วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

๔.๘๒ หมอดูทัก "ชาตินี้เอาดีไม่ได้"

ถาม : ถ้ากรรมวิบากเรียกในการทำนายว่าเป็นดวง แล้วตามตำราทำนายว่าชาตินี้เอาดีทางไหนก็ไม่ได้ ขาดมิตร อาภัพครูบาอาจารย์ อย่างนี้แปลว่าไม่ต้องพยายามแสวงหามิตร ไม่ต้องขวนขวายหาครูบาอาจารย์ ไม่ต้องพยายามทำอะไรก็ได้หรือเปล่าคะ? ยังไงก็ฝืนไม่ได้เลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว ถึงจะพยายามเปลี่ยนความคิดก็ตาม แต่ยังไงวิบากก็จะพาเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกตอกย้ำว่ามันไม่มีอะไรดีขึ้นมาให้อยู่ดี สู้กับวิบากไปก็เสียแรงเสียเวลา เสียแรงกายแรงใจทำให้ท้อแท้ หดหู่ แห้งแล้ง เพิ่มให้ชีวิตไปเปล่าๆ ต้องรอให้วิบากหมดกำลังไปเองซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะนานกี่ภพกี่ชาติใช่หรือไม่?

รับฟังทางยูทูป
: https://youtu.be/IEs5rAXfwSQ


ดังตฤณ: 
พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่าเรื่องของมิจฉาทิฏฐิมันมีอยู่ข้อหนึ่งที่ไปเชื่อทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นผลมาจากกรรมเก่าบันดาล นี่พูดถึงว่าเราเชื่อแล้วนะว่าวิบากกรรมมีจริงนะ ก็หมายถึงพวกที่เหมือนกับมีศรัทธาแล้วล่ะว่าที่ต้องมาเป็นแบบนี้เพราะว่าเคยไปทำกรรมเอาไว้ในอดีตชาติมันเลยเกิดมาอาภัพหรือได้ดี ตกยากลำบากหรือว่าสบาย ไม่มีอะไรไปเปลี่ยนแปลง ไม่มีอะไรไปแก้ไขได้ พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่านั่นเป็นมิจฉาทิฏฐิประการหนึ่ง เป็นหนึ่งในหลายๆมิจฉาทิฏฐิที่มีอยู่มากมายหลายข้อเหลือเกิน

ความเข้าใจที่ถูกคืออะไร ความเข้าใจที่ถูก คือ ของเก่ามันส่งมาเป็นอย่างนี้ แล้วของใหม่เราก็เลือกเอาว่าจะตอบโต้กับมันอย่างไร เรามองเป็นพลัง พลังบีบคั้นที่ของเก่าเขาส่งมาแล้วก็มีพลังที่เราสร้างขึ้นใหม่ที่จะไปสู้กันหรือว่าจะไปสอดรับกัน ไปส่งเสริมกันกับของเก่า ถ้ามองอย่างนี้ถึงจะเรียกว่าเป็นสัมมาทิฏฐิ เป็นความเข้าใจที่ถูกต้อง เอาง่ายๆเลยนะ พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่าถ้าเชื่อว่าอะไรๆเป็นไปตามวิบากเก่าบันดาลอย่างเดียว อย่างนี้ก็แปลว่าวิบากเก่าบันดาลให้เราฆ่าสัตว์ได้ด้วยสิ บันดาลให้เราขโมยของได้ด้วยสิ บันดาลให้เราผิดประเวณีได้ด้วยสิ บันดาลให้เราคิดโกหกได้ด้วยสิ บันดาลให้เราหยิบเหล้าเข้าปากได้ด้วยสิ วิบากไม่ได้ทำได้แบบนั้น

วิบากนะ มันส่งแรงยั่วยุได้ เช่นเคยไปฆ่าใครเขาไว้หรือว่าไปเบียดเบียนใครเขาไว้ ปัจจุบันก็อาจจะเจอคนที่มาเบียดเบียนแล้วก็มีแรงบันดาลอยากให้ฆ่า พูดง่ายๆว่าของเก่ามันพยายามรักษาเส้นทางตัวเองไว้ แต่ถ้าหากว่าของใหม่เราตั้งใจที่จะรักษาศีล เราตั้งใจที่จะงดเว้นขาด ไม่เอาเลยในเรื่องของการผิดศีลผิดธรรม อย่างนี้ต่อให้โดนบีบคั้นแค่ไหนเราก็สามารถที่จะรอดตัวไม่ต้องก่อกรรมใหม่ได้ ไม่ต้องก่อบาปใหม่ได้ นี่เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสชี้แบบง่ายที่สุดให้เราเข้าใจได้ง่ายที่สุดว่า วิบากเก่ากรรมเก่าไม่ได้บังคับให้อะไรๆในชาตินี้มันเกิดขึ้นได้ทุกอย่าง มันอาจจะบีบคั้นได้ เราอาจจะหลงกลมันได้ เราอาจจะมีความยินยอมพร้อมใจตามมันได้ แต่โดยที่สุด สรุปแล้ว เรามีชะตากรรมใหม่ที่ขีดขึ้นมาได้เอง เขียนขึ้นมาได้เองว่าจะเอาอย่างไร จะให้มันเป็นไปตามแบบเดิม เข้าแผนเดิมที่วิบากเขาออกแบบไว้หรือว่าเราจะทำอะไรๆให้มันดีขึ้น

