วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2559

ตอนที่ ๕ ระหว่างเรื่องจริงกับนิยาย (ก่อนเกิดเป็นดังตฤณ)

เริ่มจากความไม่พอใจในชีวิตตนเอง นำไปสู่ความอยากรู้เหตุแห่งความไม่น่าพอใจ ความอยากระลึกชาติของผมจึงไม่ใช่เรื่องเล่นๆ บางวันรู้สึกเหมือนอกจะแตกตายเพราะความอยากรู้ คิดเลยว่าให้แลกด้วยอะไรก็ยอม ขอให้ได้ทราบที่มาที่ไปของตัวเองเถอะ ครั้งนั้นผมไม่ตระหนักหรอกว่าความจริงเกี่ยวกับ ชาติก่อนเป็นความลับที่ยิ่งใหญ่ขนาดไหน เอาอย่างนี้แล้วกัน ขอเพียงมีคนแค่ครึ่งโลกรู้ความจริงเกี่ยวกับอดีตชาติของตนเอง โลกนี้จะไม่มีอาชญากรรม ไม่มีสงคราม และอาจเหลือศาสนาพุทธเพียงศาสนาเดียว! เหตุใดจึงเป็นไปได้ขนาดนั้น เอาล่ะ! สมมุติว่าคุณระลึกชาติได้ เห็นตนเองเคยยากจนข้นแค้นในชาติก่อน ทว่าในชาติอันกันดารเหลือร้ายนั้นเอง คุณกลับมีน้ำใจมีความโอบอ้อมอารี แล้วก็ไม่คิดโกงใคร ไม่อยากขโมยของใคร คุณจะเห็นนิมิตแห่งความดีที่ทำทั้งชีวิตนั้นเอง ปรากฏเป็นแสงสว่าง มีความน่าอบอุ่นใจ มีความน่ายินดี อันเสมอกันกับผลที่ปรากฏในชาตินี้ คือเกิดมามีอันจะกิน ได้รับความเอื้อเฟื้อต่างๆนานา แถมทรัพย์สินก็ไม่วิบัติด้วยน้ำมือโจรหรือโดยภัยทางธรรมชาติใดๆ พูดง่ายๆ การระลึกชาติอาจช่วยให้คุณเห็นชัดว่าตัวเองพ้นจากความยากจนมาสู่ ความมั่งมีได้เพราะทานและศีล หากระลึกชาติได้จริง ยิ่งมากชาติขึ้นเท่าไร คุณก็จะยิ่งรู้ซึ้งว่าสัตว์โลกย่อมเป็น ไปตามกรรม สมดังเช่นที่พระพุทธเจ้าตรัสชี้ไว้จริงๆ ไม่มีใครคอยกลั่นแกล้งกำหนดชะตา ไม่มีใครคอยบงการให้คุณทำดีทำชั่ว จะเดินบนเส้นทางกรรมวิบากสายใดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณเองในแต่ละชาติทั้งสิ้น! เมื่อตระหนักว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว แล้วใครจะไม่ขยันทำดี และใครเล่าจะกล้าทำชั่ว

นอกจากนั้น คุณจะพบว่ามีเพียงศาสนาพุทธ ที่สาธยายความจริงเกี่ยวกับการเวียนว่ายตายเกิดตามกรรม ตลอดจนบอกวิธี ดับกรรมเพื่อยุติทุกข์ หยุดเวียนว่ายตายเกิดเสียทีแต่เพราะคนเราระลึกชาติไม่ได้ ต้องเล่นตามเกมสังสารวัฏ คือเกิดใหม่ลืมหมดดังนั้น ทั้งอาชญากรรม ทั้งสงคราม และทั้งลัทธิความเชื่อต่างๆจึงเกิดขึ้นที่นั่นที่นี่ไม่หยุดหย่อน ลากจูงกันและกันว่ายวนในทะเลทุกข์ไปเรื่อยสำหรับผม ความไม่พอใจในตนเอง พอมาบวกเข้ากับความจดจ่ออยากรู้วิธีระลึกชาติ ก็ทำให้ใจไม่อยู่กับปัจจุบัน ไม่พอใจในสิ่งที่กำลังอยู่ตรงหน้า แล้วกลายเป็นชนวนให้ฝันเฟื่องโดยไม่รู้ตัว พร้อมจะเข้าไปมีอารมณ์ร่วมกับหนัง ละคร และนวนิยายได้เต็มเหนี่ยวทุกเมื่อ เมื่ออยู่ ป.๕ เพื่อนสนิทคนหนึ่งแต่งนิยายกำลังภายในและเอามายื่นให้ผมอ่านผมพบว่ามันสนุกอย่างน่าทึ่ง และกระทุ้งให้คิดว่าถ้าเพื่อนเราเขียนได้ แล้วทำไมเราจะเขียนไม่ได้ลงมือเขียนเรื่อยเปื่อย และพอขึ้น ป.๖ ผมก็มีแฟนนิยายเข้าคิวรออ่านกันเป็นทิวแถว ตั้งแต่พี่สาวสองคนในบ้าน ไปจนกระทั่งเพื่อนร่วมชั้นร่วมครึ่งห้องที่โรงเรียน ความปลื้มกับการมีแฟนคลับทำให้เกิดกำลังใจในการเขียนไม่หยุดและจากแรงบันดาลใจให้หัดเขียนนิยาย ก็กลายเป็นการค้นพบว่าชีวิตคนใช่จะต้องเป็นเรื่องจริงเสมอไป เมื่อเขียนถึงละครตัวไหน ใจเราก็อยู่กับความเป็นอย่างนั้น รู้สึกเป็นจริงเป็นจังไปตามนั้น หน้าตาและชื่อนามสกุลในโลกความจริงเหมือนหายไป ราวกับมีเมฆหมอกอาถรรพณ์ก้อนใหญ่ก่อตัวขึ้นในหัวของเราและเราก็เข้าไปอยู่ในเมฆหมอกนั้น เพื่อกลายเป็นคนโน้นทีคนนี้ที ในโลกของนิยายผมเป็นใครได้หลายคนโดยไม่ต้องตายแล้วเกิดใหม่ จึงช่วยลดความไม่พอใจในตนเองลง กับทั้งลดระดับความอยากรู้อยากเห็นอดีตชาติได้มากถ้าคิดในแง่ของอายุขัย นิยายก็อาจเป็นความจริงยิ่งกว่าชีวิตของพวกเราเสียอีก เพราะคนเราอายุไม่ถึงร้อยปีก็ตาย ส่วนนิยายอาจยืนยงคงกระพันหลายร้อยหลายพันปี ถ้าคนเขียนฝีมือดีน่าจดจำได้เท่าเช็กสเปียร์

