วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

๔.๕๐ โดนข่ม เพราะเป็นคนอ่อนน้อมจนเขานึกว่าหงอ

ถาม :  เป็นคนอ่อนน้อมให้เกียรติคน แต่กลับถูกมองว่าเป็นคนอ่อนแอ ยอมให้คนอื่นเขาเอาเปรียบ และบางคนพอเราให้เกียรติเขา เขากลับข่มเรา ทั้งๆที่ความจริงเราไม่ได้เกรงกลัว แต่เป็นเพราะอภัยเมตตาไม่ถือสาหาความใครต่างหาก จะทำอย่างไรให้เราดูไม่เป็นคนอ่อนแอในสายตาคนอื่น?

รับฟังทางยูทูป
: https://youtu.be/5cHVLvFlpjE


ดังตฤณ: 
ความเข้มแข็งกับความอ่อนแอนี่ มันแตกต่างกันที่ความรู้สึกทางใจนะ ถ้าหากว่าใจเราเป็นทุกข์อยู่ มีความรู้สึกระส่ำระสายอยู่ กระแสความอ่อนแอนี่มันจะส่งออกมา แล้วถึงแม้ว่าภายนอกจะยังดูแข็งๆ แต่ถ้าหากว่าภายในมีความรู้สึกสว่าง มีความรู้สึกนิ่ง มีความรู้สึกตั้งมั่นอยู่ อันนั้นจะส่งกระแสของความเข้มแข็งออกมา อันนี้พูดถึงหลักการก่อน อย่าเพิ่งพูดว่าผมตอบคำถามนี้แล้วหรือยัง ตรงตัวแล้วหรือเปล่านะครับ

โดยหลักการก็คือมนุษย์นี่จะสามารถรับรู้ได้ว่าภายในของอีกฝ่ายหนึ่งที่กำลังอยู่ต่อหน้านี่ มีความรู้สึกเป็นสุขหรือเป็นทุกข์ มีความอึดอัดหรือมีความสบาย ลองสังเกตตัวเองดูนะ อันนี้เป็นประสบการณ์ทางใจที่เกิดขึ้นทุกเมื่อเชื่อวันเลย บางทีเราไปหาใครที่เขาเป็นผู้นำ เราก็รู้สึกว่าเขาน่าเกรงใจ เขามีความเข้มแข็ง เขามีลักษณะของคนที่เราจะไปรังแกไม่ได้ หรือเอาง่ายๆอย่างถ้าหากว่าเราเจ็บไข้ได้ป่วยเล็กๆน้อยๆ แล้วก็ไปหาหมอ ถ้าเป็นหมอใจดี ถ้าเป็นหมอที่มีความกระตือรือร้นในการรักษาคนไข้อยู่ทั้งวันทั้งคืน มีความแข็งแรงออกมาจากความเมตตาปราณีที่อยากจะช่วยคน เราจะรู้สึกเลยว่า แค่เข้าไปในห้องตรวจก็เกิดความรู้สึกเหมือนกับว่าอาการเราดีขึ้นมานิดหนึ่งแล้ว นั่นเป็นเพราะว่าเราได้รับกระแสความรู้สึกดีๆมาจากหมอ ได้รับความรู้สึกเข้มแข็งของคนที่ไม่ยอมแพ้กับโรคภัยไข้เจ็บ มันทำให้เราเกิดความรู้สึกอยากเอาชนะโรคภัยไข้เจ็บของตัวเองโดยไม่รู้ตัว นี่เป็นการถ่ายทอดกระแสที่เห็นได้ชัดในตัวอย่างชีวิตประจำวันทั่วไปนะครับ

แต่ที่ผมยกตัวอย่างอย่างคนที่เป็นผู้นำ หรือคนที่เป็นหมอใจดีนี่ ก็จะเป็นกรณีความเข้มแข็งที่ค่อนข้างจะหาได้ยาก แต่ถ้าหากว่าเรามาพูดถึงคนทั่วๆไปที่พูดง่ายๆแหละว่าก็มีกิเลสแล้วก็มีความรู้สึกกลับไปกลับมา ระหว่างอยากให้อภัยกับอยากเอาคืนนะครับ ถือว่ามีความรู้สึกเหมือนกับว่าเราต้องชั่งใจแหละว่า จะอภัยดี ไม่อภัยดี จะพูดอย่างไรถึงจะให้ฟังดี แล้วก็เขาไม่ระคายใจด้วย และในขณะเดียวกันเราก็ไม่ถูกเข้าใจผิดด้วย มันจะยังมีความแกว่งไปแกว่งมาได้อยู่นะครับ อันนี้มองเป็นเรื่องของจิตไปก่อนนะ

