วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

๓.๔๓ ลูกเห็นผิดเป็นชอบ ควรสอนอย่างไร?


ถาม : มีปัญหาเรื่องลูกค่ะ กำลัง​​​​เห็นกงจักรเป็นดอกบัว ความคิด​​บิดเบี้ยวอย่างไรไม่รู้ค่ะ ชักแม่น้ำทั้งห้าก็แล้ว ยังเหมือนเดิม ​​น้องอายุ ๑๕ ค่ะ เป็นผู้ชาย?

รับฟังทางยูทูบ :  https://youtu.be/N6_4jspWY3M

ดังตฤณ: 
เรื่องลูกเป็นเรื่องที่ บางที อยากให้ทำใจอย่างนี้ก่อนนะว่า เป็นอนัตตาภายนอก คือแม้แต่อนัตตาภายในอันได้แก่กายใจของเรานี้ เราก็ไม่สามารถควบคุมได้อยู่ตลอดเวลาให้ได้อย่างใจ การที่จะไปควบคุมอนัตตาภายนอกให้ได้อย่างใจ มันยิ่งเป็นเรื่องเหลือวิสัยนะครับ ขอให้คิดอย่างนี้ก่อนเป็นอันดับแรก อย่างน้อยมันจะได้บรรเทาความรู้สึกห่วง กังวล หรือว่าผูกยึดว่าจะต้องเอาให้ลูกได้ดีท่าเดียว

อันดับที่สองก็คือว่าเราต้องมุ่งมองตามจริงว่าโลกสมัยนี้มันเต็มไปด้วยสิ่งที่ทำให้คนหลงผิดได้ง่าย แล้วก็ลูกในวัย ๑๕ นี่นะก็เป็นวัยที่จะว่าเด็กก็ไม่ใช่ จะว่าโตก็ไม่เชิงนะ เป็นอะไรที่น่าปวดหัวมาก เป็นอะไรที่เราควบคุมได้ยากที่สุด เป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ ขอให้วางใจในเส้นทางกรรมของแต่ละคนก็แล้วกันนะครับ ขอให้วางใจว่าถ้าหากว่าเขามาเป็นลูกของเราที่สนใจธรรมะ มันก็ต้องมีทาง ถ้าใจเราเย็นพอ ต้องมีสักวันหนึ่ง ที่เขาจะเข้าถามเรา เข้ามาหาเราพร้อมกับใบหน้าสงสัยว่าอะไรเป็นอะไร อยากรู้เรื่องไหนก็ค่อยตอบเขาไปตามนั้น แก้ข้อสงสัย การที่เราอยากจะไปยัดเยียดทุกความรู้สึกที่ถูกต้อง ทุกความคิดที่ถูกต้องตูมเดียว โดยที่เขายังไม่พร้อมจะรับ หรือว่าเราเห็นอะไรผิดอยากจะให้เขาถูกทันทีนี่ มันเป็นภาวะที่เขาเรียกว่า น้ำเชี่ยวเอาเรือไปขวางนะครับ

ขอให้ไปตามน้ำบ้างดีกว่า และไปตามน้ำในลักษณะสังเกตว่าเมื่อไหร่ควรคัดท้าย เมื่อไหร่ควรที่จะหักเลี้ยวซ้าย เมื่อไหร่ควรที่จะหักเลี้ยวขวา เวลาที่คุณสังเกตได้ถูกต้องนี่นะ คุณจะเห็นว่าใจของเรากับลูกนี่มันสื่อสารตรงกันได้ ใจเขามีอาการที่จะยอมฟัง ใจเขามีอาการที่จะเปิดปากถามเรา

แต่เมื่อไหร่ที่เขาไม่พร้อมจะถามเรา เมื่อไหร่เขาไม่พร้อมจะฟังเรา เมื่อไหร่ที่เราไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของการเป็นแม่เป็นลูกกันนี่นะ เมื่อนั้นอย่าเพิ่งพูด แต่ให้เอาน้ำเย็นเข้าลูบก่อน น้ำเย็นคืออะไร คือใจของคุณเองที่ไม่ร้อน ไม่เร่งตัวเองให้พยายามเปลี่ยนผิดให้เป็นถูกให้ลูกทันที ขอให้มองเถอะว่าให้เขาไปรับบทเรียนบ้าง ให้เขาไปมีความทุกข์บ้าง อย่ามองว่าเขาจะต้องมีความสุขอยู่ตลอดเวลา หรือทำถูกอยู่ตลอดเวลา เพราะว่านอกจากจะเป็นไปไม่ได้ ในฝั่งของเขาแล้ว มันยังทำให้ใจของคุณไม่สามารถสงบลงในเวลาที่ควรจะสงบด้วย

การที่คุณไม่สามารถสงบ และมีความรุ่มร้อนอยู่ตลอดเวลา ขอให้มองเถอะว่าใจแบบนั้นมันยิ่งทำให้คุณกับลูกนี่ มันยิ่งห่างกันออกไปนะ ไม่ใช่ใกล้กันเข้ามา แล้วถ้าหากว่าคุณสามารถเห็นว่าความเย็นเป็นสะพานเชื่อมระหว่างใจเขากับใจเรานะ ถ้าคุณสามารถสังเกตตรงจุดนั้นได้คุณจะพบว่าทุกคำที่พูดออกมา พูดออกมาอย่างที่เห็นว่าควรจะเป็นอย่างไร มันจะมีอาการสังเกตใจเข้าไปด้วย ไม่ใช่สังเกตแต่ความอยากเปลี่ยนเขาได้อย่างใจเราท่าเดียวนะครับ

อันนี้คงตอบกว้างๆ เพราะว่าเรื่องคำถามเกี่ยวกับคนอื่นที่เป็นอนัตตาภายนอกนี่นะ เป็นอะไรที่ตอบยากที่สุดเลย เพราะว่าเราไม่มีคำไม่มีอุบายอะไรหรอกนะ ที่จะไปพยายามทำให้อนัตตาภายนอกเป็นได้อย่างใจเรานะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น