ นั่งไปสักหนึ่งสัปดาห์ ทุกวัน คุณจะรู้สึกเลยและอยากให้ฟีดแบคมาด้วยว่าเห็นความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับสุขภาพ หรือผลที่เกิดขึ้นทางชีวภาพชัดๆ อย่างไร ตอนนี้มีฟีดแบคมาจนเกิดความรู้สึกว่า อยากให้ฟังกันทุกคนเลย โดยเฉพาะพวกหัวร้อน จริงๆ พวกหัวร้อนง่าย มันมีความผิดปกติทางชีวภาพของสมองขึ้นมาโดยที่คุณไม่รู้ตัว ถ้าหากว่าสามารถทำได้ ฟังเสียงหนึ่งชั่วโมงได้ต่อเนื่อง หนึ่งสัปดาห์ คุณจะพบว่า ใจเย็นลงอย่างน่าแปลกใจทีเดียว เหมือนกับมีชีวิตใหม่ กลายเป็นคนใหม่เกิดขึ้นมาภายในเวลาไม่กี่วันเท่านั้นแหละ
__________________

https://www.youtube.com/watch?v=3AneU3D6TxY


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น