วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2559

ตอนที่ ๘ อนาคตอันมืดมน (ก่อนเกิดเป็นดังตฤณ)

ในสมัยวัยรุ่น ความรู้เกี่ยวกับอดีต ชาติแม้กระท่อนกระแท่น แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้ผมเห็นตนเองต่างไปจากเดิม เช่น เมื่อทราบว่าช่วงท้ายของชีวิตก่อนมีการ หลบหนีอะไรบางอย่าง ก็ปะติดปะต่อได้ถูกว่าผลของการหลบหนีนั้น ส่งผลสำคัญให้ชาติปัจจุบันถือกำเนิดด้วยดวงจิตที่มีกำลังอ่อนใครก็ตามที่ถือกำเนิดด้วยจิตที่มีกำลังอ่อน ส่วนลึกจะรู้สึกเหมือนอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง ไม่มีแก่ใจจะทำงานใหญ่ให้สำเร็จ แนวโน้มจึงเป็นพวกท่าดีทีเหลว เขียนด้วยมือลบด้วยเท้า แม้ตั้งใจทำอะไรจริงก็ท้อถอยง่าย อยากปล่อยภาระไว้แบบคาราคาซัง โดยรวมจึงขาดความเชื่อมั่นในตนเอง นั่นคือความเป็นผมในช่วงต้นชีวิตนิมิตในช่วงต้นไม่ละเอียดพอจะช่วยให้รู้ว่าผมหนีอะไรมา ทราบแต่ว่าหนีสำเร็จแล้วสบาย แต่เป็นความสบายที่ต้องแลกด้วยศักดิ์ศรีและความนับถือตัวเอง ไม่ต่างจากทหารหนีทัพ แม้ลอยตัวเหนือความลำบากสาหัสในสมรภูมิสำเร็จ ก็มองเงาตัวเองในกระจกได้ไม่เต็มตานัก 

นอกจากการได้รู้จักความเป็นมาของตนเองดีขึ้นนิดหนึ่ง ผมยังได้ข้อสรุปว่าแม้ชาติภพและการเวียนว่ายตายเกิดจะมีจริง แต่หนึ่งชาติก็มีค่าไม่ต่างจากฝันข้ามคืนเท่าใดนัก เพราะทุกชาติจะหายไปและถูกลืมราวกับคลื่นกระทบฝั่ง แม้คุณจะเคยระลึกชาติได้ หรือกระทั่งสั่งสอนผู้คนให้เชื่อเรื่องภพภูมิและการเวียนว่ายตายเกิดได้ แต่พอเกิดใหม่คุณจะกลายเป็นคนไม่รู้อะไรเลย สงสัยและต้องค้นหาคำตอบแบบเสี่ยงถูกเสี่ยงผิดไม่ต่างจากคนธรรมดาครั้งแล้วครั้งเล่าเอาล่ะ! รู้เฉพาะตนว่าชาติก่อนมีจริง รู้ว่าการทำอะไรไว้ในการเกิดครั้งโน้น มีผลกระทบจังๆกับการเกิดครั้งนี้ เสร็จแล้วยังไงต่อ คำตอบไม่ได้แบอยู่ตรงที่เรารู้ว่าภพชาติมีจริง

ตราบใดยังไม่มีคำถามที่ชัดเจนว่าจะเอาอย่างไรกับชีวิต จะรู้อะไรแค่ไหนก็ไม่ใช่คำตอบไปทั้งนั้น! จากความอยากรู้คำตอบเกี่ยวกับอดีตชาติ แปรเป็นความอยากได้คำตอบเกี่ยวกับอนาคตอย่างรุนแรงไปแทน ช่วงมัธยม ๕ ผมรู้สึกอัดอั้นตันใจเป็นอย่างยิ่งกับการถามตนเองว่าวันหน้าจะเลือกเรียนให้จบปริญญาตรีด้านไหนดี รู้แต่ว่าถ้าคิดจะมีชีวิต อยู่ในระบบทุนนิยมอย่างสบายไม่อายใคร จะอยากหรือไม่อยากเรียนก็ต้องเรียนจะพร้อมหรือไม่พร้อมเลือกก็ต้องเลือกเกือบทุกเย็นผมจะเดินทางกลับบ้านอย่างคนที่รู้สึกหงอยๆ เฝ้าย้ำถามว่าตัวเองเกิดมาทำไม จะเอาสาระอะไรจากชาตินี้ อีกปีกว่าๆจะเอนทรานซ์เข้าคณะอะไรได้ การตอบตัวเองไม่ถูกทำให้ผมค่อยๆหดหู่และซึมเศร้าลงทุกทีนึกเกลียดอนาคตแต่ก็เหมือนถูกเงื่อนไขต่างๆบีบบังคับให้ผูกใจไว้กับอนาคตไม่เลิกหลายวันหลายเดือนเข้า อยู่ๆผมก็เริ่มฉลาดขึ้นหน่อยหนึ่ง คือบอกตัวเองว่าที่ต้องกลัดกลุ้มอยู่กับอนาคตอันมืดมน ก็เพราะปัจจุบันไม่มีไฟให้ความสว่างฉายไปข้างหน้าเหมือนอย่างคนอื่นเขาเพื่อนๆหลายคนคยุ เฟื่องเรอื่ งความตงั้ ใจจะเป็นวศิ วกร จะเป็นหมอ จะเป็นตำรวจแต่ละคนเหมือนถูกอาชีพหนึ่งๆจองตัวไว้แล้ว ก็แค่ค่อยๆเดินตรงไปสู่อ้อมแขนของอาชีพนั้นๆ วันนี้กับวันพรุ่งของพวกเขาเหมือนถูกเชื่อมต่อให้ติดแน่นเป็นอันเดียวกันไม่ต้องเพ่งมองให้เมื่อยก็เห็นชัดถนัดใจอยู่แล้ว

