การเจริญสติที่จะช่วยให้คนเราคิดน้อยลง ต้องเป็นไปในแบบที่เรามีความสุข
เรามีความพอใจ เรามีความรู้สึกที่ดี จากการมีสมาธิ จะเป็นสมาธิแบบเจริญอานาปานสติ
หรือว่าเจริญความรับรู้ อะไรภายในขอบเขตกายใจก็ตาม ขอให้มีความสุข
ขอให้มีความสบายใจ ขอให้มีความรู้สึกว่า เออนี่มีเป้าหมายให้จิตทำอะไรอยู่ในขณะนี้
อย่างต่อเนื่อง มันจะรู้ขึ้นมาเองว่า อาการคิดมากเป็นแค่ของแปลกปลอม
จากภาวะที่ควรจะว่าง จริงๆ แล้วไม่ต้องคิดมากก็ได้ จริงๆ แล้ว เราว่างก็ได้
แต่เราไม่ว่าง แล้วเราเลือกที่จะคิดมาก
ถ้าเราเลือกที่จะคิดน้อย
เลือกที่จะมีความสุขกับการหายใจ เลือกที่จะมีความสุขกับการเจริญสติ
มันจะมีความพออกพอใจอย่างใหม่ขึ้นมา คือตอนจิตว่างๆ จิตสบายๆ
ปล่อยมันว่างอยู่อย่างนี้ แล้วคอยดู ว่าเดี๋ยวมันจะกลับวุ่นขึ้นมาใหม่เมื่อไหร่
ลมหายใจไหน พอวุ่นขึ้นมา รู้ทัน ว่านี่เกิดขึ้น ณ ลมหายใจนี้
แล้วลมหายใจต่อมาก็ดูว่า เออ ตอนมันหายไป ก็กลับไปสบายใหม่
ไม่เห็นต้องกลับมาคิดมากอีก จะได้ข้อเปรียบเทียบอย่างนี้
แต่ตอนคิดมากอย่างเดียว ไม่เจริญสตินี่
มันไม่ได้ข้อเปรียบเทียบอะไรเลย มีแต่จะให้จิตหลงเอาๆ ว่า
เออการคิดฟุ้งซ่านมันจำเป็น การคิดมาก
มันต้องคิด ไม่คิดไม่ได้ ไม่คิดแล้วเหมือนกับไม่รับผิดชอบ ไม่คิดแล้วเหมือนกับว่า
ไม่ได้ทำหน้าที่ หรือไม่ได้ทำในสิ่งที่ควรจะทำ คนเรามันเป็นอย่างนี้จริงๆ นะ
ความคิดนี่หลอกเรามาชั่วกัปป์ชั่วกัลป์ คือถ้าไม่คิด ถ้าไม่ยอมเป็นพวกเดียวกับมัน คล้ายๆ
จะไม่ได้ทำหน้าที่ที่สมควรจะทำ ทั้งๆ ที่ไปคิดมาก หรือว่าไปฟุ้งซ่านอะไร
ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรขึ้นเลย เรื่องที่เกิดแล้ว เรื่องที่เป็นปัญหาอยู่ ก็ไม่ได้ถูกแก้
แล้วจิตใจของเราก็เป็นทุกข์มากขึ้น ไม่มีอะไรดีเลย แต่เราก็ยังอุตส่าห์หลงยึด
หลงเชื่อความคิดฟุ้งซ่านนี่ ว่าถ้าไม่คิด ถือว่าไม่ได้ทำหน้าที่นะครับ!
ปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน จิตรวม vs จิตค้าง
13 ตุลาคม 2561
.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
▶▶ คำถามช่วง – ถามตอบ ◀◀
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น