วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

๒.๗๘ อธิษฐานอย่างไร จึงได้ผลจริง?

ถาม : การอธิษฐานจิตนั้นต้องประกอบไปด้วยอะไรจึงจะทำให้การอธิษฐานสัมฤทธิ์ผล? จำเป็นแค่ไหน? และผู้ที่ฉลาดในการอธิษฐานควรจะอธิษฐานอย่างไรจึงจะเป็นบุญ เป็นบารมี และอย่างไหนควรเลี่ยงคะ?

รับฟังทางยูทูป : http://youtu.be/qBPiaVXYd7Q

ดังตฤณ : ก็เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะ โดยสรุปใหญ่ใจความนะครับ หลักการอธิษฐานง่ายๆเลยคือว่า ตั้งใจทำแล้วทำให้ได้ เอามาตามลำดับขั้นอย่าไปมองว่ามีพิธีรีตองอะไรที่จะทำงานใหญ่ให้สำเร็จ อย่างตั้งว่าจะ นู่นเลยนะ บางคนนี่อธิษฐานอยากนู่นอยากนี่ว่าเกิดชาติหน้าฉันใดนะ ขอให้เป็นอย่างนั้น อย่างนี้ ซึ่งมันไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมาพิสูจน์นะ ยังไม่ถึงชาติหน้ามันก็มองไม่เห็น หรือบางคนนะที่เคยได้ยินมากับหูเลยคือตั้งใจไว้ล่วงหน้าว่าหลังจากได้บรรลุโสดาปัตติผลจะทำนู่นจะทำนี่ จะเกิดอีก ๗ ชาติ จะเกิดอีก ๓ ชาตินะ อยากจะท่องเที่ยวไปแบบนางวิสาขานะ ตะลุยสวรรค์ทุกชั้นเลยแล้วค่อยไปให้ถึงมรรคผลนิพพานขั้นสูงสุดเป็นพระอรหันต์บนสวรรค์อะไรแบบนั้น

คือพอตั้งใจอะไรที่มันจะสัมฤทธิ์ผลในชาติต่อไปนี่อาจจะโอเค บางคนรู้หลักจริงๆแล้วก็มีตาทิพย์ มีญาณทิพย์สามารถทราบอนาคตของตนเองได้ อันนั้นก็เป็นอีกกรณีหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่มันไม่ใช่อย่างนั้น คนเราไม่สามารถคาดเดาได้ ไม่สามารถคาดคะเนได้ว่าอนาคตของตนเองจะเป็นไปอย่างไรนะครับ แต่เราสามารถที่จะเลือกได้ว่าจะเป็นคนดีหรือคนชั่ว จะเป็นผู้ที่อยู่บนเส้นทางของความสว่าง หรือเส้นทางของความมืด อันนี้เลือกได้ แล้วถ้าหากว่าจะเป็นผู้ที่มีความสำเร็จในการอธิษฐานคือตั้งใจจะทำอะไรแล้วทำให้ได้ ขอให้ไต่มาตามลำดับ อย่าไปกระโดดทำแบบก้าวกระโดด อย่าทำแบบที่มาตั้งใจโน่น ตั้งใจนี่ แบบที่มันใหญ่เกินตัวนะครับ อยากจะให้มันเกิดผลอย่างนั้นอย่างนี้แบบที่ไม่สามารถคาดเดาได้แน่นอน

เริ่มจากมีการตั้งใจทำอะไรเล็กๆน้อยๆ เช่นวันนี้ตั้งใจจะตื่นเช้าขึ้นมาใส่บาตรแล้วทำให้ได้ อย่าล้มเลิกกลางคันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนะ ยกเว้นแต่มันสุดวิสัยจริงๆ และเรายังมีความตั้งใจไว้ว่าถึงแม้จะมีเหตุติดขัดก็ต้องทำให้ได้ ถ้าสมมติวันนี้ตั้งใจว่าจะตื่นเช้าขึ้นมาเสร็จแล้วปรากฏว่าที่ต่างจังหวัดมีญาติไม่สบายด่วนนะ จะต้องไปตั้งแต่กลางคืนอะไรแบบนี้ ก็ไปนะ อย่าเป็นคนใจไม้ไส้ระกำนะ ประเภทที่ว่าฉันจะทำบุญก่อน ถึงญาติบอกว่ากำลังป่วยหนักเราก็ขอทำบุญก่อนตอนเช้าแล้ว ๙ โมงค่อยไปอะไรแบบนี้ ก็ให้ไปหาญาติเลย แต่ว่าเรามีความตั้งใจไว้ว่าการทำบุญตอนเช้าจะยังไม่เลิกรานะ ต้องทำให้สำเร็จให้ได้วันนี้ไม่ได้ พรุ่งนี้ต้องได้ ด้วยเหตุติดขัดจริงๆ แต่เหตุติดขัดเหลือวิสัยประเภทที่ว่า โอย ขี้เกียจตื่นนะ เหตุติดขัดแบนี้ ไม่ใช่ข้ออ้างที่ผู้สำเร็จในการอธิษฐานจิตนี่นะจะมาใช้กัน

