วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2559

ตอนที่ ๔ รู้สึกผิดที่เกิดมา (ก่อนเกิดเป็นดังตฤณ)

ทั้งที่ผมอายุเพิ่ง ๑๐ ขวบ ผมก็รู้สึกอยู่เกือบตลอดเวลาว่าอายุของตนเองสั้นเหลือเวลาให้ทำอะไรน้อย แต่นั่นเป็นแค่ปมหนึ่ง ผมยังมีปมทางใจอีกหลายข้อที่หาคำอธิบายไม่ได้  

ข้อแรก ผมอ่อนไหว อาลัยและใจหายกับทุก สิ่งที่อยู่รอบตัวตอนอายุ ๔ ขวบคุณแม่จะถ่ายรูปผมและสั่งให้ผมยืนตั้งท่าเข้ากล้องเก๋ๆหน่อย ผมเลือกที่จะทำท่าโบกมือลา ในใจตอนนั้นรู้สึกอยากให้เป็นภาพที่ทุกคนจะเก็บไว้คิดถึงผม และตอนอายุก่อนสิบขวบผมเคยแกล้งหลอกน้องชายว่าจะหนีออกจากบ้าน เพียงเพื่อสะใจที่เห็นเขาร้องไห้และวิ่งตาม จริงๆแล้วก็ไม่มีอะไรมาก ผมแค่ยัดเยียดความอาลัยไปฝากไว้กับเหยื่อสักรายหรือหลายๆราย แทนที่จะเป็นฝ่ายอาลัยเสียเอง

ข้อสอง ผมชอบทำตัวเป็นพวกกล้าบ้าบิ่น ขี่จักรยานผาดโผนเสี่ยงแขนขาหัก ควบม้าเร็วๆหนีคนคุม บึ่งสกู๊ตเตอร์ออกทะเลไปไกลๆแบบให้เจ้าของใจแป้ว แต่กลับกลัวตายในเรื่องไม่เป็นเรื่อง เช่น นั่งอยู่ตอนหน้าของรถจะกลัวเป็นศพเละถ้าประสานงากับสิบล้อ และแม้ผมจะบูชาคนที่กล้าหาญ กับทั้งมักได้รับการโหวตจากเพื่อนๆให้เป็นหัวหน้าแก๊ง แต่ในความฝันยามหลับ ผมมักฝันเห็นตัวเองกำลังวิ่งหนีอะไรบางอย่างด้วยความขลาดกลัว และตื่นขึ้นมาแบบขวัญหนีดีฝ่ออย่างประหลาดเป็นประจำ

ข้อสาม ผมเป็นพวกต้นแรงปลายแผ่ว เช่น มักเป็นจุดเด่นในสายตาของครูเหมือนเรียนเก่งและน่าจะเป็นที่หนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่ และโดยมิได้นัดหมาย บรรดาครูบาอาจารย์มักจะเอ่ยเข้าหูผมด้วยสำเนียงผิดหวังเสมอ คือ เธอนี่ท่าดีทีเหลวนั่นอาจเป็นคำตำหนิที่ทำให้เด็กๆรู้สึกแย่กับตัวเอง แต่สำหรับผมแล้วคำติเตียนของครูไม่ได้มีความหมายนัก เพราะฟังผ่านๆแบบทำหูทวนลมจนชิน แต่คำที่ไม่มีใครว่าผม ผมเห็นหรือ ได้ยินของผมเอง กลับ ทำให้เกิด ความเจ็บปวดและรู้สึกผิดได้อย่างน่าแปลก เช่นคำว่า เขียนด้วยมือลบด้วยเท้า!ผมไม่เข้าใจว่าทำไม รู้แต่ว่าตัวเองเพียรระวังอย่างมากที่จะไม่ทำตัวเป็นคนประเภทตั้งใจเองแล้วล้มเลิกเสียเอง ทว่าก็มักหนีไม่พ้น ผมเปลี่ยนใจง่าย เลิกล้มความตั้งใจง่ายเสมอ

ไม่รู้หรอกว่าเครื่องรบกวนจิตใจในวัยเด็กทั้ง ๓ ข้อข้างต้นโยงใยถึงกัน และมา จากต้นเหตุเดียวกัน ในความไม่รู้ ก็เห็นแต่ว่าผมรู้สึกไม่พอใจในตนเอง ไม่พอใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ไม่พอใจวินาทีปัจจุบัน แล้วบีบให้ใจคิดฝันว่าเป็นคนอื่น มีชีวิตใหม่ในโลกอื่น ตลอดจนผูกยึดอยู่กับอดีตที่ล่วงไปแล้วกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึงอย่างรุนแรงหากคุณเคยผ่านประสบการณ์เหม็นเบื่อ ไม่อยากทำอะไรเลย เห็นงานวางอยู่ตรงหน้าจะอยากหันหนี คุณคงเข้าใจความรู้สึกในวัยเด็กของผมได้ดี มันเกิดขึ้นตลอดเวลาครับ ถ้าใครบอกว่านี่เป็นภาระของเธอ เธอต้องรับผิดชอบ เธอต้องจัดการสะสางให้เสร็จสิ้นภายในเวลาเท่านั้นเท่านี้ ผมจะอธิษฐานขอให้มนุษย์ต่างดาวมาดูดตัวผมขึ้นจานบิน จะเอาไปทดลองจนผมตายคาเตียงผ่าตัดก็ยอมขอแค่ได้หนีหายไปจากภาระที่จะต้องเผชิญเป็นพอความไม่อยากทำอะไรนำไปสู่ความรู้สึกว่าชีวิตว่างเปล่า ไม่มีค่า ไม่มีราคา ไร้ความหมาย ไร้ธงชัยใดๆเป้าหมายที่ว่างเปล่าเป็นอะไรที่น่ากลัว ผมวิ่งหาสิ่งที่ตัวเองรักและพอใจจะเสียเวลาอันน้อยนิดในชีวิตนี้ให้กับมัน ผลคือถ้าผมอยากทำอะไร ผมต้องทำให้ได้ในวันเดียวหรืออย่างมากที่สุด ไม่เกินหนงึ่อาทิตย์หากเกินกว่านั้นจะรู้สึก ว่าไม่สามารถทำให้สำเร็จก่อนตาย

