ดังตฤณ : อันนี้ที่เล่ามาก็เป็นผลจากของคนที่ฝึกมาตามคลิปคลื่นปัญญานะครับ ดูไปด้วยแล้วทำไปด้วย แล้วก็เอามาประยุกต์ใช้ของจริงตอนไม่ได้ดู แล้วมันเกิดนิมิตขึ้นมาแบบนี้ ข้อสังเกตของคุณถูกต้องนะครับ จริงๆแล้วตอนที่จิตเคลื่อนเนี่ย มันเกิดนิมิตได้แบบความฝันนั่นแหละ
คนเราทุกคนไม่ยักเห็นนิมิตฝันเป็นเรื่องแปลก แต่ทำไมเห็นนิมิตสมาธิเป็นเรื่องแปลกไปได้ อันนี้เนี่ยนะ คือตัวคำถามของคุณที่บอกว่า นิมิตที่เห็นในระหว่างทำสมาธิของเก๊หมดเลยใช่มั้ย อันนี้ต้องตอบเป็นกลางๆว่าไม่ใช่นะครับ
บางนิมิตเป็นของจริงนะครับ แต่ส่วนใหญ่ที่เริ่มต้นทำสมาธิ แล้วมันเห็นอะไรเลอะๆ เลือนๆ เอาแน่เอานอนไม่ได้เนี่ย บางทีมันเป็นเศษของอารมณ์ของคุณเอง ยกตัวอย่างๆ เช่น คนยุคปัจจุบันหลายคน มักโกรธ เป็นคนมักโกรธ โกรธง่ายหายช้า แล้วอารมณ์แบบแยกเขี้ยว อารมณ์มีเขางอกขึ้นมาบนหัวโง้งเป็นปลายแหลมๆอะไรแบบนั้น คุณรู้สึกได้ในระหว่างวันอยู่แล้วไม่ต้องทำสมาธินึกออกใช่มั้ย ทีนี้ถ้าสะสมไปมากๆ ไม่ว่าจะมาจาก ราคะ โทสะ หรือ โมหะ ก็ตาม ถ้ามันพอกหนาแน่นเข้า มันกลายเป็นนิมิตชนิดหนึ่ง มันเป็นมโนชนิดหนึ่งที่คุณรู้สึกว่าตัวคุณเป็นแบบนั้นอยู่
อย่างถ้าเป็นพวกสายหื่น หื่นมากๆ หน้าตาแบบว่า คือคนเห็นด้วยตาเปล่าเนี่ย รู้เลยว่าคนนี้หื่นแน่ๆ แบบนั้นคุณก็จะรู้สึกข้างในด้วยว่า หน้าตาของคุณมันอาการแบบว่า คล้ายๆคนที่หอบแฮ่กๆ น่ะนะครับ
หรืออย่างถ้าคุณเป็นคนมักโกรธ ใครเห็นรู้สึกร้อนทันที ใครเห็นแล้วคุณรู้สึกได้ว่า เขาไม่อยากมองหน้าคุณ เห็นแล้วอารมณ์เสียตามอะไรแบบนี้ คุณก็จะรู้สึกขึ้นมาเป็นพักๆอยู่แล้ว ตอนเปรี้ยงปร้างตอนระเบิดลงว่ามันมีอะไรบางอย่างที่ชัดเจนมาก ที่มันไม่เหมือนหน้าตาของมนุษย์โผล่ขึ้นมากลางใจของคุณ แล้วคนอื่นเนี่ยบางทีก็เห็นแบบนั้นไปด้วยนะ “โห! มะกี้นี้ตอนเธอโกรธเป็นพายุบุแคมเนี่ย มันเหมือนอะไรมาซ้อนเธอไม่รู้ ผีสิงรึเปล่า” ไม่ใช่หรอก มันผีโกรธน่ะ แล้วไอ้ลักษณะแบบเดียวกันเนี่ยนะ มันเป็นนิมิตที่ใจรู้ได้ว่าสะสมอารมณ์ ราคะ โทสะ โมหะ มามากๆ เข้า พอกหนาเข้าเนี่ยนะครับ เวลาที่ทำสมาธิแล้วเหมือนกับจิตมันหลุดๆ เลื่อนๆ กลายเป็นเหม่อๆ มีอะไรแบบนี้เข้ามาปะทะกับจิตให้เห็นราวกับว่าผีมาหลอกเนี่ยนะ บางทีเป็นตะกอนอารมณ์ของคุณเอง แต่อันนี้ไม่ได้บอกนะว่าไม่ใช่ผีเสมอไปนะครับ เดี๋ยวคนจะมาเถียงว่า “เฮ้ย! มันมีนะ” อันนี้รู้นะว่าของจริงน่ะมี ขอให้ทราบ
แต่ส่วนใหญ่ขอให้พิจารณาอย่างนี้นะ ถ้าหน้าตามันไม่เหมือนเดิม แล้วก็แต่ละครั้งเนี่ยมาวูบๆ วาบๆ เดี๋ยวก็หายไป ไม่มีความคงเส้นคงวา เวลาคุณจ้องไปจริงๆ ด้วยสติดีๆ มันหายแวบไปเลย นั่นน่ะส่วนใหญ่เป็นนิมิตที่เกิดขึ้นจากตะกอนอารมณ์แบบดิบๆ แบบโลกๆ แบบคนธรรมดาทั่วไปนี่เลยนะครับ ไม่ใช่อะไรที่มหัศจรรย์เหนือชั้น ไม่ใช่อะไรที่น่ากลัว
