วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2559

ตอนที่ ๒ ใส่บาตรครั้งแรก (ก่อนเกิดเป็นดังตฤณ)

ใส่บาตรครั้งแรก

เหตุการณ์ในชีวิตคนเราถูกหลงลืมมากกว่าถูกจดจำ คุณอุตส่าห์ฝันตั้งเป็นชั่วโมง แต่ทั้งหมดมักถูกลบเกลี้ยงเพียงด้วยวินาทีแห่งการตื่นนอน และนั่นก็เป็นทำนองเดียวกับชีวิตเก่าที่อุตส่าห์ผ่านร้อนผ่านหนาวยาวนานหลายสิบปี กลับถูกลืมไม่เหลือ เพียงด้วยช่วง ๙ เดือนของการอยู่ในท้องแม่ ผมจะลืมตาที่โรงพยาบาลหรือที่บ้านกี่ครั้งก็ไม่รู้ แต่ความทรงจำของผมตั้งต้นด้วยการลืมตาขึ้นมาเห็นภูเขาและท้องฟ้า นั่นคือจิตดวงแรกที่สามารถรับรู้ได้อย่างเต็มตื่น กับทั้งประทับแน่นไม่ลืมเลือนมาจนถึงทุกวันนี้ ผมจำได้ว่าหลังจากเมียงมองภูเขาและท้องฟ้าด้วยความคิดทำนองว่า ได้เห็นอะไรอย่างนี้อีกแล้วครู่หนึ่งก็อ่อนแรงและหลับใหลลงตามเดิม ภูเขาและท้องฟ้าอันเป็นภาพความทรงจำแรก คือละแวกบ้านพักพนักงาน ไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี ที่คุณพ่อของผมทำงานอยู่ มันเป็นช่วงเวลาที่ผมจำได้ถึงความรู้สึกอยากได้อ้อมกอดจากแม่ จำได้ถึงภาวะอ่อนแอที่ขับดันให้อยากร้องไห้หาแม่ จำได้ถึงน้ำเสียงปลอบประโลมของแม่ แม่อยู่กับผมทั้งวัน ส่วนพ่อเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่จะกลับมาบ้านในตอนเย็น

ตอนหนึ่งขวบ ผมแยกแยะได้ชัดเจนว่าพ่อเป็นอย่างไร แม่เป็นอย่างไร พี่สาวอีกสองคนเป็นอย่างไร และในวันครบหนึ่งขวบเต็มนั่นเอง มหากุศลจิตก็เกิดขึ้นเป็นดวงแรกในชีวิต เช้าวันนั้น คุณพ่อของผมอุ้มออกมาที่หน้าบ้าน อากาศสดชื่น ผมเห็นคุณแม่และใครอีกคนจัดโต๊ะเล็ก มีขันข้าว และมีถุงกับข้าวหลายถุง ผมระลึกได้ว่าก่อนหน้านั้นเคยเห็นพ่อแม่เอาโต๊ะออกไปตั้งหน้าบ้านหลายหนแล้ว เพื่อรอคนที่พ่อแม่เรียกว่า พระเดินมารับ

ผมเห็นแม่ถือกล้องถ่ายรูป ยิ้มแย้มและพยายามเรียกให้ผมหันไปมอง ผมจำเสียงหัวเราะดีใจของตัวเองได้เมื่อเห็นแม่กดชัตเตอร์ถ่ายรูปผมไว้ และผมก็ดีใจมากด้วยที่พ่ออุ้มผมไว้ตลอดไม่วางเลยถึงเวลาพระมา พ่อพนมมือไหว้ทั้งยังมีผมอยู่ในอ้อมแขน แล้วตักข้าวใส่บาตรให้ดู จากนั้นจึงถามผมว่าอยากใส่เองไหม ผมรู้สึกตื่นเต้นและเห็นเป็นเรื่องท้าทาย เนื่องจากรู้สึกถึงมือที่เล็กเมื่อเทียบกับคันจับทัพพี แล้วก็รู้สึกถึงกำลังแขนที่ยังน้อยอยู่ ชวนให้ไม่แน่ใจว่าจะสามารถยกทัพพีตักข้าวใส่บาตรพระไหวหรือเปล่า แต่ผมก็อยากใส่บาตร เกิดความเข้าใจขึ้นมาด้วยสัญชาตญาณว่านั่นเป็นการทำอะไรที่ดีมากๆ