อย่างเช่นได้ยินพี่คนหนึ่งเล่นกีตาร์คลาสสิก ผมก็จะรีบเร่งหัดเล่นทั้งวันทั้งคืน กระทั่งเล่นได้ทั้งเพลงภายในหนึ่งอาทิตย์ ด้วยวิธีฝึกตามโน้ตเอาทีละห้องอย่างมีน้ำอดน้ำทนจนครบหรืออย่างเช่นหมากรุก เมื่อเกือบ ๓๐ ปีก่อนมีพี่คนหนึ่งสอนให้เล่น ผมติดใจมาก แต่หาเพื่อนเล่นไม่ได้ จึงต้องขอให้คุณพ่อซื้อหมากรุกคอมพิวเตอร์มาให้ และนั่นก็เหมือนผมได้เพื่อนคู่ใจ ผมอยู่กับมันทั้งวันทั้งคืน ชนะระดับ ๓ ซึ่งรู้สึกว่าเก่งได้ภายในเดือนเดียว และใช้เวลาประมาณครึ่งปีชนะระดับ ๗ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดสำหรับเครื่องในยุคนั้นแต่ผมก็เบื่อง่าย และทนเรียนรู้สิ่งใดสิ่งหนึ่งให้ลึกจริงๆไม่ได้ ฉะนั้น จึงไม่อาจเอาชนะปัญหาใหญ่อย่างการเรียนหนังสือ ผมไม่อาจเรียนหนังสือให้จบปริญญาได้อย่างรวดเร็วเหมือนเล่นกีตาร์และหมากรุก ไม่มีผู้ใหญ่ที่ไหนยอมให้เป็นเช่นนั้นและต่อให้ผู้ใหญ่ยอม ผมก็พบว่าตัวเองไม่มีความสามารถพอจะทำได้หรอก นั่นเองทำให้ผมยังไม่รู้สึกว่าเป็นตัวของตัวเอง หรือมีจุดหมายปลายทางให้พ้นความทรมานใจได้สักทีความขัดข้องและข้อขัดแย้งต่างๆในชีวิต นำไปสู่คำถามมากมาย ทำไมผมต้องเกิดมา คนเราดีเลวแค่ไหนก็เพียงเพื่อจบสิ้นอย่างสูญเปล่ากระนั้นหรือ ค่าของชีวิตคือการทำอะไรที่มีค่าเพื่อให้ได้ตายอย่างภูมิใจเท่านั้นเอง กระทั่งมีคนพูดถึงการระลึกชาติให้ได้ยิน ผมก็สนใจ และคิดว่าถ้าระลึกชาติได้ คำตอบทั้งหมดก็อาจอยู่ที่นั่น เพราะสำหรับผม ผมไม่ได้อยากตายอย่างภูมิใจเอาแค่ให้เข้าใจที่มาของตนเอง พอจะมีชีวิตอยู่โดยไม่ต้องรู้สึกผิดที่เกิดมาก็พอแล้ว



บทประพันธ์โดย : ดังตฤณ (นิตยสารธรรมะใกล้ตัว ปี ๒๕๕๒)

รวมลิงก์บทความก่อนเกิดเป็นดังตฤณ
แชแนล "ก่อนเกิดเป็นดังตฤณ"
บน Podcast ► http://apple.co/1WsUqUt
บน YouTube ► http://bit.ly/1YSrFzz

• ตอนที่ ๑ เรื่องส่วนตัวของดังตฤณ
ฟัง https://youtu.be/RpQxFOlF4hU
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_45.html

• ตอนที่ ๒ ใส่บาตรครั้งแรก
ฟัง https://youtu.be/WOolpKCyecs
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_26.html

• ตอนที่ ๓ ไม่มีใครคิดอย่างนี้บ้างหรือ
ฟัง https://youtu.be/PMlxjkuC4Oc
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_8.html

• ตอนที่ ๔ รู้สึกผิดที่เกิดมา
ฟัง https://youtu.be/2fZfnhT1Vx8
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_79.html

• ตอนที่ ๕ ระหว่างเรื่องจริงกับนิยาย
ฟัง https://youtu.be/J2pqdmEEvKI
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_77.html

• ตอนที่ ๖ ระลึกชาติ
ฟัง https://youtu.be/QFQSu4kcrfA
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_27.html

• ตอนที่ ๗ ระลึกชาติ (ต่อ)
ฟัง https://youtu.be/csm0Fh5gPyw
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_68.html

• ตอนที่ ๘ อนาคตอันมืดมน
ฟัง https://youtu.be/DoGJZqRxk9A
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_93.html

• ตอนที่ ๙ วิถีแห่งเต๋า
ฟัง https://youtu.be/PJ39XAUM3xw
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_46.html

• ตอนที่ ๑๐ วิถีแห่งคนโง่
ฟัง https://youtu.be/YkKOtBKvgvI
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_14.html

• ตอนที่ ๑๑ พบทาง
ฟัง https://youtu.be/9LCu0Tq6Trk
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_63.html

• ตอนที่ ๑๒ เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
ฟัง https://youtu.be/GzXSQLO0KtE
อ่าน http://dungtrinanswer.blogspot.com/2016/04/blog-post_73.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น