ดังตฤณ : ใช่ครับ แต่ไม่ใช่ง่ายๆนะ
คือถ้าหากว่าเราสามารถคิดเองได้ หรือว่ารู้วิธีเองได้
คงไม่ต้องรอพระพุทธเจ้ามาอุบัตินะครับ อย่างการที่ท่านสอน ท่านสอนแบบเป็นขั้นเป็นตอนนะครับ
ขึ้นมาเนี่ยก็ให้ทำความเข้าว่าอะไรๆมันไม่เที่ยง
คือการที่เห็นกายเห็นใจนี้ไม่เที่ยง หรือว่าแสดงความไม่ใช่ตัวตนเนี่ย
อันนี้ก็เป็นการดับอุปาทาน
คือพูดง่ายๆว่าเป็นหนังชั้นนอกของตัวตัณหา
แต่ตัวที่เป็นแก่นตัณหาจริงๆมันลงลึกไปถึงระดับของอวิชชา ซึ่งมันเห็นได้ยากมาก
แล้วก็ถ้าฆ่าอวิชชาไม่ได้
ตัณหาไม่มีทางจบ เพราะแม้แต่พระอนาคามีนะครับ แค่มีจิตที่ดีๆหรูๆเลยเนี่ยแค่นั้นติดได้แล้ว
พอยึดติดมีอุปาทานว่าจิตน่ามีเป็นของดี แล้วอยู่ยั้งยั่งยืนเป็นกัปเป็นกัลป์ได้เนี่ย
ไปเป็นพรหมชั้นสูงนะครับ อยู่ชั่วกัปชั่วกัลป์เนี่ยแค่นั้นก็เป็นอุปาทานที่ก่อให้เกิดตัณหาเกิดนันทิ
ตัวความพอใจในจิตแบบนั้น ต่อเมื่อเลิกพอใจในจิตแบบนั้น เลิกกลัวว่าจะไม่มีจิตได้
นั่นแหละตรงนั้นแหละที่ถึงทำลายตัณหาได้เด็ดขาด
ตัณหาขั้นสุดท้ายเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนมากลึกซึ้งมากนะครับ
คือคำตอบสำหรับคำถามนี้คือใช่ แต่ไม่ใช่คิดว่าเราจะหยุดตัณหาแล้วก็จบนะครับ
หรือแม้กระทั่งอย่างที่พระพุทธเจ้า
หรือว่าศาสดาอื่นๆเคยทดลองมาหมดแล้ว มากัดลิ้นทำให้ตัวเองเป็นทุกข์อยู่เป็นปีๆอะไรต่างๆ
ทำให้เกิดความรู้สึกว่า ร่างกายอันนี้เป็นของไม่น่าเอา เป็นของไม่น่ามี
มันก็ไม่ใช่ที่จะดับตัณหาได้
-----------------------------------------
ผู้ถอดคำ แพร์รีส แพร์รีส อุทิศให้ เคววิน
วันที่ไลฟ์ ๒๕
เมษายน ๒๕๖๓ (รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน)
คำถาม ถ้าเราตัดตัณหาได้
เราก็จะไม่เกิดอีกใช่ไหมคะ?
ระยะเวลาคลิป ๒.๓๕ นาที
รับชมทางยูทูบ https://www.youtube.com/watch?v=6dkm90StgmI&list=PLmDLNhxScsWPHpIdf0LAQiQM1j9ZebEMx&index=14** IG **
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น