วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2559

ตอนที่ ๑๐ วิถีแห่งคนโง่ (ก่อนเกิดเป็นดังตฤณ)

กล่าวได้ว่า เต๋าเต็กเก็งของท่านเหลาจื๊อ ซึ่งถูกนำมาถ่ายทอดเป็นภาษาไทยโดยคุณ พจนา จันทรสันติ คือแรงบันดาลที่ยิ่งใหญ่น่าอัศจรรย์ใจ เป็นไฟดวงแรกๆที่ช่วยให้ผมตระหนักว่าตัวเองมาทำอะไรอยู่ในโลกใบนี้ มันไม่ใช่เพื่อจำให้ได้ว่าเราเป็นใครในอดีตชาติ มันไม่ใช่เพื่อรู้ให้ได้ว่าเราต้องทำอะไรในอนาคตข้างหน้า มันไม่ใช่แม้แต่เพื่อปรนเปรอกิเลสตนเองอยู่ในปัจจุบันไปวันๆ แต่มันคือการทะลุออกไป พ้นออกไป เพื่อพบกับอะไรบางอย่างที่เหนือการมีรูปลักษณ์ล่อใจพูดให้ฟังง่ายหน่อยคือผมอยากหลุดพ้นจากการเกาะกุมของโลกและวิถีชีวิตที่เหนอะหนะด้วยความทุกข์ ไปเป็นอิสระอยู่ในอีกจักรวาลที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงภาษาของเต๋ามีความละเมียดละไมล้ำลึก และสามารถพาผมไปสัมผัสความยิ่งใหญ่ไร้อัตตาของธรรมชาติได้ ผมจึงเหมือนกับผู้คนนับล้านคนที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นและพลอยตะลึงมองสรรพสิ่งรอบตัวต่างไปดังที่เล่าแล้วว่าช่วงนั้นผมกำลังค้นหาตัวเอง ถามตัวเองว่าจะเอาอย่างไรดีกับชีวิต 

ตั้งแต่อ่านเต๋าบทต้นๆก็ได้เจอวาทะของเหลาจื๊อ เป็นคำตอบที่กำจัดความวุ่นวายใจได้ชะงัด ท่านใช่ไหมที่สงสัยว่าอย่างไรที่เรียกว่าดี อย่างไรที่เรียกว่าชั่ว เมื่อจะประกอบกรรมใด ก็สงสัยว่าอย่างไรที่ควรทำ อย่างไรที่ควรงดเว้น และชีวิตควรจะมุ่งไปสู่หนทางไหน ขอให้เราลองมองดูต้นหลิวนี้ กิ่งก้านอ่อนเรียวของมัน ประคองถนอมใบบางเบาพลิ้วไหวอยู่กับสายลมอันพัดมา มิว่าจากทิศทางใดลองเพ่งดูกิ่งหลิวนี้ซิ ปุ่มปมสีเขียวล้วนงอกออกมาจากแง่มมุ และตำแหน่งที่เหมาะสม ปุ่มปมสีเขียวจะคลี่คลายขยายตัวออกเป็นกิ่งก้านและใบใหม่ เติบโตขึ้นในเวลาอันควร

จากแง่มุมของต้นหลิว การเจริญเติบโตของมันล้วนเป็นไปอย่างเหมาะเจาะสอดคล้อง อันเป็นไปอย่างง่ายๆ และผสานกับธรรมชาติ วิถีทางเช่นนี้ไปพ้นจากการเลือก การตัดสินใจ หรือความลังเลสงสัยใดๆ นั่นเองย่อมเข้าถึงความสมบูรณ์อันไม่ต้องเพิ่มเข้าหรือตัดทอนออกนี่แหละ หลิวต้นนี้ ได้ตอบคำถามของท่านแล้ว!และหลังจากนั้น ผมได้เห็นภาพต้นหลิวที่มีชื่อว่า เติบโตอย่างง่ายดายเข้าให้อีก ก็บังเกิดความเย็นซึ้งไปถึงวิญญาณ และบอกตนเองว่าความสงบสุขอันเป็นไปตามธรรมชาตินี่เอง คือสิ่งที่เราไขว่คว้า แสวงหาแทบเป็นแทบตายมานานชั่วขณะที่ผมเข้าใจและคล้ายผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกับต้นหลิว ความรู้สึกแบบมนุษย์หายไป เหลือไว้แต่ความยิ่งใหญ่พิสุทธิ์อันยากจะเข้าถึงดูๆ นั่นเป็นชั่วขณะที่ฉลาดดี ปัญหาคือพอวางหนังสือและเดินออกจากห้องสมุดเพียงไม่กี่ก้าว ความโง่เยี่ยงคนธรรมดาคนหนึ่งก็กลับเข้ามาครอบงำใหม่ ผมรู้สึกว่าตัวเองเข้าถึงสิ่งที่คนในวัยเดียวกันไม่เข้าใจ และต่อให้มีอายุมากกว่าผมหลายสิบปี ก็คงมีแค่หยิบมือเดียวในโลกนี้ ที่เข้าถึงและเข้าใจรสชาติล้ำลึกขนาดนั้นได้

