ถาม :
คุณพ่อใช้ชีวิตคนเดียวมาตลอดเกือบ ๒๐ ปี
แต่ตอนนี้ไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ต้องมาอยู่กับลูกๆ
แต่ท่านมีนิสัยเอาแต่ใจ ดื้อ เชื่อมั่นตัวเองสูง
ไม่สนใจความรู้สึกลูก ลูกได้เล่าพฤติกรรมของพ่อให้เพื่อนฟัง
เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง? จะทำอย่างไร ให้ท่านเข้าใจลูกบ้าง เราควรคิดต่อท่านอย่างไร
+ทำไมจึงเป็นอย่างนี้
ดังตฤณ:
ปัญหาทำนองนี้ไม่มีคำตอบตายตัวครับ
เพราะแนวทางการแก้ปัญหาไม่ใช่
"วิธีการแบบจำเพาะเจาะจง"
แต่เป็น
"ศิลปะการใช้ใจเข้าถึงใจ"
ตามแนวทางของพรหมวิหาร
๔
คุณควร
"ทำใจ" ไว้ดังนี้
๑)
มีความคิดเมตตา ไม่ใช่หมายถึงเอ็นดูผู้หลักผู้ใหญ่เหมือนเด็กๆ
แต่หมายถึงการที่เราตั้งจิตไว้เป็นสุข
ไม่ปล่อยให้จิตจมปลักอยู่กับความโกรธ
และคิดถึงท่านแต่ในทางดี
เอาความจริงที่ว่าท่านคือผู้มีพระคุณสูงสุดไว้เป็นที่ตั้ง
เมื่อคิดถึงใครในทางดี
เราย่อมมีแต่ความปรารถนาจะให้เขาเป็นสุข
มีความสบายใจ
ไม่มีทุกข์ต้องแบก ข้อนี้คือการทำใจในระดับความคิด
๒)
พูดและทำด้วยกรุณา
คือทำพร้อมทั้งในขั้นพื้นฐาน
เช่นเลี้ยงดู
ซื้อของใช้ หรือทำกิจธุระเล็กใหญ่ให้ท่าน
นอกจากนั้นคือใช้วาจาที่เหมาะสม
ถึงท่านเอาแต่ใจอย่างไรก็มีวาจาที่เกื้อกูล
ไม่หักหาญน้ำใจตรงๆ
หากมีโอกาสชวนไปทำบุญให้ร่วมมีจิตใจเยือกเย็นด้วยกันบ้างได้ก็ดี
ข้อนี้คือการทำใจในระดับพร้อมจะส่งคำพูดและการกระทำในทางดีต่อกัน
๓)
คิดยินดีในเรื่องที่ชอบที่ควร
อย่าขัดคอให้เสียน้ำใจตรงๆ
ถ้าเห็นท่านพูดดีเมื่อใดก็อย่าช้า
ให้ทำใจคล้อยตามและสนับสนุนทันที
สั่งสมให้มากแล้วก็เป็นปัจจัยให้จิตปรับเข้าหากันได้มากอย่างที่อาจคิดไม่ถึง
ข้อนี้คือการทำใจในระดับความคิด
คำพูด และการกระทำที่คล้อยตามกันในทางดี
๔)
คิดวางอุเบกขา ในจังหวะที่ไม่ทราบจะปรามท่านอย่างไร
ไม่ให้ท่านคิดผิด
พูดผิด ทำผิด
ก็ให้ตั้งความคิดไว้ว่านั่นเป็นการสั่งสมนิสัยมาของท่าน
เราไม่ได้ไปช่วยท่านสั่งสมนิสัยแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่
แม้ควรสลดใจที่เห็นท่านทำจิตตัวเองหมอง
จิตเราก็ควรทรงอยู่ในสภาพวางเฉย
เพราะแม้จิตเราหมองไปกับท่านด้วย
ก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา
แต่ถ้าใจเราวางเฉย
เราจะยังคงมีสติ มีกำลังกายกำลังใจ
ที่จะเห็นแจ่มแจ้งว่าช่องทางช่วยเหลือท่านอยู่ตรงไหน
ข้อนี้คือการทำใจในระดับความคิดเป็นหลัก
เมื่อฝึกมีอุเบกขาเห็นโลกตามจริงได้พักหนึ่ง
คุณจะตอบตัวเองได้ครับว่าทุกสิ่งและทุกคนต่างมีที่มาที่ไป
กรรมที่แต่ละคนสั่งสมไว้นั่นแหละ
คือกรงขังให้ใครต่อใครติดอยู่
ถ้าคุณหาทางออกจากกรงได้
ก็อาจกลับมาช่วยท่านออกจากกรงได้เช่นกัน
ถ้ายังไม่เคยอ่าน
ลองอ่าน วิปัสสนานุบาล ดูนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น