ดังตฤณ : ก็เข้าใจนะครับ
ผมเองก็เคยเป็นหนี้ แล้วก็เข้าใจอาการทุรนทุรายตรงนั้นว่า การเป็นหนี้ นี่ไม่ดีเลย
เป็นทุกข์ในโลกจริงๆ หนี้สินเป็นทุกข์ในโลกจริงๆ และถ้ายืมใครเขามาแล้ว ถึงแม้ว่าจะพยายามๆ
อย่างไรก็แล้วแต่ ถ้าหากว่ายังคืนเขาไม่ได้ ก็ต้องเป็นทุกข์ อันนี้เป็นธรรมดา เป็นธรรมชาตินะครับ
ทางออกให้หมดทุกข์ บางที
เราไม่ได้คำตอบจากธรรมะหรอก บางทีเราได้คำตอบจากคนที่เขาหาเงินเก่ง ในแบบที่ถูกต้องด้วยนะ ไม่ใช่หาเงินเก่งในแบบที่ไปหลอกลวงคนอื่นมา
อย่างตอนนี้ก็มีอีกแล้ว
เรื่องแชร์หรืออะไร มีมาได้ทุกยุคทุกสมัยจริงๆ เวลาคนหาทางออกไม่ได้ อยากรวยแบบเร็วๆ
ก็ไปหลอกลวงคนอื่นเขา แล้วคนอื่นก็ยอมให้หลอกอยู่นั่นแหละนะ จะมีตัวอย่าง มีประวัติในการถูกหลอกมากี่ครั้งกี่หนก็ตาม
ไม่เคยบันทึกไว้ให้คนรุ่นหลังให้เรียนรู้สักเท่าไหร่ มันอยู่ในหน้าข่าว แต่ไม่ได้อยู่ในใจคนแบบรุ่นต่อรุ่น
สำหรับกรณีนี้ก็ดีแล้ว
อย่างน้อยเราบอกตัวเองว่า เราไม่ตั้งใจจะเป็นเหมือนคนพวกนั้น ไม่ได้ตั้งใจจะหาทางลัด
จากการทำนาบนหลังคน หรือว่าการหลอกลวงฉ้อฉลให้ใครเขามาจ่ายเงินให้ตัวเองโดยมิชอบ
พอเรามีความรู้สึกว่า
อย่างน้อยที่สุดเรา เป็นทุกข์จากการพยายามหาเงินใช้หนี้เขา แล้วใช้คืนเขาไม่ได้ทันที
ดีกว่าที่จะเป็นทุกข์อันเกิดจากการรู้สึกว่า ตนเองเป็นพวกกลายพันธุ์นะ จากคนดีกลายเป็น
18 มงกุฎ หรือว่ากลายเป็นพวกที่หลอกลวง หากินด้วยการทำให้คนอื่นเขาหมดเนื้อหมดตัวอะไรแบบนี้
อย่างน้อยเราเบาใจขึ้นมาแล้วว่า
เราไม่เอาแบบนั้นแน่ และชีวิตที่เหลือ ต่อให้เราลำบากสาหัสยังไง เราก็จะไม่ยอมแลกด้วยความลำบากสาหัสของอื่น
พอตั้งจิตไว้อย่างนี้จะอยู่ในทิศทางที่ อย่างน้อยก็ไม่หลงลงเหวแล้ว
จากนั้นก็ต้องเปิดใจนะครับ
คิดแบบที่นักธุรกิจเขาจะคิดกัน ก็คือว่า ถ้าเราทำแบบเดิม แล้วก็ยังไม่มีเงินเหมือนเดิม
เราต้องทำแบบอื่น คิดแบบอื่น กล้าทำอะไรบางอย่าง ... อย่ามีแค่ข้ออ้างกับตัวเองว่า
เราไม่ถนัดที่จะทำอย่างอื่น
จริงๆ ความถนัดเริ่มต้นขึ้นจาก
การตัดสินใจที่จะลงไปเล่น ลงไปลงมือ ลงไปอยู่กับมันจริงๆนะครับ แล้วถ้าทางนี้ไม่ได้
ยังมีอีกร้อยทางที่เป็นไปได้ ที่มนุษย์คนหนึ่ง หนึ่งหัว สองมือจะสามารถทำได้นะครับ
อย่าเชื่อ อย่าไปแปะติดไว้กับความรู้สึกว่า
ฉันไม่สามารถทำอย่างอื่นได้ ฉันไม่ถนัดอย่างอื่น นี้คือวิธีคิดแบบพุทธจริงๆ แบบที่ไม่หวังให้เกิดอะไรแบบลัดๆมา
หล่นมาจากฟ้าลอยมาจากสวรรค์อะไรแบบนี้
ขอให้กำลังใจนะครับ แล้วก็เชื่อเถอะว่า
ผมเข้าใจครับว่า รู้สึกไม่ดียังไง หรือเป็นทุกข์ขนาดไหน กับการต้องเป็นหนี้เป็นสินแล้วไม่มีทางที่จะชดใช้ได้หมด
แต่อย่างน้อย ถ้าเรายังมีความพยายาม
คุณไม่ต้องกลัวนะ เราไม่ได้ติดกรรมข้อที่เป็นนักชักดาบ ไม่ได้ติดกรรมข้อที่เป็นนักยืมเงินแล้วไม่ใช้คืน
ไม่ได้ติดกรรมข้อที่จะเป็นพวก 18 มงกุฎ เราสบายใจข้อนี้ได้นะครับ!
____________
ผู้ถอดคำ นางสาวณัฐภัคค์สุดา
อนันตเมตตากุล
วันที่ไลฟ์ ๒ พ.ย. ๒๕๖๒
ชื่อเรื่อง ตอนลำบากมีคนเมตตาช่วยเหลือ ตั้งแต่เขาให้ยืมเงินมาตั้งใจจะคืนและทุกวันนี้ก็อยากคืน
อยากขายที่ดินที่ตัวเองมีแต่ขายไม่ได้ ทุกข์ใจมากอยากหาทางออกเพื่อให้หมดทุกข์?
ระยะเวลาคลิป ๔.๕๓ นาที
รับชมทางยูทูป https://www.youtube.com/watch?v=4jzbyy5oQjk
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น