วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

คำว่า "สละออก" กับ "ช่างมัน" เหมือนกันไหม


ถาม: คำว่า "สละออก" กับ "ช่างมัน" เหมือนกันไหม




ดังตฤณ: ไม่เหมือนนะ “ช่างมัน” นี่ มีที่ใช้ได้ทั้งทางดีและในทางร้าย
ช่างมันในแบบดูดาย ... ช่างมัน เออ มันจะตายก็ให้ตายไป ไม่ต้องไปช่วยมัน อย่างนี้คือ ช่างมันแบบมีโมหะ ประกอบอยู่ โน้มเอียงที่จะไหลลงต่ำ โน้มเอียงที่จะทำอะไรที่มันร้ายๆ ให้เกิดขึ้นเสียเอง 

ดูดาย กับ คิดร้าย ต่างกันนิดเดียว เฉียดกันนิดเดียวนะ เพราะคิดดูดายช่างมัน ไม่ช่วยทั้งๆที่ช่วยได้นี่ จริงๆแล้วนั่นเป็นอกุศลจิตแล้วนะ เป็นอกุศลจิตแล้ว 
อกุศลจิตนี่ ใกล้กับอกุศลจิตประเภทเดียวกัน หรือประเภทที่อัพเกรดขึ้นใหม่ จาก ... ช่างมัน มันจะตายก็ช่างมัน กลายเป็น ...เออ เราจะฆ่ามันก็ได้ ห่างกันนิดเดียวนะ (การ)ไม่สนใจชีวิตนี่ พอเริ่มไม่มีความเมตตา พอสมองส่วนที่จะมีเมตตาให้คนอื่น ถูกปิด ถูกระงับไป ถูกปิดการใช้งานไปนี่ พอแค้นเคืองใครขึ้นมาก็คิดกำจัดได้ โดยไม่เห็นใจว่าเขามีสิทธิ์จะมีชีวิตต่อยังไง หรือว่า ลูกหลานจะเศร้าโศกเสียใจยังไง มันปิดการทำงาน แล้วก็จัดการตามที่ตัวเองนึกอยากขึ้นมาแบบดิบๆ นี่คือช่างมันแบบ คือเริ่มต้นก็คือช่างมัน ดูดาย แบบดูดาย

ทีนี้มี ช่างมัน แบบที่ครูบาอาจารย์ท่านใช้บอก ... ช่างมัน ...
หมายความว่าใจนี่ไปยึด เช่น บอกว่าใครมาทำให้เราเกิดความขัดเคือง เกิดความรู้สึกเจ็บใจ เกิดความรู้สึกว่า เอ๊ย ไม่น่าทำกันแบบนี้เลย ประเภทจี๊ด ทำไมทำกันแบบนี้ แล้วมีอาการของใจที่บอก “ช่างมัน” ขึ้นมา อันนี้คือ “สละออกซึ่งความแค้น” อย่างนี้ถือว่าเป็น ช่างมันแบบดี

ส่วนคำว่า “สละออก” มีนัยยะ ที่ครอบคลุมตั้งแต่เบื้องต้น ไปจนถึงเบื้องปลาย
สละออกในแบบที่ว่า ตรงนี้เป็นส่วนเกิน เอาไปให้เป็นประโยชน์กับคนอื่นดีกว่า อย่างนี้เรียกสละออกแบบเบื้องต้น
ส่วนสละออกขั้นกลาง อย่างที่พระพุทธเจ้าเรียกว่า เป็นมหาทาน ก็คือสละออกซึ่งความอยากจะไปทำร้ายใครเขา อยากจะไปเอาเปรียบใครเขา อยากจะไปทำให้ใครเขาเกิดความบาดเจ็บทางใจ หรือการเอาลูกเอาเมียเขามา อะไรต่างๆ นี่อย่างนี้เรียกว่า เป็นการสละออกซึ่งตัวตนที่มันร้ายๆ เป็นการสละออกระดับกลาง
ส่วนการสละออกในแบบที่พระพุทธเจ้าเรียกว่าเป็น การสำรอกตัณหา ก็คือการสละออกซึ่งตัวตน การสละออกซึ่งความสำคัญมั่นหมายผิดๆ ยึดมั่นผิดๆ ว่ากายนี้ใจนี้ เป็นตัวเป็นตนของเรา เรียกว่าเป็นการสละออกขั้นสูงนะครับ ซึ่ง ไม่ใช่แค่ช่างมัน คือ อยู่ๆ เราจะไปบอกว่า ตัวนี้ตนนี้จะมีหรือไม่มี ช่างมัน อย่างนี้ไม่ได้ อย่างนี้แล้วมาบอกว่า คิดแบบเซน คิดแบบง่ายๆ เบาๆ แล้วก็ไม่ต้องมีขั้นตอนซับซ้อน คิดแบบนี้นี่คิดเอาเองนะ ใช้โมหะคิด เพราะว่าถ้าคิดแบบนี้แล้วบรรลุมรรคผลกันได้ หรือว่าไปนิพพานกันได้ พระพุทธเจ้าไม่ต้องเกิดนะ คิดกันเอาเองแล้วก็ไปนิพพานกันเอาเองง่ายๆ ไม่ต้องมีวิธีจากพระพุทธเจ้ามาว่าจะต้องเจริญสติปัฏฐานกันยังไง

สรุปคือ สละออก กับ ช่างมัน บางส่วนอาจจะเข้ากันได้ แต่ส่วนใหญ่ ไม่ใช่นะ สละออกนี่ใหญ่กว่า ส่วนช่างมันนี่ยังเล็กๆ อยู่นิดหนึ่ง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น