หรือสิ่งที่เราจะยกตัวอย่างได้ชัดเจนขึ้นอีกนิดหนึ่ง ถ้าเรารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญาอย่างในโจทย์ ในคำถามที่บอกว่ายังไงๆมันก็ไม่มีทางจะให้ดีขึ้นอยู่แล้ว มีแต่จิตใจหดหู่ มีแต่จิตใจที่มันไม่มีกำลังใจ ถ้าหากว่าเราโดนบีบคั้นด้วยข้อบังคับต่างๆของชีวิตของชะตากรรม แต่ละวันเจอแต่คนด่าว่า สมมุตินะ ไม่ได้หมายถึงผู้ถามนะ บอกว่า โง่เหลือเกินวะ ทำไมถึงทำแค่นี้ทำไม่ได้เนี่ยซึ่งเด็กบางคนโตมากับเสียงด่าแบบนี้ แต่ถ้าหากว่าจะเอาตามสันนิษฐานก็คือว่าเด็กคนนั้นน่าจะท้อแท้กับชีวิตแล้วก็ยอมที่จะทำอะไรตามคนอื่นเขาบงการหรือว่าไม่ยอมคิดเอง คือไปมองว่าตัวเองโง่ ไปเชื่อว่าตัวเองโง่ แล้วก็ไม่เกิดการพัฒนาใดๆขึ้นมาเลย

แต่ถ้าหากว่าถูกบีบคั้นด้วยคำด่าแล้วเด็กคนนั้นมีครูที่ดีพอจะให้คำแนะนำว่า เออ ก็ลองเอาชนะคำด่าดูสิ พยายามที่จะเปลี่ยนคำด่าให้กลายเป็นแรงผลักดัน ให้กลายเป็นตัวส่งเสริมที่จะให้เราเอาชนะแล้วก็ขวนขวาย มีมานะที่จะทำให้ชีวิตดีขึ้นฉลาดขึ้น แล้วก็มีความรู้มากกว่าคนที่เขาด่าว่าเรา สักวันหนึ่งคนที่เขาด่าว่าเราจะต้องยอมรับให้ได้ถ้าได้ครูดี ถ้าได้กำลังใจดีแล้วก็มีแก่ใจขวนขวายด้วยตนเอง ไม่ใช่ว่าได้กำลังใจอย่างเดียวนะ แต่มีความขวนขวายด้วยตัวเองว่าจะเอาชนะคำปรามาส เอาชนะคำลบหลู่ให้ได้ วันหนึ่งก็อาจจะเป็นไปตามความมานะใหม่ๆ เลือกด้วยการตัดสินใจครั้งใหม่น่ะแหละ ในชาติใหม่น่ะแหละว่าเราจะฉลาด เราจะไม่โง่ วันต่อวันเมื่อสะสมความฉลาดขึ้นไปก็จะเห็นศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงของมนุษย์

คำว่ามนุษย์ที่แตกต่างจากภพภูมิอื่นๆ ก็คือว่าเป็นสถานีเปลี่ยนแปลง สามารถที่จะเลือกไปไหนก็ได้ สมมุติมาจากทางใต้แต่จะเลือกไปทางตะวันออก ไปทางตะวันตก ไปทางเหนือ ไปทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันตกเฉียงใต้มันสามารถที่จะเลือกได้หมดเลย สถานีมนุษย์เป็นสถานีของการเลือกที่จะเปลี่ยน ไม่ใช่สถานีที่จะต้องก้มหน้าก้มตายอมรับชะตากรรมอย่างเดียว สถานีที่จะต้องก้มหน้าก้มตายอมรับชะตากรรมอย่างเดียวมีแต่สถานีนรก สถานีเดรัจฉานหรือไม่ก็สถานีเปรต อันนั้นพยายามอะไรให้มันดีขึ้นได้ด้วยตัวเองไม่ได้ต้องมีคนอื่นช่วย ช่วยมาจากมิติอื่นด้วย ช่วยในทางลึกลับลี้ลับด้วย ไม่ใช่ช่วยในทางธรรมดา มนุษย์โลกเราเป็นสุคติภูมิ เป็นที่ๆไม่ต้องก้มหน้าก้มตารับชะตากรรม จำไว้นะ ตรงนี้เป็นบทสรุปที่สำคัญของพุทธศาสนา


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น