วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2559

ตอนที่ ๗ ระลึกชาติ - ต่อ (ก่อนเกิดเป็นดังตฤณ)

สำหรับการระลึกชาติของผม อยู่ตรงกลางระหว่างความงมงายกับวิชชาครับ เพราะทุกอย่างเริ่มต้นด้วยความอยากรู้อย่างไม่พร้อมจะรู้ และโลกนี้ก็เต็มไปด้วยประตู และสะพาน คนเราผูกใจมุ่งหวังสิ่งใด วันหนึ่งก็ต้องเจอประตูหรือสะพานที่จะพาไปสู่สิ่งนั้น เหมือนคนที่สอดส่ายสายตาหาอยู่ เดินไปเรื่อยๆก็ต้องพบ ดังเช่นที่ผมอยากให้ใครสักคนบอกว่าตนเองเป็นใครในอดีตชาติ ทำไมถึงเกิดมา พร้อมกับความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ผมก็เจอสะพานเชื่อม กล่าวคือวันหนึ่งคุณครูสอนชีววิทยาชั้นมัธยม ๔ เล่าให้ฟังว่าเพิ่งไปหาคนมีญาณมา คนๆนี้สามารถรู้เห็นเรื่องราวต่างๆได้โดยไม่ต้องรู้จักกันมาก่อน
ผมตื่นเต้นมาก และช่างบังเอิญเสียนี่กระไร บ้านของผู้วิเศษท่านนั้นใกล้บ้านผมแค่คนละฟากถนน ผมจึงพบท่านสมใจอย่างง่ายดาย และคำแรกที่ท่านทัก ทำเอาผมตะลึงจังงัง คือการถามว่าผมเกิดปีแพะหรือเปล่า กับใครคนหนึ่งที่ไม่เคยเจอกัน แต่กลับล่วงรู้เกี่ยวกับตัวเราโดยไม่ทันต้องบอกแน่นอนครับ ผมไม่มีทางอื่นนอกจากเชื่อว่าคนๆนั้นมีญาณจริงสมคำรํ่าลือ นั่นทำให้ไม่ลังเลรีบถามสิ่งที่อยากรู้ที่สุดในชีวิตช่วงนั้น คือชาติอดีตของผมเป็นมาเป็นไปอย่างไร ไฉนชาตินี้จึงรู้สึกขาดๆเกินๆมาตลอดท่านช่วยเข้าสมาธิดูให้ ครู่หนึ่งท่านก็ลืมตาขึ้นมาตอบว่า ขอให้หันมาฝึกปฏิบัติธรรมเถอะนะ แล้วจะรู้ว่าเราน่ะ เป็นใครน่าแปลก อะไรบางอย่างในนํ้าเสียงหนักแน่นเจือเมตตาของท่าน กระชากความรู้สึกของผมให้บังเกิดวูบแห่งความสลดใจอย่างแรง ความคิดผุดขึ้นในหัวทันทีว่า เราไม่ได้เป็นใครเลยน่ะสิ ถึงไม่มีสิทธิ์จำได้!นึกออกไหมครับื ถ้าเราเป็นใครสักคนหนึ่งจริงๆ ทำไมถึงไม่รู้ตัวล่ะ ถ้าเราเป็นใครสักคนหนึ่งจริงๆ ทำไมถึงเหลือแต่ใครอีกคนที่ไม่รู้จักตัวเอง จำตัวเองไม่ได้ ต้องวิ่งโร่มาถามคนอื่นอย่างนี้สรุปคือผมไม่ได้คำตอบเรื่องอดีตชาติจากท่านผู้มีญาณหยั่งรู้ แต่กลับได้ความสลดใจอย่างแรงมาแทน

ตราบใดยังไม่หมดกิเลส ความโง่แบบเก่าแม้หายไปก็มีความโง่แบบใหม่มาแทนที่หรือบางทีความโง่แบบเก่าอาจหายไปเพียงชั่วคราว ไม่นานมันก็แวะเวียนกลับมาอีกช่วงนั้นผมยังไม่ศึกษาพุทธศาสนา ความอยากรู้สารพัดเรื่องจึงไม่สิ้น ผมยังคงแวะเวียนไปหาท่านผู้มีญาณอยู่เรื่อยๆ ประสาชาวโลกที่อยากรู้ชะตากรรมในอนาคตของตนและพอเจอหน้าท่านบ่อยเข้า ในที่สุดก็อยากรู้อดีตชาติขึ้นมาใหม่จนได้ จึงเซ้าซี้ถามอีก ท่านคงเห็นผมอยากรู้ไม่เลิกเสียที จึงอนุเคราะห์ด้วยการตอบสั้นๆว่าผมเคยบวชพระ ชื่อก็โหลๆแบบลูกคนจนทั่วไป ประมาณนายสุขนายสมอะไรเทือกนั้นการฟังคำตอบจากคนที่รู้อะไรจริงๆ มันมีกระแสความจริงยิงมากระทบใจเรา ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองเคยเป็นพระ แต่พอฟังผู้รู้บอก ก็รู้สึกวูบๆวาบๆรำไรเหมือนความเป็นปัจจุบันนั้นหายไปแวบหนึ่ง กลายเป็นใครอีกคนที่แตกต่าง ทว่าชั่วครู่แห่งความอึ้งงันนั้นก็ล่องหนอย่างรวดเร็ว เฉกเช่นความรู้สึกอันเป็นอุปาทานทั้งหลายกลับมาบ้าน ผมเฝ้าแต่ครุ่นคิดถึงชื่อในอดีตชาติด้วยความรู้สึกกึ่งจริงกึ่งฝัน ถามตัวเองแล้วๆเล่าๆว่าเราน่ะหรือเคยเป็นพระ 

