วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

๔.๘๗ หลักธรรมใดช่วยคลายทุกข์?

มีธรรมะบทไหนพอที่จะแก้ปัญหา ดับทุกข์ คลายร้อนได้บ้าง?

รับฟังทางยูทูบ :  youtu.be/v1IL-loaVS0


ดังตฤณ : 
ก็ประมาณอย่างนี้ก็แล้วกันนะว่า ถ้าหากเกิดความทุกข์ เกิดความร้อน ไม่ว่าจะเป็นความทุรนทุรายทางกายหรือว่าทางใจก็ตามนะ ขอให้นึกถึงพระพุทธเจ้า

นึกถึงพระพุทธคุณ หมายถึงว่าคุณลักษณะหรือว่าคุณวิเศษในพระองค์พระพุทธเจ้า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเนี่ยนะ ก็คือท่านมีความสงบระงับ คือแค่คิดนะ แค่คิดว่าพระพุทธเจ้าคือผู้ที่สงบระงับนะ เป็นผู้ที่มีนะ อันนี้เป็นสำนวนเก่านะท่านบอกว่าเป็น ‘ผู้ที่มีขนตกแล้ว’ หมายความว่าไม่มีอาการขนลุกขนชันขึ้นมาได้ ไม่มีอาการตื่นเต้น ไม่มีอาการกระวนกระวายขึ้นมาได้นะ ท่านอยู่สบายด้วยจิตที่มันไม่มีความหวั่นไหวแล้ว ด้วยจิตที่ไม่มีความสะเทือนแล้ว ด้วยจิตที่มีความสว่างโพลง ด้วยจิตที่มีความปลอดโปร่งเป็นนิรันดร์นะครับ

คือคิดถึงลักษณะของพระพุทธเจ้าที่เราท่องกันตอนสวดอิติปิโสนั่นแหละ อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธน่ะ ถ้าหากว่าทราบคำแปล แล้วระลึกถึงคุณลักษณะของพระพุทธเจ้านะอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับความสงบ ที่เกี่ยวข้องกับความเย็น หรือที่เกี่ยวข้องกับเมตตานะ

อย่างในบทพาหุงเนี่ย ก็จะมีกล่าวถึงความเย็นของพระพุทธองค์เนี่ย ที่มีปริมาณมากขณะที่สามารถยับยั้งช้างตกมันได้ ช้างนาฬาคีรีที่จะเข้ามาทำร้ายพระพุทธเจ้าเนี่ยนะ กำลังตกมันอย่างไม่สนใจว่าหน้าอินทร์หน้าพรหมไหนเนี่ย เพียงด้วยกระแสเมตตาที่ยิ่งใหญ่ของพระพุทธเจ้า ก็สามารถจะทำให้ช้างตกมันมีความสงบระงับลงได้ เพียงด้วยการระลึกแบบนี้นะครับใจมันจะเยือกเย็น ใจเราเนี่ยนะจะเยือกเย็นลงได้ทันที เพราะอะไร บางคนแปลกใจ เอ๊ะ อุปาทานหรือเปล่า มันก็ไม่เชิงว่าอุปาทาน แต่เป็นอาการปรุงแต่งอย่างหนึ่งทางใจที่ยึดเอาจิตที่มีความสงบที่สุดแล้ว มีความระงับแล้ว มีความไม่กวัดแกว่ง ไม่กระวนกระวายแล้วเป็นสรณะ นี่แหละ

บางคนนะ สวดอิติปิโสมา ท่องมาตั้งนานนะก็ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจจุดนี้ ขอให้เข้าใจไว้ก็แล้วกันว่า การที่เรายึดใครเป็นสรณะ ก็เท่ากับยึดเอาจิตของคนคนนั้น บุคคลผู้นั้นเป็นแบบอย่าง เป็นที่ตั้ง เป็นทิศทาง ถ้าหากเราเอาบุคคลที่มีความสงบที่สุดในโลกนะ อย่างพระอรหันต์ ไม่ว่าจะลำดับตั้งแต่พระพุทธเจ้าเป็นต้นมา จนกระทั่งถึงครูบาอาจารย์สมัยนี้ที่ท่านยังปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ตามรอยบาทพระศาสดาอยู่เนี่ย เราก็เท่ากับได้ความสงบได้ความเย็นจากพวกท่านมาฟรีๆไม่ต้องลงทุนลงแรง

เอาแค่ว่าจุดประกายให้เกิดความปรุงแต่งทางใจนะ ระลึกนึกถึงคุณวิเศษของพวกท่าน หรือไม่ก็ปฏิปทาแนวทางการปฏิบัติที่จะเข้าถึงความสงบของพวกท่านนะ ใจเราก็จะมีความสงบตามทันที ขอให้นึกจริงๆ ขอให้มันปรากฏอยู่ในห้วงมโนทวารของเราจริงๆเถอะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น