ทีนี้ถ้าเกิดนิมิตอะไรแบบนี้ขึ้นมา แล้วคุณเกิดความรู้สึกกลัวขึ้นมานะครับ เนี่ยทบทวนอย่างที่ผมว่านี่แหละ มองหน้าปีศาจตนนั้นให้มันชัดๆ ว่าหน้ามันเหมือนอะไรที่คุ้นๆรึเปล่าที่เราเคยเห็นระหว่างวันรึเปล่า ตอนที่เราเกิดอารมณ์เปรี้ยงปร้างขึ้นมา ระเบิดลงขึ้นมา ถ้ามันคลับคล้ายคลับคลานะ สันนิษฐานว่า นั่นแหละ!ตัวคุณเอง (คุณดังตฤณยิ้ม)
มันไม่ใช่ภูตผีปีศาจภายนอกที่ไหนมาหลอกหลอน แต่เป็นโอกาสดีด้วยซ้ำที่คุณจะเห็นมันชัดๆ เมื่อคุณเห็นแล้ว และมีสติดีพอที่จะโยงถูกว่านั่นคือตะกอนอารมณ์โกรธ อารมณ์หลงของคุณเอง มันจะกลายเป็นเครื่องหมายให้ไปมีสติรู้ตัวระหว่างวันว่า ตอนที่มันเกิดอารมณ์แบบนั้นขึ้นมา แล้วมีนิมิตคล้ายๆแบบนั้น บรรยากาศของจิตที่มาคุแบบนั้นๆนะ มีความเข้มข้น มีความมืดมนแบบนั้นๆ เนี่ย คุณจะเกิดความรู้แล้วว่า อ๋อคำว่าปีศาจ ภพภูมิของเปรต ภพภูมิของสัตว์นรก มันเกิดขึ้นจากกรรม เนี่ยมันเป็นปฐมบท มันเป็นการเริ่มนิมิตหมายที่ดีเลยนะ ที่คุณจะเข้าใจเรื่องกรรมอย่างถ่องแท้
กรรมเนี่ย! ไม่ใช่แค่ทำอะไรอย่างเดียว มันทำไปด้วยอารมณ์แบบไหนด้วย อารมณ์แบบไหนในขณะทำกรรม นั่นแหละที่มันจะเป็นนิมิตหมาย ถ้าคุณขาดใจตายไป ณ ขณะนั้น คุณก็ไปเป็นแบบนั้นนั่นแหละ เนี่ยการเห็นอย่างนี้นะ มันจะทำให้เกิดความเข้าใจกระจ่างชัดขึ้นเรื่อยๆ นิมิตเห็นผี เห็นอะไรต่างๆ มันจะกลายเป็นนิมิตเห็นกรรม
ทั้งหลายทั้งปวงเนี่ยนะครับ มันก็กรรมของเราทั้งนั้น ไอ้ที่มันปรุงแต่งขึ้นมาเป็นภูติผีปีศาจ หรือเป็นเทวดา อันนี้พูดกันเรื่องของจริงเลยนะครับ คือก่อนตายเนี่ย คนเรานะครับ มันจะรวบรวมอารมณ์ ด้วยการที่ปรุงแต่งเอานิมิตที่เคยได้ทำกรรมมาทั้งชีวิตขึ้นมาปุ๊บปั๊บ ปุ๊บปั๊บ ราวกับไฟฟ้าที่มันแลบอย่างรวดเร็ว เห็นว่าเคยทำโน่นทำนี่มา เสร็จแล้วนิมิตเหล่านั้นโดยรวมนั่นแหละ มันจะเป็นผลสรุปว่า คู่ควรกับนิมิตของคติใหม่ คติข้างหน้า เป็นอะไรที่สดสวยงดงาม หรือว่าเป็นอะไรที่หม่นหมองน่ากลัว อันนี้ตรงนี้แทนที่จะกลัวตอนเห็นนิมิต ขอให้โยงเข้ากับความเป็นตัวของคุณ แล้วคุณจะเข้าใจตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆนะครับ ผ่านนิมิตที่เห็นนั่นแหละ!-----------------------------------------------------
๒๙
สิงหาคม ๒๕๖๓
รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน
ตอน ทำสมาธิไม่เห็นนิมิตได้ไหม?
คำถาม : กลัวที่จะเห็นนิมิตเพราะกลัวผี
ตอนมีนิมิตแปลกๆ มักจะเป็นตอนที่จิตกำลังฟุ้งๆ ลมหายใจหายไปจากความรู้สึกตัว
แต่พอรู้สึกตัวก็รีบกลับมารู้สึกที่ลมหายใจตัวเอง (ทำตามแบบคลื่นปัญญาทุกอย่าง)
วิธีนี้ช่วยเรื่องความกลัวได้ดีมาก และช่วยประคองสติได้เย็นพอที่จะรอดูความไม่เที่ยงของความกลัวได้
ถ้าอย่างนั้นแสดงว่านิมิตแปลกๆ ตอนจิตฟุ้งๆ ลอยๆ ที่ผุดขึ้นให้เรารู้สึกกลัว
ไม่ใช่ของจริงทั้งหมดเลยใช่มั้ยคะ?
แม้ว่าเราจะรู้สึกเหมือนจริงก็ตาม
ระยะเวลาคลิป ๘.๐๒ นาที
รับชมทางยูทูบ https://www.youtube.com/watch?v=0_fwsAo51Ww&list=PLmDLNhxScsWPHpIdf0LAQiQM1j9ZebEMx&index=1
ผู้ถอดคำ แพร์รีส แพร์รีส
** IG **
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น