การเขียนนิยายเป็นจุดเริ่มต้นของอาชีพนักเขียน แต่ไม่ได้เป็นจุดจบของความเบื่อหน่าย ผมได้โลกใหม่มาทั้งใบ เพียงเพื่อจะพบในเวลาไม่นานว่าผมไม่ได้เป็นเจ้าของโลกใบนั้นเลย ในเมื่อผมไม่มีความสามารถจะเขียนได้ตลอดเวลา และก็ไม่ใช่ทุกครั้งที่ผมและแฟนคลับจะพอใจในผลงานแต่อย่างไรก็ตาม การคร่ำหวอดอยู่ในวงการนิยายนั่นเอง ที่ช่วยให้ผมเข้าใจว่าความเชื่อมีอิทธิพลกับเราเหนือ ความจริงเพราะไม่ว่าความเชื่อจะมาจากประสบการณ์จริงหรืออ่านเอาจากนิยาย มันก็มีส่วนผลักดันให้เราลุกขึ้นทำดีลงมือทำร้าย หรือกระทั่งตั้งโจทย์สำคัญให้กับชีวิตที่เหลืออย่างถูกทางได้

บทประพันธ์โดย : ดังตฤณ (นิตยสารธรรมะใกล้ตัว ปี ๒๕๕๒)

รวมลิงก์บทความก่อนเกิดเป็นดังตฤณ
แชแนล "ก่อนเกิดเป็นดังตฤณ"
บน Podcast ► http://apple.co/1WsUqUt
บน YouTube ► http://bit.ly/1YSrFzz

• ตอนที่ ๑ เรื่องส่วนตัวของดังตฤณ
ฟัง https://youtu.be/RpQxFOlF4hU
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_45.html

• ตอนที่ ๒ ใส่บาตรครั้งแรก
ฟัง https://youtu.be/WOolpKCyecs
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_26.html

• ตอนที่ ๓ ไม่มีใครคิดอย่างนี้บ้างหรือ
ฟัง https://youtu.be/PMlxjkuC4Oc
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_8.html

• ตอนที่ ๔ รู้สึกผิดที่เกิดมา
ฟัง https://youtu.be/2fZfnhT1Vx8
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_79.html

• ตอนที่ ๕ ระหว่างเรื่องจริงกับนิยาย
ฟัง https://youtu.be/J2pqdmEEvKI
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_77.html

• ตอนที่ ๖ ระลึกชาติ
ฟัง https://youtu.be/QFQSu4kcrfA
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_27.html

• ตอนที่ ๗ ระลึกชาติ (ต่อ)
ฟัง https://youtu.be/csm0Fh5gPyw
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_68.html

• ตอนที่ ๘ อนาคตอันมืดมน
ฟัง https://youtu.be/DoGJZqRxk9A
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_93.html

• ตอนที่ ๙ วิถีแห่งเต๋า
ฟัง https://youtu.be/PJ39XAUM3xw
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_46.html

• ตอนที่ ๑๐ วิถีแห่งคนโง่
ฟัง https://youtu.be/YkKOtBKvgvI
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_14.html

• ตอนที่ ๑๑ พบทาง
ฟัง https://youtu.be/9LCu0Tq6Trk
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_63.html

• ตอนที่ ๑๒ เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
ฟัง https://youtu.be/GzXSQLO0KtE
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_73.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น