ดังตฤณ : ความกตัญญูเนี่ยนะครับ แค่จดจำไว้แค่นึกถึงด้วยใจ เป็นมโนกรรมก็เรียกว่ากตัญญูแล้ว ที่เรียกว่าจะต้องตอบแทนคุณท่านนะ อันนั้นเป็นกตเวที กตเวทีที่จะลงมือลงไม้หรือว่าใช้คำพูด หรืออะไรที่ทำให้ท่านรับรู้ด้วยหู หรือว่ารับรู้ด้วยตานะครับ อันนั้นเป็นกตเวที แต่ว่าแค่นึกด้วยใจก็ถือว่าเป็นคนกตัญญูแล้วนะครับ
ทีนี้การที่เราคนๆนึงเนี่ยนะ บางทีบอกว่า เนี่ยจำได้ว่าพ่อมีพระคุณถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยได้เห็นหน้าเห็นตากันก็ตามในชีวิตนี้เนี่ย มีเวลาในชีวิตที่จะเห็นหน้าเห็นตากันน้อย แล้วมันก็ยังไม่อิ่มใจ มันก็ยังรู้สึกว่าไม่พอ มีความรู้สึกเหมือนกับว่าขาดๆยังไงไม่ทราบ เพราะว่ายังไม่ได้ทำในสิ่งที่รู้สึกว่าต้องออกแรง หรือว่าทำในสิ่งที่รู้สึกว่ามันเป็นกรรมที่จับต้องได้นะครับ อันนี้วิธีหนึ่งที่นิยมทำกันก็คือว่า พอทำบุญแล้วอุทิศส่วนกุศลให้ ก็เรียกว่าได้รู้สึกลงแรงไปบ้างแล้วนะครับ
ทีนี้ถ้าจะทำให้เกิดความรู้สึกขึ้นมาจริงๆ ก็อาจจะเลือกเอา อย่างถ้าหากว่าช่วงที่คุณพ่อเสีย ท่านอายุประมาณเท่าไหร่ เราไปช่วยให้คนอายุประมาณเท่านั้นได้ในทางใดทางหนึ่งนะครับ อย่างเช่น คนพิการหรือว่าคนชราอนาถา ที่ไม่มีลูกหลานดูแล หรือว่าไปเจอตามข้างทางอะไรแบบนี้ ก็ช่วยเหลือเท่าที่จะเป็นไปได้ แล้วก็คิดว่าที่เราลงแรงไปเนี่ยคิดเสมือนหนึ่งว่า ได้ทำบุญตอบแทนท่านโดยอาศัยร่างของผู้ที่ด้อยโอกาสอายุประมาณเดียวกันได้มีความสุขมากขึ้น ได้มีชีวิตที่ดีขึ้นอะไรแบบนี้นะครับ แล้วก็อุทิศส่วนกุศลไป สวดมนต์กลับมาบ้านแล้วสวดมนต์อุทิศส่วนกุศลให้ เนี่ยความรู้สึกมันจะจับต้องได้ขึ้นมานะครับ
เพราะว่า หลายๆคนคงเคยมีประสบการณ์ใช่มั้ย แบบว่าเจอคนคล้ายๆกับทำให้รู้สึกเหมือนกับเป็นพ่อเป็นแม่ หน้าตาคล้ายกัน หรือว่าอากัปกิริยาท่าทีนิสัยอะไรต่างๆเหมือนๆกัน เลยทำให้นึกถึงพ่อแม่ ก็เลยดีกับคนๆนั้นมากกว่าคนอื่นเป็นพิเศษ
อันนี้ก็ทำนองเดียวกัน คือพอเราได้รู้สึกว่าอาศัยร่าง อาศัยบุคคลสักคนหนึ่ง เป็นตัวตั้งเป็นตัวแทนความรู้สึกว่าเป็นพ่อเป็นแม่ แล้วทำดีไปกับเขา ด้วยความรู้สึกราวกับว่าทำดีให้พ่อแม่ ความรู้สึกมันก็ดี มันก็เหมือนกับได้บุญมากกว่าทำกับคนทั่วไปใช่มั้ย หลายๆคนคงเคยมีประสบการณ์แบบนี้ นั่นก็เพราะว่า ถึงแม้จะไม่ใช่พ่อแม่จริงๆก็ตาม แต่เป็นตัวแทน เป็นที่ตั้งของความรู้สึกให้เราได้ มันก็รู้สึกว่าได้บุญอิ่มใจราวกับทำให้พ่อแม่ได้จริงๆนะครับ อันนี้ก็ถือว่าเป็นสื่อ สือบุญนะครับ
