ถาม : เป็นทุกข์กับนิสัยช่างคิดมากและแคร์คนอื่นมากไป
อยากให้คนอื่นเลิกทำไม่ดีกับเรา ทั้งๆที่เป็นไปไม่ได้ พยายามจะช่างมัน แต่ใจไม่ยอม
มันอยากขังตัวเองไว้กับภาวะปรุงแต่ง ที่ทำให้ทุกข์ราวกับเห็นการปรุงแต่งนั้น
เป็นเพื่อนรักที่เข้าใจความทุกข์ของมัน
แล้วใจก็ดิ้นรนเป็นทุกข์อยู่ในการปรุงแต่งนั้นเอง คำถามก็คือมีทางเปลี่ยนแปลงเปลี่ยนปัจจัยภายนอกบ้างไหม? แล้วก็จะเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างไร
ถ้ามันไม่ยอมรู้ทุกข์อย่างนี้?
ดังตฤณ:
เอาเป็นว่านะ
สรุปก็คือว่าเรามีนิสัยคิดมาก แล้วก็แคร์คนอื่นมากไป
ใจไม่ยอมแล้วก็มีอาการที่เหมือนกับ พูดง่ายๆอยู่กับอาการคิดมากไม่เลิกนะครับ อาการคิดมากไม่เลิกเนี่ย
ส่วนใหญ่นะครับ มันก็เป็นความเคยชิน มันเป็นการสั่งสมนะครับ
ที่เรายอมรับให้มันเกิดขึ้นนะ เรายอมให้มันมีความสำคัญ มีอิทธิพลเหนือจิตใจของเรา
ขอให้สังเกตดูคนที่คิดมากเนี่ยนะ วันๆเนี่ยก็คือ จะวน เหมือนใจเนี่ย
จะวนเข้าไปสู่อาการคิดมากนั้น โดยไม่อาจบังคับหรือควบคุมนะ ถ้าหากว่าเรามองเห็นพฤติกรรมของจิตว่า
มันไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตน ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ คือถ้ามันเป็นตัวเรา
เราต้องสามารถบังคับได้ แต่นี่มันไม่ใช่ตัวเรา มันมีอิทธิพลเหนือตัวเรา มันมีความสามารถที่จะย้อนกลับมาได้ตลอดเวลา
เรื่องที่จะชวนให้คิดมาก
สังเกตบ่อยๆ!
คือไม่ใช่ไปต่อต้านมัน
หรือพยายามจะระงับมันนะ
อันนี้เป็นยุทธวิธี
ถ้าหากว่าเราไปพยายามต่อต้านมัน
แสดงว่าเรายอมรับว่ามันเป็นตัวของเรา คือเราพยายามสั่งให้ตัวเองเลิกคิด
ถ้าเลิกคิดได้แปลว่า ไอ้ความคิดนั่นเป็นตัวเรา
แต่ถ้าหากว่าเราสังเกตว่า
มันเป็นแค่
‘พฤติกรรมทางใจ’
มันเป็นแค่
‘ความเคยชินทางใจ’
ที่จะย้อนกลับไปคิดมาก
คิดซ้ำ คิดซาก
แล้วอาการทางใจนั้นไม่มีความเป็นเรา
ที่
เราจะไปควบคุมอะไรมันได้
ดูมัน สมมุติว่ามันมาวันละ ๑๐ ครั้ง มาวันละ
๒๐ครั้ง นับไปเลยก็ได้นะ เอากระดาษมาจด มาติ๊กไป ว่าวันนี้คิดมากเรื่องเดิม เรื่องคนนั้นที่เราแคร์
คนๆนึงนะที่เราแคร์ ติ๊กไปเลย
พอคิดครั้งนึงคิดมากครั้งหนึ่ง
ติ๊กไป
เอาจดใส่กระดาษ
