วันเสาร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556

๑.๕๔ จิตวิญญาณปฏิสนธิในท้องคนตอนไหน?

ถาม : จิตวิญญาณจะเข้าไปจุติในท้องมนุษย์ตอนไหน? เพศและดีเอ็นเอ ได้ถูกเลือกก่อนการปฏิสนธิ โดยกรรมวิบากของจิตวิญญาณนั้นไปก่อนแล้วหรือเปล่า?
รับฟังทางยูทูบ https://youtu.be/PHiNJ_PZEp0

ดังตฤณ: 
เอาคำนี้ก่อน คำว่า จุติแปลว่าเคลื่อน หมายถึง จิตดวงสุดท้ายที่ดับลงในภพก่อน ส่วนปฏิสนธิ หมายถึงว่า มาเกิดเป็นดวงแรก จิตดวงแรกมาเกิดในท้อง ทำความเข้าใจใหม่นะ อันนี้ต้องถามว่า จิตวิญญาณจะเข้ามาปฏิสนธิในท้องมนุษย์ตอนไหน?

พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ตรัสไว้ว่าตอนไหน ก็เคยมีคณะพยาบาลกราบถามหลวงพ่อปยุตฯ (พระพรหมคุณาภรณ์ ป.ปยุตโต) ท่านก็บอกให้คำตอบไว้นะว่า มันไม่สามารถที่จะบอกแน่นอนได้ เพราะว่าพระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ตรัส จริงๆแล้วที่ท่านไม่ตรัสเนี่ยนะ ส่วนใหญ่ไม่ใช่ท่านไม่รู้นะ แต่มันมีความไม่แน่นอน เป็นไปได้ที่จะมีความไม่แน่นอน อย่างมีเรื่องเล่า ถ้าเล่าไปมันจะยืดยาวและเดี๋ยวจะก่อความสงสัยกันไปเปล่าๆนะ อย่างครูบาอาจารย์ท่านเล่าให้ฟังว่า ท่านเห็นนะว่า วิญญาณมาปฏิสนธิเนี่ย ไม่ต้องตายเสียก่อน มีมาจองไว้ก็มี
แต่อันนี้ จะเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน คือว่า การที่มีพ่อแม่ร่วมกัน และมีเชื้อมาเรียบร้อย พร้อมทางโลกนี่นะ ตรงนั้นเป็นเครื่องรองรับ พร้อมพอที่จะให้วิญญาณที่มีความเหมาะจะมาเข้าท้องนี่ ได้มาปฏิสนธิทุกเมื่อ นับตั้งแต่มีการผสมกัน ระหว่างเชื้อของพ่อกับแม่นะครับ เอาตรงนั้นก็แล้วกัน

แต่มันมีอยู่จริงนะ ที่ประเภทที่ว่า ถ้าวิญญาณบางดวงมีความผูกพันกับพ่อและแม่ หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งระหว่างพ่อกับแม่ ก็อาจติดตามเป็นสิบปีก็ได้ อันนี้นะ ตัวการปฏิสนธิที่แท้จริงเนี่ย บางทีถ้ามันมองว่า จะได้ใครมาเกิดด้วย บางทีมันไม่ต้องนับตอนที่ปฏิสนธิเป๊ะหรอก มันมีอะไรบางอย่างที่คุมอยู่ว่า เด็กคนนี้จะต้องมาเกิดกับคนคนนี้ หรือว่าพ่อแม่คู่นี้แน่ๆแล้วตัวนั้นแหละ ที่มันไม่ได้มีการกำหนดเงื่อนของเวลาชัดเจนว่าก่อนหรือหลังแค่ไหน แต่ว่าที่จะปฏิสนธิได้จริง มันจะต้องมีเชื้อของพ่อแม่มารออยู่ก่อนแล้ว เหมือนกับว่ามีเบาะหรือพานทองมารองรับสัตว์ที่จะมาเกิด