เวลาเรากลับมาอุทิศส่วนกุศลให้กับพ่อแม่ มันจะรู้สึกจับต้องได้ขึ้นมา เป็นจริงเป็นจังขึ้นมานะครับ ส่วนที่ว่า .. คืนคนโดยเฉพาะคนไทยนะ จะกังวลตรงที่ว่า เอ๊ะ!ทำบุญแค่นี้สงสัยไปไม่ถึงหรอก
จริงๆเรื่องการทำบุญข้ามภาพข้ามชาติ มันเป็นเรื่องที่พูดกันไปก็เปล่าประโยชน์นะครับ เพราะมันมองไม่เห็น แต่ผมให้คิดง่ายๆนะครับ สมมติว่าบุพการีของเราไปเกิดใหม่เป็นมนุษย์เป็นเด็กทารกอยู่ คุณลองดูเด็กทารกจะรับรู้อะไรได้มั้ย จะรับบุญอนุโมทนาจากลูกหลานที่อยู่ในภพก่อนได้มั้ย
หรือว่าถ้าหากว่าจับพลัดจับผลูลงไปเป็นแมว เป็นนก เป็นปลาอย่างนี้ จะเอาอะไรมา .. คืออย่างปลาว่ายน้ำอยู่เนี่ยจะรับบุญได้ยังไง แล้วจะเอาบุญมาเลื่อนชั้นได้ยังไง มันทำไม่ได้นะครับ
ยิ่งถ้าท่านเป็นเทวดาหรือเป็นพรหมอยู่ บุญที่เราอุทิศให้เนี่ย ท่านก็อาจจะอนุโมทนามองลงมาแล้วรู้ว่า เออ ลูกเราทำบุญส่งมาให้ก็อาจจะยินดี แต่ไม่ใช่ว่าบุญนั้นจะทำให้ท่านได้วิมานเพิ่มขึ้นอีกหลังนึง หรือว่าจะให้ชีวิตท่านดีขึ้น
แต่สิ่งที่มันจะดีขึ้นแน่ๆก็คือ ความรู้สึกทางใจของเรานะครับ ที่ได้พบว่าตัวเองมีความกตัญญูแล้วก็พยายามทุกวิถีทาง คือมีใจที่มันเต็มที่จะตอบแทนท่านด้วยหนทางเท่าที่จะเป็นไปได้
แล้วถ้าหากว่าจับพลัดจับผลูท่านลำบากอยู่จริงๆ
แล้วก็อยู่ใกล้ๆเราไม่ได้ไปไหน เป็นอะไรที่สามารถรับส่วนบุญจากเราได้ อันนี้ก็จะเป็นประโยชน์กับท่านขึ้นมาจริงๆ
ไม่ว่าจะไปถึงหรือไปไม่ถึงไม่ต้องไปคิดนะครับ คิดแค่ว่าใจเราเนี่ยถึงหรือเปล่า
ถึงซึ่งความกตัญญูซึ่งเป็นบุญอันดับแรก
แล้วก็ถึงซึ่งการพยายามตอบแทนท่านด้วยการลงมือเอาจริง แล้วก็ได้ทำสำเร็จมั้ยนะครับ
ได้มีใจคิดส่งไปหรือเปล่า เอาแค่นี่แหละ
ตรงนี้แหละนะครับมันจะเพียงพออยู่แล้วที่จะทำให้เราได้ยืนยันกับตัวเองว่า เราได้แสดงความกตัญญูกับท่านแล้วนะครับ
---------------------------------------------------
๑๓
กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔
รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน
ตอน เคยทุบตีพ่อแม่ ห้ามมรรคผลหรือไม่?
คำถาม : ถ้าคุณพ่อเสียตั้งแต่เด็กๆ เราจะทดแทนคุณพ่ออย่างไรได้บ้าง?
ระยะเวลาคลิป ๗.๒๕
นาที
รับชมทางยูทูบ https://www.youtube.com/watch?v=PlA33fdxD1Y&list=PLmDLNhxScsWO7ZAuqr-FC25dor6ETZhM-&index=5
ผู้ถอดคำ แพร์รีส แพร์รีส
** IG **
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น