อย่างบางคนนี่ถึงขนาดที่ว่าเกิดป่วยไข้กะทันหัน แทบจะลากสังขารมาไม่ไหวก็อุตส่าห์ลงมาทำกับข้าวตั้งแต่ ตี ๔ ตี ๕ เพื่อไปถวายพระนะ ตั้งใจไว้แล้วว่าจะใช้ฝีมือของตัวเองนี่แหละปรุงอาหารเพื่อที่จะถวายเป็นภัตตาหารแก่พระสงฆ์ในช่วงเช้า ก็ตั้งใจทำ ถึงแม้จะลากสังขารไม่ไหวปรากฏว่ามีปาฏิหาริย์คือตอนแรกที่เหมือนจะลากสังขารมาไม่ไหวนะ แต่พอกระเสือกกระสนลงมาจนได้นี่ พอถวายพระเท่านั้นอาการป่วยไข้หายเลยนี่ก็เป็นความมหัศจรรย์ของกองบุญกองกุศลที่ตั้งใจทำแล้วทำให้ได้

หรือที่มันยากขึ้นมากว่านั้นนิดหนึ่ง ที่เมื่อกี้พูดถึงการถวายภัตตาหารตอนเช้านะไปทำบุญใส่บาตรอันนี้เขาเรียกว่า การทำบุญในระดับของทานนะ ถ้าเขยิบขึ้นสูงนิดหนึ่ง เขยิบขึ้นสูงกว่าเดิมคือการทำบุญในระดับการรักษาศีล นี่อย่าดูเบานะแค่ตั้งใจว่าวันนี้จะไม่โกหกต้องไม่โกหกให้ได้ นั่นนะได้บุญยิ่งกว่าทำทาน คำว่าบุญในที่นี้ระดับของบุญไม่ใช่ว่าความสว่างความเจิดจ้าอะไรจะมากกว่าการใส่บาตรนะ แต่เป็นบุญของการพัฒนาจิต การรักษาจิต การที่จะทำมหาทาน

คำว่า มหาทานนี่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่าหมายถึงผู้ที่ตั้งใจรักษาศีล ตั้งใจที่จะมีชีวิตอยู่โดยไม่เบียดเบียนใครในโลก การรักษาศีลก็คือการไม่เบียดเบียนกันนั้นเอง การไม่ก่อเวร การไม่ก่อภัย การไม่เอาคืนถึงแม้จะมีเหตุยั่วยุให้เอาคืน นี่การรักษาศีลนะ มันก็คือการตัดเวรนั่นเอง มันก็คือการที่เรามีชีวิตอยู่อย่างผู้ปราศจากเวร ผู้ปราศจากเวรย่อมจะเป็นผู้ที่พ้นออกจากวงโคจรของเวรของภัย