ดูเหมือนพ่อจะช่วยประคองหน่อยๆ แต่พอเห็นผมจับทัพพีแน่นก็ปล่อยให้ทำเอง และผมก็พบว่าตัวเองทำได้ แม้รู้สึกยากและฝืนๆไม่ถนัดนัก พอหย่อนกระจุกข้าวก้อนเล็กๆลงบาตรสำเร็จก็มีเสียงเฮดีใจจากรอบข้าง ส่งผลให้ผมหัวเราะร่าอย่างแสนปลื้ม และเมื่อมีการคะยั้นคะยอให้เอาใหม่อีกครั้ง ผมก็ไม่ลังเลที่จะทำซ้ำ และทำสำเร็จเป็นคำรบสอง ผมต้องใช้เวลาอีกเกือบยี่สิบปี กว่าจะทราบว่าความรู้สึก
แสนปลื้มนั้น คือมหากุศลจิตอันประกอบด้วยโสมนัสอย่างใหญ่ นับเป็นความสว่างเรืองแห่งช่วงต้นชีวิตอย่างแท้จริง คนทั่วไปต้องรอเวลาหลายปีกว่าจะมีโอกาสรู้จักรสแห่งมหากุศลจิตอันเกิดจากการใส่บาตรพระ แต่เพราะมาเกิดกับคุณพ่อคุณแม่ ผมจึงมีโอกาสตั้งแต่อายุเพียงครบขวบเต็ม

ในความไม่รู้เรื่องรู้ราวช่วงต้นวัย ผมรู้สึกถึงไออุ่นของแม่ กับความแข็งแกร่งและความสว่างที่พ่อนำมาฉายให้กับบ้านทั้งหลัง แค่นั้นเพียงพอแล้วที่จะเป็นหลักประกันแห่งชีวิตแสนสุข ถ้าใครระลึกถึงครั้งแบเบาะในอ้อมกอดของพ่อแม่ได้เหมือนผม ก็คงไม่คิดทิ้งพ่อแม่ไปไหน ไม่ว่าพ่อแม่จะเป็นอย่างไร ความทรงจำในอรุณรุ่งแห่งชีวิตมิใช่แค่อีกวันหนึ่ง ไม่ใช่ความฝันที่แค่ผ่านมาให้ลืมเลือนไปอีกครั้ง แต่มันคือช่วงแห่งการตัดสินว่าคุณจะรู้สึกเกี่ยวกับชีวิตของตนเองอย่างไร สุกสว่างมั่นคง หรือว่ามืดมนคลอนแคลน


และถึงคุณจะมีพ่อแม่ที่นำทำบุญตั้งแต่หนึ่งขวบหรือไม่ก็ตาม อย่างไรพ่อแม่ก็ให้ร่างกาย ตลอดจนหัวใจที่สามารถรู้จักและรักพุทธศาสนาได้ หากมีอภิญญา มีความสามารถเห็นภัยแห่งการเวียนว่ายตายเกิดนับอนันตชาตินี้ คุณจะตระหนักอย่างลึกซึ้งว่า พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดคุณในช่วงที่พระพุทธศาสนาอุบัติ นับเป็นพ่อแม่ผู้มีบุญคุณใหญ่สูงสุด เหนือพ่อแม่ในชาติอื่นใดทั้งหมดทั้งสิ้น ก็หากปราศจากพวกท่านเสียแล้ว คุณจะเอากายใจมนุษย์ อันเป็นยานเดินทางไปสู่นิพพานนี้มาแต่ไหนเล่า


บทประพันธ์โดย : ดังตฤณ (นิตยสารธรรมะใกล้ตัว ปี ๒๕๕๒)

รวมลิงก์บทความก่อนเกิดเป็นดังตฤณ
แชแนล "ก่อนเกิดเป็นดังตฤณ"
บน Podcast ► http://apple.co/1WsUqUt
บน YouTube ► http://bit.ly/1YSrFzz

• ตอนที่ ๑ เรื่องส่วนตัวของดังตฤณ
ฟัง https://youtu.be/RpQxFOlF4hU
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_45.html

• ตอนที่ ๒ ใส่บาตรครั้งแรก
ฟัง https://youtu.be/WOolpKCyecs
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_26.html

• ตอนที่ ๓ ไม่มีใครคิดอย่างนี้บ้างหรือ
ฟัง https://youtu.be/PMlxjkuC4Oc
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_8.html

• ตอนที่ ๔ รู้สึกผิดที่เกิดมา
ฟัง https://youtu.be/2fZfnhT1Vx8
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_79.html

• ตอนที่ ๕ ระหว่างเรื่องจริงกับนิยาย
ฟัง https://youtu.be/J2pqdmEEvKI
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_77.html

• ตอนที่ ๖ ระลึกชาติ
ฟัง https://youtu.be/QFQSu4kcrfA
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_27.html

• ตอนที่ ๗ ระลึกชาติ (ต่อ)
ฟัง https://youtu.be/csm0Fh5gPyw
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_68.html

• ตอนที่ ๘ อนาคตอันมืดมน
ฟัง https://youtu.be/DoGJZqRxk9A
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_93.html

• ตอนที่ ๙ วิถีแห่งเต๋า
ฟัง https://youtu.be/PJ39XAUM3xw
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_46.html

• ตอนที่ ๑๐ วิถีแห่งคนโง่
ฟัง https://youtu.be/YkKOtBKvgvI
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_14.html

• ตอนที่ ๑๑ พบทาง
ฟัง https://youtu.be/9LCu0Tq6Trk
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_63.html

• ตอนที่ ๑๒ เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
ฟัง https://youtu.be/GzXSQLO0KtE
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_73.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น