ถาม : ถ้ากรรมวิบากเรียกในการทำนายว่าเป็นดวง
แล้วตามตำราทำนายว่าชาตินี้เอาดีทางไหนก็ไม่ได้ ขาดมิตร อาภัพครูบาอาจารย์
อย่างนี้แปลว่าไม่ต้องพยายามแสวงหามิตร ไม่ต้องขวนขวายหาครูบาอาจารย์
ไม่ต้องพยายามทำอะไรก็ได้หรือเปล่าคะ? ยังไงก็ฝืนไม่ได้เลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว
ถึงจะพยายามเปลี่ยนความคิดก็ตาม
แต่ยังไงวิบากก็จะพาเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกตอกย้ำว่ามันไม่มีอะไรดีขึ้นมาให้อยู่ดี
สู้กับวิบากไปก็เสียแรงเสียเวลา เสียแรงกายแรงใจทำให้ท้อแท้ หดหู่ แห้งแล้ง
เพิ่มให้ชีวิตไปเปล่าๆ ต้องรอให้วิบากหมดกำลังไปเองซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะนานกี่ภพกี่ชาติใช่หรือไม่?
ดังตฤณ:
พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่าเรื่องของมิจฉาทิฏฐิมันมีอยู่ข้อหนึ่งที่ไปเชื่อทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นผลมาจากกรรมเก่าบันดาล
นี่พูดถึงว่าเราเชื่อแล้วนะว่าวิบากกรรมมีจริงนะ
ก็หมายถึงพวกที่เหมือนกับมีศรัทธาแล้วล่ะว่าที่ต้องมาเป็นแบบนี้เพราะว่าเคยไปทำกรรมเอาไว้ในอดีตชาติมันเลยเกิดมาอาภัพหรือได้ดี
ตกยากลำบากหรือว่าสบาย ไม่มีอะไรไปเปลี่ยนแปลง ไม่มีอะไรไปแก้ไขได้
พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่านั่นเป็นมิจฉาทิฏฐิประการหนึ่ง
เป็นหนึ่งในหลายๆมิจฉาทิฏฐิที่มีอยู่มากมายหลายข้อเหลือเกิน
ความเข้าใจที่ถูกคืออะไร ความเข้าใจที่ถูก คือ
ของเก่ามันส่งมาเป็นอย่างนี้ แล้วของใหม่เราก็เลือกเอาว่าจะตอบโต้กับมันอย่างไร
เรามองเป็นพลัง
พลังบีบคั้นที่ของเก่าเขาส่งมาแล้วก็มีพลังที่เราสร้างขึ้นใหม่ที่จะไปสู้กันหรือว่าจะไปสอดรับกัน
ไปส่งเสริมกันกับของเก่า ถ้ามองอย่างนี้ถึงจะเรียกว่าเป็นสัมมาทิฏฐิ
เป็นความเข้าใจที่ถูกต้อง เอาง่ายๆเลยนะ
พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่าถ้าเชื่อว่าอะไรๆเป็นไปตามวิบากเก่าบันดาลอย่างเดียว
อย่างนี้ก็แปลว่าวิบากเก่าบันดาลให้เราฆ่าสัตว์ได้ด้วยสิ
บันดาลให้เราขโมยของได้ด้วยสิ บันดาลให้เราผิดประเวณีได้ด้วยสิ
บันดาลให้เราคิดโกหกได้ด้วยสิ บันดาลให้เราหยิบเหล้าเข้าปากได้ด้วยสิ
วิบากไม่ได้ทำได้แบบนั้น
วิบากนะ
มันส่งแรงยั่วยุได้
เช่นเคยไปฆ่าใครเขาไว้หรือว่าไปเบียดเบียนใครเขาไว้
ปัจจุบันก็อาจจะเจอคนที่มาเบียดเบียนแล้วก็มีแรงบันดาลอยากให้ฆ่า พูดง่ายๆว่าของเก่ามันพยายามรักษาเส้นทางตัวเองไว้ แต่ถ้าหากว่าของใหม่เราตั้งใจที่จะรักษาศีล
เราตั้งใจที่จะงดเว้นขาด ไม่เอาเลยในเรื่องของการผิดศีลผิดธรรม
อย่างนี้ต่อให้โดนบีบคั้นแค่ไหนเราก็สามารถที่จะรอดตัวไม่ต้องก่อกรรมใหม่ได้
ไม่ต้องก่อบาปใหม่ได้ นี่เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสชี้แบบง่ายที่สุดให้เราเข้าใจได้ง่ายที่สุดว่า
