ดังตฤณ : อันนี้ก็พูดถึงบ่อยนะครับ มันเป็นภวังค์สมาธิ
(ทวนคำถาม) เวลาที่นั่งถึงจุดสงบจะมีอาการเหมือนตกจากที่สูง หรือไม่ก็เอนไปข้างหน้าข้างใดข้างหนึ่ง จะแก้อย่างไร?
อย่าไปพยายามแก้นะครับ ให้สังเกตอย่างนี้ ภวังค์มี ๒ แบบ ภวังค์หลับ กับ ภวังค์สมาธิ
ภวังค์หลับ คือ รู้สึกวูบแล้วหายไปเลย แล้วก็หลับไปเลย ฝันฟุ้งซ่านเพ้อเจ้ออะไรไป แต่ถ้าเป็น ภวังค์สมาธิ มันจะเหมือนกับเราพยายามนั่ง พยายามทรงจิต พยายามดู พยายามรู้อะไรอยู่ เสร็จแล้วจิตมันวูบหายไป เหมือนวูบตกจากที่สูงแบบนี้แหละ ก็คือจิตมันเกือบจะรวมลง
เวลาที่จิตรวม มันจะเปลี่ยนจากโหมดความคิดเป็นโหมดรู้ ที่มีฐานอยู่ตรงกลาง ออกมาจากตรงกลาง ไม่ใช่อยู่ตรงหัวใจนะครับ แต่ออกมาจากตรงกลาง กลางอก
ถ้าฐานยังกระเพื่อมเวลาที่ตกลงมา ดิ่งลงมามันจะเหมือนกับวูบวาบโคลงเคลงเอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่ถ้าเริ่มมีสติเข้มแข็งแล้ว มันจะวูบลงมา แล้วก็พลิกหงายกลับขึ้นมาใหม่ เปลี่ยนจากสภาพวูบเป็นสภาพหงายขึ้น เบิกบาน เป็นสมาธิ นี่ตรงนี้ความต่างของภวังค์หลับกับภวังค์สมาธิ
ภวังค์หลับ คือ หายไปเลย
ภวังค์สมาธิ คือ วูบลงไปแล้วหงายตื่นขึ้นมา
เข้าโหมดอีกแบบหนึ่ง เป็นโหมดรู้ เป็นโหมดตื่น เป็นโหมดสมาธิ เป็นโหมดนิ่ง
เป็นโหมดสงบจากความคิด หรืออย่างน้อยที่สุดความคิดเหลือเพียงเบาบางไม่รบกวน
ไม่ทำให้เกิดความรู้สึกว่า เราเป็นผู้คิด ความคิดเป็นเรา
พอทำความเข้าใจอย่างนี้ คุณจะมองเห็นช่องทาง ไม่ใช่ไปพยายามให้จิตไม่ตกวูบ เพราะนั่นเป็นธรรมชาติ มันเป็นธรรมดา ตอนที่จิตจะเปลี่ยนโหมดจากคิดฟุ้งซ่าน เป็นรู้ตื่นเป็นสมาธิ มันต้องมีอาการวูบ มันต้องมีความเป็นภวังค์เป็นธรรมดา
คนที่ทำสมาธิเก่งๆ ก็อาจจะวูบนิดเดียว เหมือนตกหลุมอากาศ เสร็จแล้วก็กลับขึ้นมาบินนิ่งเป็นปกติใหม่ แต่ถ้าหากว่าเรายังไม่มีกำลังสติ ยังไม่กำลังสมาธิมากพอ มันก็เหมือนกับวูบ แล้วก็โคลงเคลงโยกเยกหายไป หรือว่ากลับพลิกหงายขึ้นมาเป็นสมาธิจริง แต่ว่าไม่เสถียร มีอาการปนๆ ระหว่างนิ่ง นิ่งแบบแช่นิ่งเป็นฟรีซ(freeze)สลับกับนิ่งแบบรู้แบบตื่นอะไรแบบนั้นนะครับ
สิ่งที่คุณจะทำได้คือ มีสติสังเกตว่า สภาพของจิตตัวเองมาถึงไหน ถ้าหากว่ามันวูบแล้วหายไปเลยก็ไม่ต้องเสียใจ อันนั้นก็คือรู้ตัวเอง รู้ว่าเป็นสภาวะมีเหตุปัจจัยหนุนให้เกิดสมาธิเพียงชั่วขณะ แล้วก็วูบหายไป กลายเป็นอาการหลับ หรือพอวูบแล้วก็หงายขึ้นมาเป็นจิตอีกแบบหนึ่ง เบิกบานเป็นสมาธิ ก็รู้ว่าตอนนี้มีกำลัง มากกว่าตอนที่วูบแล้วหลับหายไปนะครับ
การที่มีสติเห็นความจริงแล้วไม่ไปมัวพะวงกังวลว่าจะทำอย่างไรให้ดีขึ้น สติตัวนั้นแหละที่มันจะพัฒนา มันจะปรับปรุงจิตให้มีคุณภาพดีขึ้นเอง ให้มีความสว่าง ให้มีความตั้งมั่น ให้มีกำลังมากขึ้นทีละนิด ทีละนิด
สติ สำคัญกว่าความนิ่ง จำไว้นะครับ นี่คือสิ่งที่เป็นคีย์ในการภาวนาจริงๆ