ความจริงแล้วพระพุทธเจ้าท่านใช้คำว่า สัตว์ไม่ได้ใช้คำว่า จิตวิญญาณคือเวลาเราพูดถึงการมาเกิด ต้องบอกว่าว่าสัตว์มาเกิดนะ มันรวมหมดเลยทั้งวิญญาณและทั้งสภาพกรรม และก็สภาพความเป็นตัวบุคคลที่จะปรากฏขึ้นมาเป็นรูปเป็นร่าง เป็นชีวิต ชีวิตหนึ่งขึ้นมา แต่ว่าเมื่อพูดถึงการที่จะมีชีวิตเป็นขณะแรก อันนั้นต้องพูดถึงจิตนะ ถ้าจะพูดถึงปฏิสนธิจิต ที่เกิดขึ้นเป็นดวงแรกในท้องมนุษย์ อันนี้ก็บอกง่ายๆก็แล้วกันว่า ปฏิสนธิจิตไม่มีการระบุไว้ในพระคัมภีร์นะครับ ไม่ว่าจะในพระสูตรหรือพระอภิธรรม ว่าเกิดขึ้นตอนไหนที่ชัดๆ แต่ว่าเราก็คงต้องพูดกันว่า ถ้าหากไม่มีเหตุ คือเชื้อของพ่อกับแม่ผสมกัน แล้วก็ไม่มีปฏิสนธิจิต คือช่วงจุดตัดของเวลาไม่เหมาะที่จะเกิดขึ้นในสภาพของสัตว์ที่มีกรรมเหมาะสม ก็จะไม่มีทางที่ทารกจะเข้าท้องได้ หรือเจริญเติบโตขึ้นมาได้

(คำถามต่อเนื่อง เพศและดีเอ็นเอ ได้ถูกเลือกก่อนการปฏิสนธิ โดยกรรมวิบากของจิตวิญญาณนั้นไปก่อนแล้วหรือเปล่า?)

ตรงนี้จริงๆแล้ว คือ ถ้าเราพูดตามแนวของธรรมะ ท่านบอกว่า นามเป็นปัจจัยให้เกิดรูป หมายความว่า ถ้าหากโครงสร้างกรรมมีความต้องการที่จะให้เป็นเพศชายหรือเพศหญิง หรือแม้กระทั่งมีความเบี่ยงเบนในความผิดปกติทางเพศ ก็จะเลือกเฉพาะตรงที่มันจะมีฤกษ์เกิดที่เหมาะสม กับความเป็นเพศของตัวเองคือ ตัวรูปธรรมเนี่ย มันเป็นฝ่ายตามมาสนับสนุนภายหลัง แล้วก็ถ้าหลักการแพทย์นี่นะก็คือว่า มนุษย์ทุกๆคน จริงๆแล้วโดยพื้นฐานเลย มีความเป็นเพศหญิงขึ้นมาก่อน ลักษณะของเพศหญิงจะปรากฏก่อน แต่ถ้าหากว่าจะต้องมีความเป็นชายเนี่ย ตรงนั้นค่อยงอกออกมาในภายหลัง นี่คือสิ่งที่เค้าก็เพิ่งค้นพบกันเมื่อไม่นานมานี้เอง ทุกคนเป็นหญิงมาก่อน แต่ที่จะเป็นชายได้ มันงอกออกมาทีหลัง

เดิมเนี่ย พูดง่ายๆว่าอวัยวะเพศเนี่ย เป็นอวัยวะเพศหญิงเหมือนกันหมด แต่ว่าจะตัดสินให้งอกออกมาหรือไม่งอกออกมา ตัวนี้แหละที่ทางแพทย์บอกว่า มันเป็นความฟลุค เป็นเรื่องบังเอิญ หรือว่าเป็นเรื่องเฉพาะตนของเด็กแต่ละคน แต่จริงๆ ถ้าหากว่าเอาคำตอบจากธรรมมะ ก็ต้องบอกว่าเป็นโครงสร้างของกรรมที่กำหนดไว้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น