เมื่อจุดมุ่งหมายชัด ชีวิตก็ปรากฏเหมือนโจทย์ที่เข้าใจง่าย ผมตัดสินใจจะหาใจจริงให้เจอ เพื่อวันหน้าจะเอาตัวรอดได้อย่างเพื่อนๆบ้าง ผมพร่ำบอกตนเองว่าชีวิตจะง่าย ถ้าตั้งโจทย์ให้ถูกแต่ให้เด็กอายุ ๑๖-๑๗ หาใจจริงให้เจอ ตั้งโจทย์ชีวิตของตัวเองให้ถูกนี่ยากนะครับ คนแค่หยิบมือเดียวที่มีสิทธิ์รู้ตัวตั้งแต่เนิ่นๆว่าตนมีใจให้กับอะไร อยากทำอาชีพแบบไหน ถึงเวลาคนส่วนใหญ่ก็แค่บอกตัวเองว่า ฉันจะเลือกเรียนคณะนี้ล่ะ!แต่นับหัวได้ที่บอกตัวเองว่า คอยดูเถอะ ต่อไปฉันจะเป็นหมายเลขหนึ่งของวงการนี้!สำหรับผม อย่าว่าแต่คิดแข่งเอาความเป็นหนึ่งกับใคร แค่นึกถึงการเลี้ยงตัวให้รอดก็พะอืดพะอมเต็มกลืนแล้ว ฉะนั้น ก้าวแรกของการแสวงหาใจจริงให้ตัวเองจึงต้องตัดความคิดแข่งขันหรือกระทั่งกวดให้ทันคนอื่นออกไป สิ่งแรกและสิ่งเดียวที่ต้องหาให้เจอคือ ไฟเท่านั้นไฟในความหมายของแรงบันดาลใจ กับไฟในความหมายของแสงสว่างของชีวิต ถ้าเป็นของจริงแท้สำหรับใคร มันต้องเป็นไฟดวงเดียวกัน นี่คือข้อเท็จจริงที่ผมพบด้วยชีวิตตนเองในเวลาต่อมาครับ

บทประพันธ์โดย : ดังตฤณ (นิตยสารธรรมะใกล้ตัว ปี ๒๕๕๒)

รวมลิงก์บทความก่อนเกิดเป็นดังตฤณ
แชแนล "ก่อนเกิดเป็นดังตฤณ"
บน Podcast ► http://apple.co/1WsUqUt
บน YouTube ► http://bit.ly/1YSrFzz

• ตอนที่ ๑ เรื่องส่วนตัวของดังตฤณ
ฟัง https://youtu.be/RpQxFOlF4hU
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_45.html

• ตอนที่ ๒ ใส่บาตรครั้งแรก
ฟัง https://youtu.be/WOolpKCyecs
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_26.html

• ตอนที่ ๓ ไม่มีใครคิดอย่างนี้บ้างหรือ
ฟัง https://youtu.be/PMlxjkuC4Oc
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_8.html

• ตอนที่ ๔ รู้สึกผิดที่เกิดมา
ฟัง https://youtu.be/2fZfnhT1Vx8
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_79.html

• ตอนที่ ๕ ระหว่างเรื่องจริงกับนิยาย
ฟัง https://youtu.be/J2pqdmEEvKI
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_77.html

• ตอนที่ ๖ ระลึกชาติ
ฟัง https://youtu.be/QFQSu4kcrfA
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_27.html

• ตอนที่ ๗ ระลึกชาติ (ต่อ)
ฟัง https://youtu.be/csm0Fh5gPyw
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_68.html

• ตอนที่ ๘ อนาคตอันมืดมน
ฟัง https://youtu.be/DoGJZqRxk9A
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_93.html

• ตอนที่ ๙ วิถีแห่งเต๋า
ฟัง https://youtu.be/PJ39XAUM3xw
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_46.html

• ตอนที่ ๑๐ วิถีแห่งคนโง่
ฟัง https://youtu.be/YkKOtBKvgvI
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_14.html

• ตอนที่ ๑๑ พบทาง
ฟัง https://youtu.be/9LCu0Tq6Trk
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_63.html

• ตอนที่ ๑๒ เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
ฟัง https://youtu.be/GzXSQLO0KtE
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_73.html

1 ความคิดเห็น: