วันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2559

รู้ทันอาการเคลิ้มได้สองสามหน จะไม่หลับง่ายอีกเวลานั่งสมาธิ

ถาม : เคยปฏิบัติแต่ก็ไม่ได้เข้มข้นนะคะ แต่ว่าหายไปนานมาก แล้วก็กลับมาอีกทีนี่มันฟุ้งซ่านมาก คือฟุ้งซ่านแบบว่านั่งไปปุ๊บมันมีเรื่องราวเข้ามา แบบลืมทำโน่นลืมทำนี่ มันไม่ค่อยนิ่งเท่าไหร่ อย่างวันนี้มา พอผ่อนคลายนิ่งตามที่พี่บอก ก็หลับเลยค่ะ เลยอยากให้พี่แนะนำว่าเราควรจะเริ่มนั่งหรือว่าจะเดินจงกรมดี

รับฟังทางยูทูบ :  https://youtu.be/JqMxv3u6NIg
เสวนาดังตฤณวิสัชนา ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๗ | คำถามที่ ๙.๑
การเจริญสติในชีวิตประจำวันแบบฆราวาส
๑๔ ต.ค. ๒๕๕๖

ดังตฤณ : 
ทั้งนั่งทั้งเดิน อย่างเมื่อกี้ตอนก่อนจะหลับ มันมีความรู้สึกเหมือนกับสบายมาก ก็เป็นอาการสบายแบบเคลิ้ม ทีนี้ อาการสบายแบบเคลิ้มเนี่ย จริงๆแล้วเราสามารถตั้งข้อสังเกตกับมันได้ว่า มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ทุกครั้งที่มันมีความเคลิ้มมากมันจะมีอาการเหมือนมันดื่มด่ำ จิตมันจะเหมือนกับยืดออกไป เหมือนน้ำลายไหลยืดน่ะ แต่อันนี้เป็น อาการทางจิตที่กระแสมันยืดออกไปก่อนที่มันจะดับเข้าสู่ความหลับ 

ถ้าเราสังเกต เออเนี่ย อาการของจิต มันมีอาการยืดออกไปแบบนี้สัก ๒ – ๓ ครั้ง พอเกิดอาการยืดออกไปแบบนี้มันจะเกิดสติขึ้นมา ตอนแรกๆมันเป็นแค่การสังเกตว่าหน้าตาอาการยืดมันเป็นอย่างไร แต่พอเห็นไป ๒ – ๓ ครั้ง พอมันเกิดขึ้นอีกมันจะเหมือนตัวกระตุ้นให้สติมันทำงาน ว่านี่เริ่มแล้วนะ เริ่มที่จะเข้าสู่การหลับ เสร็จแล้วพอสติเกิดปุ๊บอาการยืดจะหายไปเลย  เหมือนกับเข้ามาทรงอยู่ในสภาวะของสมาธิ ที่มันมีความปลอดโปร่ง ที่มันมีความสบาย ที่มันมีความสว่าง คือสว่าง สบาย ในแบบที่จะไม่หลับ พอมันยืดแล้วมันคุ้นเคยที่จะไหลไปตามอาการที่พร้อมจะหลับ มันเป็นความเคยชินของคนทั่วไป แต่คนที่มันเจริญสติ แล้วสังเกตเห็นว่านี่เป็นแค่ภาวะหนึ่งที่มันมาให้ดู มาให้ศึกษา เห็นบ่อยๆเข้ามันจะกลายเป็นความรู้ว่า อย่างนี้ ตัวนี้ หน้าตามันเป็นอย่างนี้ แล้วจะนำไปสู่ภาวะแบบไหน พอสติเกิดขึ้น เห็น ๒ - ๓ ครั้งมันตัดเลย ดูตัวนี้นะ

ผู้ถาม : แต่ว่าอย่างนี้คือจิตต้องนิ่งก่อนถึงจะดูได้ ใช่ไหมคะ แต่ว่าตอนแรกๆ....

ดังตฤณ: 
อย่าไปตั้งเงื่อนไข พอตั้งเงื่อนไขปุ๊บ เราจะรอเงื่อนไขนั้น แล้วพอรอเงื่อนไขนั้น มันจะไม่ดูอย่างเป็นธรรมชาติ มันจะมีอาการจดจ้อง เข้าใจพอยท์นะ คืออะไรจะเกิดให้มันเกิดไป แล้วเราค่อยดู ไม่ใช่ว่าพอเราพูดอย่างนี้ว่า เอ๊ะ มันต้องมีความนิ่งเสียก่อนแล้วถึงจะเห็นได้ อย่างนี้มันจะไม่ดูอะไรทั้งสิ้น นอกจากหวังรอว่าจะต้องนิ่งเสียก่อน

ผู้ถาม : ก็คือว่าให้ดูไปเรื่อยๆ ฟุ้งซ่านก็ดูไปเรื่อยๆใช่ไหมค่ะ คือไม่ต้องกำหนดว่าให้นิ่งก่อนแล้วค่อยมาดู

ดังตฤณ: 
อย่างเมื่อกี้นี้พอมันเริ่มสบาย จากช่วงแรกๆเลย ดูมือ ดูเท้า เสร็จแล้วเห็นลมหายใจของเรา เห็นลมหายใจนี่เออ มันสบาย เป็นลมหายใจที่สบาย ของบางคนไม่นะ พอเริ่มดูลมหายใจปุ๊บนี่ อึดอัดทันที แต่ของเรา พอดูมันเห็นลมหายใจยาวๆ สบายๆ เหมือนกับไม่มีอะไรต้องทำ เหมือนกับพักผ่อน เหมือนกับวันว่าง เหมือนกับเรากำลังอยู่ในสวนหลังบ้านสวยๆ ตามลำพังอะไรแบบนี้ คือมันมีความรู้สึกที่สวยงาม เข้าใจความรู้สึกที่สวยงามไหม? มันเหมือนกับเราอยู่ในที่ที่ดี ที่ที่น่าพอใจ แล้วถัดจากความน่าพอใจตรงนั้นแค่ไม่นาน มันกลายเป็นอาการยืด แบบที่พี่ว่ามันเคลิบเคลิ้ม 

ตัวความเคลิบเคลิ้มนั้น ในมนุษย์ทั่วไปเมื่อเกิดขึ้น มันตามไปทันทีเพราะมันหวังรออยู่แล้ว ทุกคนหวังรออาการเคลิบเคลิ้มอยู่แล้ว มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งจะสัมผัสได้ พอเกิดอาการแบบนี้มันก็คือการหลับ แต่ถ้าเราจะเจริญสติ เราเอาตัวนี้มาเป็นตัวตั้ง ว่าเมื่อไหร่เกิดขึ้นเราจะเห็นความเคลิบเคลิ้มว่าหน้าตามันเป็นอย่างไร อย่างที่พี่บรรยายว่ามันยืดออก ถ้าเห็นอาการยืดอย่างนี้สัก ๒ – ๓ ครั้งมันจะตัดได้เอง เพราะมันรู้แล้ว เข้าใจแล้วว่ามันจะต่อมาด้วยอาการหลับ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น