ทีนี้มาเข้าคำถามนะครับว่า การที่เราเป็นคนอ่อนน้อมให้เกียรติคน แล้วถูกมองว่าอ่อนแอ ยอมให้คนอื่นเอาเปรียบ ตรงนี้ บางทีนะครับ ความอ่อนน้อมหรือให้เกียรติคนนี่ มันอาจทำให้คนบางคนที่เป็นพาลนี่มองว่าเราหงอ มองว่าเราดูเหมือนกับปกป้องตัวเองไม่ได้ เราเป็นคนอ่อนแอนะครับ ให้สังเกตลักษณะของใจในขณะที่เราอ่อนน้อมและให้เกียรติคน เราอ่อนมากเกินไปหรือเปล่า หรือว่าเรายังมีความสดใส มีความเป็นตัวของตัวเองอยู่ ถ้าหากว่าเรายังมีความสดใส มีความเข้มแข็ง ยังมีความเป็นตัวของตัวเองนะ ความอ่อนน้อมนั้นจะถูกมองว่าเป็นการให้เกียรติ แต่ถ้าหากว่าเราอ่อนน้อมแล้วใจข้างในของเราเหมือนกับยอมเขาได้ทุกอย่างนี่ กระแสความรู้สึกมันจะพลิกกลับไปเป็นอีกแบบหนึ่ง คือเขาจะรู้สึกว่าเราตัวงอเกินไป เราหงอเกินไปหน่อย แล้วก็ดูน่ารังแกซะด้วย

อันนี้เป็นธรรมชาติที่ค่อนข้างจะเป็นที่สังเกตได้ล่ะ คือมันไม่มีถูกไม่มีผิดนะ แต่เป็นที่สังเกตได้ ถ้าหากว่าใครมาทำหงอๆนี่ ธรรมชาติของคนที่ยังไม่ได้พัฒนาขึ้นเต็มที่นี่นะ จะรู้สึกว่าคนๆนี้น่ารังแก คนๆนี้น่ากลั่นแกล้ง คนๆนี่ไม่น่าเห็นใจซะด้วยซ้ำนะครับ คือมนุษย์เรานี่นะ กิเลสนี่มันเป็นอย่างนี้แหละ คือเห็นใครที่อ่อนกว่าด้อยกว่านี่ จะอยากเหยียบย่ำ เห็นเป็นบันได เพราะคนส่วนใหญ่นี่อยากมีจะมีอัตตา อยากจะมีความยิ่งใหญ่ อยากจะมีความเป็นนาย

เพราะฉะนั้นสรุปก็คือว่า เราต้องสังเกตตัวของเราเองด้วยว่า การอภัย การเมตตาไม่ถือสาหาความนี่ เป็นไปด้วยอาการที่เรายังมีความรู้สึกชัดเจนอยู่ข้างในหรือเปล่า เรายังมีสติอยู่ชัดเจนหรือเปล่านะครับ ยืนอยู่รู้ว่ายืนอยู่ไหม พูดอยู่กับเขารู้สึกถึงอาการพูดไหม หรือแม้กระทั่งการกล่าวว่าไม่เป็นไร ดิฉันไม่ถือ ด้วยอาการแบบนี้นี่ เป็นอาการของคนที่ยังมีความเป็นตัวของตัวเอง มีความตรง ยังยืดตัวได้ตรง ยืดอกได้ตรง หน้าตั้ง คอตั้ง หลังตรงอยู่หรือเปล่า ถ้าหากว่ามีความสง่างามในการให้อภัย ถ้าหากว่ามีความสง่างามในการอ่อนน้อมนะครับ เขาจะรู้สึกว่าเขากำลังได้รับเกียรติจากเราอยู่ แต่ถ้าอ่อนน้อมของเราหมายถึงการอ่อนไปทั้งตัวเลย ระทดระทวย หรือว่างอไปทั้งตัวนะครับ อันนั้นเขาจะรู้สึกว่าเรามาก้มศีรษะให้เขาด้วยอาการที่อยากจะมารับใช้เขา หรือว่าอยากจะมายอมให้เป็นบันไดให้เขาเหยียบขึ้นไปมีความรู้สึกภาคภูมิใจในตัวตนของเขา

อันนี้ขอให้สังเกตด้วยก็แล้วกัน การที่เราจะไม่เป็นคนอ่อนแอในสายตาของคนอื่นได้ จำไว้เลยว่าความรู้สึกของเราจะต้องยังเป็นตัวของตัวเองเต็มร้อย แล้วก็ไม่งอแบบหงอนะครับ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น