คนส่วนใหญ่หลงเข้าใจผิดว่า ความนิ่งความทรงคือดี คือได้คะแนน แต่แท้ที่จริงแล้ว นิ่งมันมีนิ่งหลายแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้านิ่งแบบไม่มีสติ มันเหมือนกับเกิดอาการฟรีซ (freeze) ไปเฉยๆ เหมือนคอมพิวเตอร์ที่หยุดทำงาน มันค้างไปเฉยๆ แล้วมีโปรแกรมที่ทำให้นึกว่าดีให้ค้างไปนาน ๆ จริงๆ ไม่ใช่นะครับ
อาการฟรีซ (freeze) อาการแช่แข็ง อาการแช่นิ่งไป โดยที่ไม่ตื่น ไม่มีอาการรู้ ไม่มีอาการที่มันเบา ที่มันพร้อมจะเป็นสติอย่างใหญ่เนี่ยนะครับ มันไม่มีประโยชน์ มันไม่ต่างจากตอนที่คุณหลับแล้วไม่รู้เนื้อรู้ตัว หลับแล้วนึกว่าไม่ฝันอะไรแบบนี้ ไม่ต่างกันเลย ไม่ใช่ภาวะวิเศษอะไรเลย
สิ่งที่พิเศษ สิ่งที่ดีก็คือ คุณมีสติ เนี่ยเริ่มฝึกตั้งแต่เห็นอย่างนี้เลย มีอาการวูบ ก็รู้ว่ามีอาการวูบ ไม่ต้องไปเสียใจ มีอาการตื่นขึ้นมาแล้วทรงตัว ก็ไม่ต้องดีใจ เห็นแค่เป็นเหตุปัจจัยทางรูปทางนามว่า เออ ตอนนี้เรามีกำลังนะ จิตมันมีกำลัง ไม่ใช่เรามีกำลัง จิตมันมีกำลังนะ เมื่อมันมีเหตุปัจจัยของการทรงอยู่ได้ มันก็ทรงอยู่ หงายขึ้นมาแล้วตื่น เบิกบาน มีความสว่าง
แต่ถ้าหากว่าไม่มีปัจจัยไม่มีกำลัง มันก็วูบ แล้วก็ดิ่ง แล้วก็หายไป กลายเป็นหลับ เนี่ยเห็นอย่างนี้ มีสติรู้อยู่อย่างนี้ โดยไม่มีความเสียใจ ไม่มีความดีใจ มีแต่ความเป็นอุเบกขา รู้แต่ว่าเห็นอย่างนั้น เห็นอย่างไร เห็นตามจริง ตามจริงเป็นอย่างไร เห็นตามไปอย่างนั้น นี่ตัวนี้แหละในที่สุดแล้วนะ พอจิตของเรามีกำลัง แล้วรวมเป็นสมาธิขึ้นมาจริงๆ มันก็จะเอาความเคยชินที่จะเห็นแบบนี้แหละติดตามเป็นเงาตามตัวไปด้วยนะครับ
ไม่ว่าจะเกิดภาวะเลิศเลอ หรือดูดีแค่ไหน ก็ไม่ติดใจ ไม่ยินดี เห็นเป็นแค่เป็นปัจจัยทางด้านกุศล แต่ถ้าหากว่า จิตมันแย่ลงเสื่อมลงก็ไม่เสียใจ เห็นเป็นเหตุปัจจัยด้านของความเสื่อม ความเสื่อมลง
บางทีเนี่ย
จิตเป็นอกุศลโดยที่เราไม่ต้องคิดเลว ไม่ต้องคิดอะไรชั่วช้า แต่มันเสื่อมลงเอง
นี่เราก็จะได้เห็นสภาพความเป็นกุศลธรรม มันพลิกกลับเปลี่ยนมาเป็นอกุศลธรรมได้เป็นธรรมดา
สภาพเสื่อมมันเปลี่ยนไปเจริญขึ้นได้เป็นธรรมดา ดูจากจิต ดูจากใจ
ดูจากสภาพภาวะที่มันปรากฏให้เห็นในขณะที่เราภาวนา หรือว่าเรานั่งสมาธินี่แหละ
มันจะชัดเจนที่สุดนะครับ
-------------------------------------
๒๖
กันยายน ๒๕๖๓
รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน
ตอน แก้โรคนอนไม่หลับด้วยกระดูกข้อมือ?
คำถาม : เวลานั่งสมาธิถึงจุดที่เริ่มสงบ จะมีอาการ เหมือนตกจากที่สูง ไม่ก็ตัวเอนไปข้างใดข้างหนึ่ง แก้ไขอย่างไร?
ระยะเวลาคลิป ๗.๓๒ นาที
รับชมทางยูทูบ https://www.youtube.com/watch?v=vSA2_w_5mJ4&list=PLmDLNhxScsWPHpIdf0LAQiQM1j9ZebEMx&index=6
ผู้ถอดคำ แพร์รีส แพร์รีส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น