ถ้าหากว่าเราตั้งใจว่าวันนี้จะไม่ฆ่าสัตว์แม้แต่ตบยุง วันนี้จะไม่ลักทรัพย์แม้กระทั่งคิดนะว่าจะไปเอาเปรียบคนอื่นเขาในขณะที่เขาไม่รู้เนื้อรู้ตัว เราจะไม่ประพฤติผิดทางเพศนะลูกเขาเมียใครหรือสามีของใคร หรือว่าผัวของใคร เราจะไม่ตั้งใจที่จะเอามาเป็นของของตน คือไปประพฤติผิดทางเพศ คำว่าประพฤติผิดทางเพศนั้นก็คือล่วงเกินกันทางประเวณีนะ คือถ้าแค่คิดยังไม่เป็นไรคือยังไม่เกิดอะไรขึ้น แต่ตั้งใจว่าจะทำตั้งใจว่าเอาจริงนั่นแหละเริ่มด่างพร้อยแล้ว และถ้าหากว่าทำสำเร็จถึงขั้นที่มีอะไรกันจริงนะ แบบผิดๆเป็นของของคนอื่นเขา อย่างนี้เรียกว่าละเมิดศีล เราจะไม่ทำ เราจะไม่คิด เราจะไม่ตั้งใจนะ ถ้าเกิดมันตั้งใจซะแล้วเราก็ล้มเลิกมันซะกลางคันอย่างนี้เรียกว่า ไม่ใช่เป็นผู้ที่มีความเหลาะแหละโลเลแต่เป็นผู้ที่มีความเด็ดเดี่ยวในการเอาชนะกิเลสนะครับ

และถ้าตั้งใจว่าวันนี้จะไม่ไปพูดโกหก หรือว่าพูดนินทาว่าร้ายใคร ไม่ไปพูดคำหยาบ ไม่ไปพูดส่อเสียดหรือว่าแม้กระทั่งการพูดเพ้อเจ้อพล่ามไปเรื่อยไหลไปเรื่อยนะโดยที่ไม่หยุด ไม่มีอาการของคนที่มีสติสตังอย่างนี้เราจะไม่เอา เราจะไม่ทำ ตั้งใจทำแล้วทำให้ได้ นอกจากนั้นข้อสุดท้ายก็คือตั้งใจว่าจะไม่กินเหล้าเมายา ไม่เสพยาอียาบ้านะ ไม่เอาอะไร ไม่รับสารอะไรที่มันบั่นทอนสติ มันบั่นทอนสัมปชัญญะ

ถ้าหากว่าตั้งใจทำแล้วทำได้นี่แหละถือว่าเป็นผู้มีสัจจะบารมี เป็นผู้ที่ทำบุญด้วยการรักษาสัตย์ สัจจะวาจานะ ตั้งใจทำอะไรแล้วทำได้ในทางที่เป็นบุญในทางที่เป็นกุศลในทางที่มีความสว่างอย่างนี้ มันจะมีกำลังของผู้มีสัจจะมากขึ้นเรื่อยๆอย่างนี้แหละนะ ก็จะให้เป็นผู้ที่ตั้งใจทำอะไรแล้วทำสำเร็จ ผู้ที่เริ่มต้นด้วยบุญ ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่มีความสว่างเป็นทุนหนุนมีทุนหนุนหลังนะเป็นความสว่างเป็นความมีอำนาจในทางที่จะทำอะไรได้สำเร็จด้วยทานด้วยศีลอย่างนี้นะ พอเราริเริ่มโครงการบุญตั้งใจจะทำอะไรในทางที่จะพัฒนาให้จิตวิญญาณของตัวเองก้าวหน้าขึ้นในที่สุดแล้วก็จะเป็นผู้ที่มีใจใหญ่ เป็นผู้ที่มีบุญใหญ่เป็นผู้ที่มีกองหลังหนุน หนุนหลังอย่างยิ่งใหญ่นะครับ แล้วก็ตัวนี้แหละที่มันจะก่อให้เกิดความสำเร็จไม่ว่าจะทำอะไร

แล้วก็สิ่งที่ควรเลี่ยงก็คือ ง่ายๆเลยตั้งใจจะทำอะไรในทางที่ดีในทางที่เป็นบุญเป็นกุศลแม้แต่เล็กๆน้อยๆอย่าดูเบาให้ทำให้สำเร็จลุล่วงให้จงได้ นั่นแหละสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงนะครับ ไม่ต้องไปทำพิธีรีตองอะไรทั้งสิ้น พิธีรีตองที่ดีที่สุดนะก็คือใช้ใจ อาศัยกำลังใจ ตั้งใจทำอะไรที่ดี แล้วทำให้ได้แต่ถ้าตั้งใจทำอะไรที่เลวแล้วล้มเลิกให้ได้อันนี้แหละก็จะเป็นบุญเป็นกุศลเช่นกัน มีความเป็นผู้ที่ประกอบความดีสำเร็จเช่นกันนะครับ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น