ขณะครึ่งหลับครึ่งตื่นในคืนหนึ่ง ผมรู้ตัวว่ากำลังฝัน เหมือนรู้ตัวตามปกติว่าเราเป็นใครคนหนึ่ง คุ้นเคย ไม่แปลกใจที่กายนุ่งห่มจีวร ส่วนใจถูกห่อหุ้มด้วยความเบื่อหน่าย เนือยนาย และอยากวิ่งหนี คล้ายคนขลาด หรือคล้ายคนไร้ความรู้สึก ไม่อินังขังขอบกับอะไรอีก แค่อยากทิ้งทุกสิ่งไปให้หมดเท่านั้นผมตื่นขึ้นงงๆ ทราบว่าฝันไป ทราบว่านั่นไม่ใช่การระลึกชาติ แต่ขณะเดียวกันก็ทราบว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้น เหมือนนิมิตแสดงให้เข้าใจบางสิ่ง เพียงแต่ยังไร้ภาษาอธิบายเป็นคำๆนึกกลัวประสบการณ์ฝันที่ไม่เหมือนฝันนั้นนิดๆ เยี่ยงคนเกรงจะรู้จักตัวเองดีเกินไปและจำต้องยอมรับอะไรที่ไม่น่ายอมรับ เพราะตลอดมาผมหาต้นตอของความรู้สึกผิดฝังจิตฝังใจ ไม่ใช่ต้นตอความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองผมฝันติดๆกันหลายคืน เห็นตัวเองครองจีวร รู้สึกเบื่อหน่าย แล้วก็วิ่งหนี การวิ่งหนีทำให้รู้สึกถึงความขลาด ความเบื่อหน่ายจุกอกทำให้รู้สึกถึงความอยากจะทิ้งพอคิดถึงนิมิตและความรู้สึกเหล่านั้นยามตื่น ผมก็เหมือนตาสว่าง และค่อยๆยอมรับอย่างเข้าใจ ว่าโครงสร้างพื้นฐานของชีวิตจิตใจยืนพื้นอยู่บนการหลบหนี ความอยากปัดภาระให้พ้นตัว ทั้งที่ภาระยังไม่สิ้น และนั่นก็เป็นที่มาของความรู้สึกผิดอันยากจะอธิบายมาทั้งชีวิต


นั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้นครับ ผมแค่ได้จิ๊กซอว์ชิ้นเล็กๆมาเพียงสองสามชิ้น เป็นเครื่องหมายบอกเพียงเลาๆ เป็นเค้าเป็นเงาว่า โครงสร้างชีวิตของผมนั้น หากเจาะให้ถึงรากอันเป็นที่มาก่อนเกิด ก็ต้องเริ่มด้วยนิมิตของพระภิกษุ ความเบื่อหน่าย การละทิ้งหน้าที่ และความรู้สึกผิดจากการหลบหนี มันค่อนข้างกระจัดกระจายเหมือนชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ที่อยู่ไกลกัน ขาดตัวเชื่อมให้เห็นความเกี่ยวข้อง ทราบแต่ว่าถ้าหาชิ้นอื่นๆที่เหลือได้ ถึงจะดูรู้เรื่องเป็นรูปใหญ่รูปหนึ่ง


บทประพันธ์โดย : ดังตฤณ (นิตยสารธรรมะใกล้ตัว ปี ๒๕๕๒)

รวมลิงก์บทความก่อนเกิดเป็นดังตฤณ
แชแนล "ก่อนเกิดเป็นดังตฤณ"
บน Podcast ► http://apple.co/1WsUqUt
บน YouTube ► http://bit.ly/1YSrFzz

• ตอนที่ ๑ เรื่องส่วนตัวของดังตฤณ
ฟัง https://youtu.be/RpQxFOlF4hU
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_45.html

• ตอนที่ ๒ ใส่บาตรครั้งแรก
ฟัง https://youtu.be/WOolpKCyecs
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_26.html

• ตอนที่ ๓ ไม่มีใครคิดอย่างนี้บ้างหรือ
ฟัง https://youtu.be/PMlxjkuC4Oc
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_8.html

• ตอนที่ ๔ รู้สึกผิดที่เกิดมา
ฟัง https://youtu.be/2fZfnhT1Vx8
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_79.html

• ตอนที่ ๕ ระหว่างเรื่องจริงกับนิยาย
ฟัง https://youtu.be/J2pqdmEEvKI
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_77.html

• ตอนที่ ๖ ระลึกชาติ
ฟัง https://youtu.be/QFQSu4kcrfA
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_27.html

• ตอนที่ ๗ ระลึกชาติ (ต่อ)
ฟัง https://youtu.be/csm0Fh5gPyw
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_68.html

• ตอนที่ ๘ อนาคตอันมืดมน
ฟัง https://youtu.be/DoGJZqRxk9A
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_93.html

• ตอนที่ ๙ วิถีแห่งเต๋า
ฟัง https://youtu.be/PJ39XAUM3xw
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_46.html

• ตอนที่ ๑๐ วิถีแห่งคนโง่
ฟัง https://youtu.be/YkKOtBKvgvI
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_14.html

• ตอนที่ ๑๑ พบทาง
ฟัง https://youtu.be/9LCu0Tq6Trk
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_63.html

• ตอนที่ ๑๒ เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
ฟัง https://youtu.be/GzXSQLO0KtE
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_73.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น