รอบแล้วรอบเล่าระหว่างอ่านคัมภีร์เต๋า ที่ผมสลับกันระหว่างสว่างกับมืดอ่อนโยนกับกระด้าง ถ่อมตนกับยโส ผมไม่อยากให้หนังสือจบ แต่ในที่สุดก็อ่านไปถึงหน้าสุดท้ายจนได้ ซึ่งตรงนั้นเองที่ตัดสินว่าได้อะไรมากันแน่ ระหว่างความโง่กับความฉลาด ผมคิดว่าผมพิชิตคัมภีร์ระดับโลกได้สำเร็จ ย่อมเทียบได้กับการจบหลักสูตรขั้นสูงแล้ว ความรู้สึกน่าจะไม่ต่างจากคนเรียนปริญญาเอกจบสักเท่าไร ด้านดีของการอ่านเต๋า คือผมข้ามความวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตไปได้ อย่างน้อยก็รู้สึกอุ่นใจว่าธรรมชาติจะไม่ทอดทิ้งเรา ถ้าเราไม่ทำตัวขัดแย้งกับธรรมชาติ มีใจเป็นส่วนหนึ่งที่กลมกลืนอยู่กับธรรมชาติ

หลังจากนั้นมีกลุ่มฝรั่งมาสอนสมาธิแบบทีเอ็ม (Transcendental Meditation) ซึ่งเป็นการบุกตลาดในไทยแบบปูพรมไปตามโรงเรียนต่างๆ ชูประเด็นของฟรีที่พิสูจน์ได้ว่าช่วยให้เด็กเกิดสมาธิและเรียนเก่งขึ้น ผมเป็นคนหนึ่งในผู้รับอานิสงส์จากช่วงเผยแพร่ฟรีของกลุ่มทีเอ็มนั้น ผมทำได้อย่างที่เขาสอน และเป็นคนหนึ่งในจำนวนนักเรียนไม่กี่คนที่เอากลับไปทำต่ออย่างจริงจัง หวังว่าจะเรียนเก่งขึ้น แล้วก็หวังว่าจะได้ฤทธิ์เดชตามที่คณาจารย์แสดงสรรพคุณล่อใจไว้ จากนั้นวิถีของสมาธิแบบหวังฤทธิ์หวังเดชก็พาผมไปหาอะไรอีกหลายอย่าง เช่น การสวดคาถาโบราณ การพยายามร่ายมนต์สะเดาะกลอนประตู ตลอดจนการฝึกสะกดจิต ซึ่งก็มีทั้งสำเร็จและล้มเหลว จำรายละเอียดทั้งหมดไม่ไหวครับแต่สิ่งที่จำได้อย่างเดียวก็คือข้อสรุปที่ว่า ถ้าชีวิตมีเป้าหมายเป็นความสว่างชั่วนิรันดร์ ผมก็ยังไม่ได้ขึ้นทางไปสู่เป้าหมายเลยสักก้าวเดียว!


ถ้าคุณมีเป้าหมายในชีวิต แต่ไม่รู้ว่าทางไปสู่เป้าหมายนั้นอยู่ที่ไหน บางทีไม่มีเป้าหมายเสียเลยยังอาจจะทรมานใจน้อยกว่า เต๋าเต็กเก็งให้เป้าหมาย แต่ไม่ได้ให้ทางอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ส่วนการฝึกสมาธิในช่วงต้นนั้นมีขั้นมีตอนให้ทำตาม ทว่ายิ่งฝึกยิ่งรู้สึกเหมือนออกอ่าว ลุ่มหลงอยู่กับอะไรก็ไม่รู้ แต่ความอุ่นใจก็ยังติดอยู่กับตัว ด้วยสัมผัสจากส่วนลึกว่า อีกไม่นานผมคงพบทางสู่เป้าหมายได้เอง แค่อดใจรออีกนิดเดียวเท่านั้น!

บทประพันธ์โดย : ดังตฤณ (นิตยสารธรรมะใกล้ตัว ปี ๒๕๕๒)
รวมลิงก์บทความก่อนเกิดเป็นดังตฤณ
แชแนล "ก่อนเกิดเป็นดังตฤณ"
บน Podcast ► http://apple.co/1WsUqUt
บน YouTube ► http://bit.ly/1YSrFzz

• ตอนที่ ๑ เรื่องส่วนตัวของดังตฤณ
ฟัง https://youtu.be/RpQxFOlF4hU
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_45.html

• ตอนที่ ๒ ใส่บาตรครั้งแรก
ฟัง https://youtu.be/WOolpKCyecs
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_26.html

• ตอนที่ ๓ ไม่มีใครคิดอย่างนี้บ้างหรือ
ฟัง https://youtu.be/PMlxjkuC4Oc
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_8.html

• ตอนที่ ๔ รู้สึกผิดที่เกิดมา
ฟัง https://youtu.be/2fZfnhT1Vx8
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_79.html

• ตอนที่ ๕ ระหว่างเรื่องจริงกับนิยาย
ฟัง https://youtu.be/J2pqdmEEvKI
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_77.html

• ตอนที่ ๖ ระลึกชาติ
ฟัง https://youtu.be/QFQSu4kcrfA
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_27.html

• ตอนที่ ๗ ระลึกชาติ (ต่อ)
ฟัง https://youtu.be/csm0Fh5gPyw
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_68.html

• ตอนที่ ๘ อนาคตอันมืดมน
ฟัง https://youtu.be/DoGJZqRxk9A
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_93.html

• ตอนที่ ๙ วิถีแห่งเต๋า
ฟัง https://youtu.be/PJ39XAUM3xw
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_46.html

• ตอนที่ ๑๐ วิถีแห่งคนโง่
ฟัง https://youtu.be/YkKOtBKvgvI
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_14.html

• ตอนที่ ๑๑ พบทาง
ฟัง https://youtu.be/9LCu0Tq6Trk
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_63.html

• ตอนที่ ๑๒ เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
ฟัง https://youtu.be/GzXSQLO0KtE
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_73.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น