ถ้าเถียงพ่อแม่ มีโทสะหรือมีเหตุให้ท่านเสียใจทุกข์ใจ ดุท่านด้วยความเป็นห่วง มีผลต่อการบรรลุธรรมไหม พยายามรู้ทันโทสะ และไม่ลั่นออกทางวาจา แต่บางทีรู้ไม่ทันก็หลุด
https://www.youtube.com/watch?v=tPvaJg85p4s&t=15s
ดังตฤณ:
จำไว้แม่นๆ
เลยนะ กรรม หรือบาปที่ห้ามมรรค ห้ามผล ห้ามนิพพาน มีอยู่แค่ห้าอย่างเท่านั้น คือ
ฆ่าแม่ ฆ่าพ่อ ฆ่าพระอรหันต์ ทำให้พระพุทธเจ้าห้อเลือด อย่างที่พระเทวทัตทำ
คือทำร้ายพระพุทธเจ้าได้ที่สุดแค่นั้นแล้ว ต่อให้เป็นมารผู้มีฤทธิ์นะ
ก็ไม่สามารถทำให้พระพุทธเจ้าเลือดตกยางออกได้นะ ทำได้อย่างมากที่สุดคือห้อเลือด
แต่ถ้ากรรมเก่าของพระองค์เล่นงานพระองค์เอง อันนั้นว่าไปอีกอย่าง
อาจจะปวดพระเศียรบ้าง หรือว่าเลือดออกในกระเพาะบ้างอะไรแบบนี้
กับอีกอย่างหนึ่งคือ
ทำสงฆ์แตกกัน อันนี้ก็เป็นข้อค่อนข้างจะถกเถียงกันว่า ทำสงฆ์แตกกันนี่ระดับไหน
บางทีก็ถ้ายกตามวินัย ตีความตามวินัยเป๊ะๆ ก็ต้องอยู่ในอาวาสเดียวกัน
อยู่ในที่อยู่เดียวกัน แล้วก็พยายามยุยงให้สงฆ์แตกกัน แต่บางคนก็บอก โอ๊ย
คือถ้าทำให้เกิดการแบ่งแยกนิกาย เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง ทำให้พระศาสนาอยู่ไม่ได้
พระสงฆ์ปั่นป่วนไปหมด ทะเลาะกันไปหมด อย่างนั้นก็ถือว่าเป็นสังฆเภทเช่นกัน
อันนี้ก็แล้วแต่
แต่เอาเป็นข้อสรุปว่าถ้าเราไม่ได้ฆ่าพ่อฆ่าแม่ ฆ่าพระอรหันต์
ไม่ได้ทำร้ายพระพุทธเจ้า แล้วไม่มีเจตนายุยงให้สงฆ์แตกคอกัน ก็เป็นอันสบายใจได้
กรรมไหนๆ ก็ไม่สามารถที่จะห้ามมรรค ห้ามผลได้นะครับ แม้แต่พระองคุลีมาล
ฆ่าคนเกือบพันคน ท่านยังบรรลุเป็นพระอรหันต์ได้ หรือ แม้แต่ ยกตัวอย่างใครดี
ในสมัยพุทธกาลที่... นึกไม่ออกนะ ที่ดุพ่อดุแม่ หรือทำร้ายพ่อแม่ อืม จริงๆ
แล้วนี่ พอพูดนึกขึ้นได้ พระองคุลีมาล ตอนท่านยังเป็นฆราวาสอยู่ ท่านไล่ฆ่าคนไป ๙๙๙
คน แล้วกำลังจะครบพันคน ตามข้อตกลงที่ให้ไว้กับอาจารย์ ว่าจะฆ่าคนให้ครบพันคน
คนที่หนึ่งพันนี่ คือแม่ของตัวเอง คือถ้าพระองคุลีมาลฆ่าแม่ของตนเองสำเร็จนี่
อดเลย เป็นอันว่าไม่สามารถที่จะบรรลุ อย่าว่าแต่บรรลุอรหัตผล
ได้ฌานยังทำไม่ได้เลยนะ เพราะว่าถ้าทำอนันตริยกรรม ฆ่าแม่ไปแล้วนี่
จิตมันเหมือนกับ มันขุดตัวเอง มันถอนรากออกมา
พ่อแม่นี่เป็นรากของชีวิต
ถ้าถอนรากขึ้นมา ความเจริญไม่มี ไม่มีเหลือ คือยังทำจิตให้เป็นกุศลได้ ทำบุญได้
เหมือนกับอย่างพระเจ้าอชาตศัตรูนี่ ฆ่าพระบิดาไปสำเร็จ ก็ยังเป็นอุปถัมภก
ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาได้ คือสามารถกลับใจได้ แต่ไม่สามารถทำสมาธิจนถึงฌาน เพราะถ้าทำสมาธิจนถึงฌานได้
มีสิทธิไปเป็นพรหมก่อน แต่ว่าอนันตริยกรรมนี่ คือ ห้ามไว้แล้ว ห้ามสวรรค์
ห้ามนิพพาน ทำไปแค่ครั้งเดียวนี่ คือมันเที่ยง คำว่าอนันตริยกรรม คือเที่ยงที่จะได้ไปนรกก่อน
ตายปุ๊บนี่ ไม่ต้องไปที่อื่น ไม่ต้องคิดว่าจะไปที่ไหน ไปนรกก่อนเลย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น
ก็ไม่ใช่ว่าพอรู้อย่างนี้ก็ปล่อยเลยตามเลย
ยิ่งทำบาปทำกรรมชั่วร้ายเข้าไปใหญ่อะไรแบบนี้ อย่างนี้ก็ไม่ต้องขึ้นจากนรกกัน ชั่วกัปชั่วกัลป์
สรุปก็คือ
เราไม่ได้ทำอนันตริยกรรมแน่ๆ อย่างทำกรรมไปดุพ่อดุแม่นี่
บางทีมันเจืออยู่ด้วยความหวังดี บางทีมันเจืออยู่ด้วยอารมณ์ที่แบบว่า ปุถุชนน่ะ
ห้ามไม่ได้มันมีแบบว่าขึ้นเสียงบ้าง อะไรบ้าง ถ้าเรากลับใจ ถ้าเราสำนึกทัน
แล้วไปขอโทษขอโพย ไปบีบนวด ไปทำให้ท่านมีความสุข ไปทำให้ท่าน คือ
พ่อแม่เป็นรากของชีวิตใช่ไหม ไปบำรุงรากให้มีความสดชื่น
ให้มีความพร้อมจะเจริญงอกงาม ชีวิตของเราซึ่งเป็นยอดของรากนั้น
ก็สามารถที่จะเจริญงอกงามตามไปด้วยได้ นี่แหละ ตรงนี้แหละ หลักการง่ายๆ เลย
จะบรรลุหรือไม่บรรลุนี่ ขึ้นอยู่กับว่า ไปทำอนันตริยกรรมไว้หรือเปล่า
แล้วก็เจริญสติถูกทางหรือเปล่านะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น