วันอังคารที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2561

คนที่ปรามาสพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จะได้รับวิบากกรรมอย่างไร



ปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน ถือศีลให้สะอาดถึงนิพพานได้ไหม?
8 ธันวาคม 2561


ดังตฤณ : พระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้นะ คือ อย่างเวลาพระองค์จะตรัสถึงโทษของการมีมโนทุจริต วจีทุจริต แล้วก็กายทุจริต ท่านตรัสไว้รวมๆ นะว่ามีดีกรี (degree) ความผิดที่ร้ายแรง
ถ้าร้ายแรงน้อย ก็อาจกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ที่มีผิวพรรณทราม หรือว่าตกยาก ลำบาก หรือว่าถูกคนใส่ใคล้บ้าง อะไรบ้างแล้วแต่
แต่ถ้าร้ายแรงในระดับที่หมกมุ่นอยู่กับความคิด อย่างเช่นด่าพระด่าเจ้าอะไรแบบนี้นี่ จะไปต่ำได้กว่าการเป็นมนุษย์นะครับ
พระองค์ถึงได้ตรัสว่า อย่ามีมโนทุจริต อย่ามีวจีทุจริต อย่ามีกายทุจริต และอย่าติเตียน อริยเจ้า เพราะว่าถ้าไปเผลอหมกมุ่นติเตียน อริยเจ้าแล้วนี่ โทษสถานเบาอันเห็นได้ในปัจจุบันคือ เป็นคนฟุ้งซ่านจัด จะหยุดไม่ได้

คือไม่ต้องอริยเจ้าหรอกนะ เอาแค่คนถือศีลสะอาดบริสุทธิ์ ผู้ทรงศีล แล้วก็ทำคุณงามความดีไว้กับโลก ให้ทานไว้มากๆ แล้วก็ถือศีลให้สะอาดบริสุทธิ์นี่ แค่ไปด่า แค่ไปยุให้คนอื่นเกลียดชัง ลองสังเกตได้เลย จิตใจนี่จะคิดดีไม่เป็นนะ คิดดีไม่ออก จะมีแต่ความคิดร้ายๆ จะมีแต่การเพ่งโทษ จะมีแต่ความอยากจะฟุ้งซ่านไม่หยุดมากขึ้นๆ ตัวนี้นี่ที่เป็นภัยของการคิดไม่ดีนะ

ฉะนั้นคือถ้าปรามาส หรือว่าติเตียนพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์บ่อยๆ พระพุทธเจ้าเป็นพระอรหันต์นะ และพระธรรมของพระองค์นี่เป็นความสว่างสูงสุดในอนันตจักรวาลนี้ ส่วนพระสงฆ์นนี่ ก็เป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เจริญรอยตามพระองค์อยู่บนเส้นทางที่จะมีความบริสุทธิ์หลุดพ้นได้ ถ้าไปปรามาสในแบบหมกมุ่น ในแบบที่เห็นได้ชัดว่า สนุก สะใจ จากการได้ด่า ยิ่งด่ายิ่งมัน แบบนี้ก็น่ากลัวเหมือนกันนะ

เห็นจากปัจจุบันง่ายๆ เลยก็แล้วกันว่าจะมีความฟุ้งซ่านมากขึ้นๆ ... ฟุ้งซ่าน ไม่สามารถที่จะสงบเป็นสมาธิได้นะครับ หลุดจากความเป็นมนุษย์ไปนี่ โอกาสที่จะไปไม่ดีก็สูงนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น