วิบากเก่ากรรมเก่าไม่ได้บังคับให้อะไรๆในชาตินี้มันเกิดขึ้นได้ทุกอย่าง
มันอาจจะบีบคั้นได้ เราอาจจะหลงกลมันได้ เราอาจจะมีความยินยอมพร้อมใจตามมันได้
แต่โดยที่สุด สรุปแล้ว เรามีชะตากรรมใหม่ที่ขีดขึ้นมาได้เอง
เขียนขึ้นมาได้เองว่าจะเอาอย่างไร จะให้มันเป็นไปตามแบบเดิม
เข้าแผนเดิมที่วิบากเขาออกแบบไว้หรือว่าเราจะทำอะไรๆให้มันดีขึ้น
หรือสิ่งที่เราจะยกตัวอย่างได้ชัดเจนขึ้นอีกนิดหนึ่ง
ถ้าเรารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญาอย่างในโจทย์
ในคำถามที่บอกว่ายังไงๆมันก็ไม่มีทางจะให้ดีขึ้นอยู่แล้ว มีแต่จิตใจหดหู่
มีแต่จิตใจที่มันไม่มีกำลังใจ
ถ้าหากว่าเราโดนบีบคั้นด้วยข้อบังคับต่างๆของชีวิตของชะตากรรม
แต่ละวันเจอแต่คนด่าว่า สมมุตินะ ไม่ได้หมายถึงผู้ถามนะ บอกว่า ‘โง่เหลือเกินวะ ทำไมถึงทำแค่นี้ทำไม่ได้เนี่ย’
ซึ่งเด็กบางคนโตมากับเสียงด่าแบบนี้
แต่ถ้าหากว่าจะเอาตามสันนิษฐานก็คือว่าเด็กคนนั้นน่าจะท้อแท้กับชีวิตแล้วก็ยอมที่จะทำอะไรตามคนอื่นเขาบงการหรือว่าไม่ยอมคิดเอง
คือไปมองว่าตัวเองโง่ ไปเชื่อว่าตัวเองโง่ แล้วก็ไม่เกิดการพัฒนาใดๆขึ้นมาเลย
แต่ถ้าหากว่าถูกบีบคั้นด้วยคำด่าแล้วเด็กคนนั้นมีครูที่ดีพอจะให้คำแนะนำว่า
‘เออ ก็ลองเอาชนะคำด่าดูสิ
พยายามที่จะเปลี่ยนคำด่าให้กลายเป็นแรงผลักดัน
ให้กลายเป็นตัวส่งเสริมที่จะให้เราเอาชนะแล้วก็ขวนขวาย
มีมานะที่จะทำให้ชีวิตดีขึ้นฉลาดขึ้น แล้วก็มีความรู้มากกว่าคนที่เขาด่าว่าเรา
สักวันหนึ่งคนที่เขาด่าว่าเราจะต้องยอมรับให้ได้’ ถ้าได้ครูดี
ถ้าได้กำลังใจดีแล้วก็มีแก่ใจขวนขวายด้วยตนเอง ไม่ใช่ว่าได้กำลังใจอย่างเดียวนะ
แต่มีความขวนขวายด้วยตัวเองว่าจะเอาชนะคำปรามาส เอาชนะคำลบหลู่ให้ได้
วันหนึ่งก็อาจจะเป็นไปตามความมานะใหม่ๆ เลือกด้วยการตัดสินใจครั้งใหม่น่ะแหละ
ในชาติใหม่น่ะแหละว่าเราจะฉลาด เราจะไม่โง่
วันต่อวันเมื่อสะสมความฉลาดขึ้นไปก็จะเห็นศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงของมนุษย์
คำว่ามนุษย์ที่แตกต่างจากภพภูมิอื่นๆ ก็คือว่าเป็นสถานีเปลี่ยนแปลง
สามารถที่จะเลือกไปไหนก็ได้ สมมุติมาจากทางใต้แต่จะเลือกไปทางตะวันออก
ไปทางตะวันตก ไปทางเหนือ ไปทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ตะวันตกเฉียงใต้มันสามารถที่จะเลือกได้หมดเลย สถานีมนุษย์เป็นสถานีของการเลือกที่จะเปลี่ยน
ไม่ใช่สถานีที่จะต้องก้มหน้าก้มตายอมรับชะตากรรมอย่างเดียว สถานีที่จะต้องก้มหน้าก้มตายอมรับชะตากรรมอย่างเดียวมีแต่สถานีนรก
สถานีเดรัจฉานหรือไม่ก็สถานีเปรต อันนั้นพยายามอะไรให้มันดีขึ้นได้ด้วยตัวเองไม่ได้ต้องมีคนอื่นช่วย
ช่วยมาจากมิติอื่นด้วย ช่วยในทางลึกลับลี้ลับด้วย ไม่ใช่ช่วยในทางธรรมดา
มนุษย์โลกเราเป็นสุคติภูมิ เป็นที่ๆไม่ต้องก้มหน้าก้มตารับชะตากรรม จำไว้นะ
ตรงนี้เป็นบทสรุปที่สำคัญของพุทธศาสนา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น