หรือว่าจดใส่มือถือก็ได้นะ
ขอให้เกิดการรับรู้ก็แล้วกัน
ว่ามันเกิดขึ้นวันละกี่ครั้ง
ทุกครั้งที่มันเกิดขึ้นนะ ไม่ต้องไปห้าม
ไม่ต้องไปเข้าข้างตัวเองว่า นี่เป็นสิ่งที่เราจะไปควบคุมมันได้อย่างไรนะครับ แต่ให้มองตามจริงเลยว่า
มันย้อนกลับมาได้คิดกี่ครั้ง แล้วทุกครั้งที่มันย้อนกลับมา เรามีสติระลึกนะว่า นี่มันกลับมาอีกแล้ว
แค่นั้นนะ
แค่ระลึกว่า
เนี่ย
เราจะติ๊กว่ามันกลับมาอีกแล้ว
ไม่ไปทำอะไรกับมันอย่างอื่น
ในที่สุดแล้วเมื่อใจยอมรับว่า มันเป็นแค่พฤติกรรมทางใจ
เป็นแค่ความเคยชินทางใจ ที่มันจะกลับไปคิดมาก ที่มันจะย้อนกลับไปไม่เลิกนะครับ มันก็จะฉลาดขี้น
จิตจะมีความรู้สึกว่า ‘เออ นี่ไม่ใช่ตัวเรา’ คุณอาจจะต้องเห็นไปสักประมาณ ๑๐ หรือ
๒๐ ครั้ง หรือ ๓๐ ครั้ง หรือบางทีเป็น ๑๐๐ ครั้ง ในช่วงเวลาวันหรือสองวัน
สาระสำคัญก็คือ
เมื่อพยายามมองให้เห็นอย่างนี้
เห็นความจริงว่า
มันย้อนกลับมาเอง!
เป็นพฤติกรรมของใจ
เป็นความเคยชินของใจที่ไม่เกี่ยวกับเรา
ไม่ใช่เราเชื้อเชิญมันมา
ใจมันจะฉลาด
และเมื่อใจฉลาด
เห็นว่านั่นเป็นแค่พฤติกรรมความเคยชินของใจ
มันถอนออกมาจากอาการนั้น
โดยที่คุณไม่ต้องพยายาม!
มันจะค่อยๆรู้สึกว่า เออ มันจะมากี่สิบกี่ร้อยก็ตาม
เราแค่รู้ เราแค่ตระหนัก ว่าสักแต่เป็นอาการของใจ ไม่ใช่ตัวเรา
ไม่ใช่เรื่องน่ากลุ้มใจของเรานะ ตัวนี้แหละ
ที่มันจะทำให้จิตค่อยๆถอนออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ
ลองดูนะ
คือถ้าฟังดูเนี่ยมันอาจจะไม่ค่อยเข้าใจ ว่าจะถอนออกมาได้ยังไง
แต่ถ้าคุณฝึกจริงๆเนี่ย เราฝึกเป็นรูปธรรมเลยนะ คือคิดครั้งนึง ติ๊ก ติ๊กไปเลย
แล้วไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น ไม่ต้องพิจารณา
ไม่ต้องไปพยายามที่จะแก้ไข หรือว่าระงับยับยั้งความคิดอะไรทั้งสิ้นนะ
แค่มีความรู้สึกขึ้นมาในแต่ละครั้งจริงๆ ว่ามันมาเองนะ ติ๊กไป ติ๊กไป ๑๐ ครั้ง ๒๐ ครั้ง
๓๐ ครั้ง หรือ ๑๐๐ ครั้ง คุณจะพบความจริงนะ ว่าใจมันฉลาดขึ้นได้
ขอให้ลองทำดู
อันนี้ไม่ใช่คำแนะนำที่จะทำให้คุณเข้าใจเดี๋ยวนี้
แต่เอาไปลองปฏิบัติเพื่อที่จะให้เกิดผลจริง
ในเวลาที่จิตมันฉลาดแล้วนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น