ดังตฤณ : ตัวคำถามที่เป็นคำพูดเนี่ย
บางทีเราตัดสินไม่ได้ มันต้องดูกันจริงๆ อย่างที่ผมยกเมื่อกี้นี้ พูดซ้ำหลายรอบนะ
คุณไม่ใช่ไปดูตัวหลังๆ เป็นตัวตั้งนะ ตัวตั้งจริงๆต้องให้ดูที่สติว่า เรามีสติอยู่กับปัจจุบันขณะหรือเปล่า
คำว่าปัจจุบันขณะคือ ภาวะใดภาวะหนึ่งของกายหรือของใจนะครับ
คนเนี่ยบอกว่า อย่าไปคิดมากเอาแค่มีสติก็พอ ทีนี้สติเนี่ย สติแบบไหน สติตั้งอย่างไร ถ้าไม่รู้ ไม่ได้ประกอบอยู่ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง รับรองว่าตั้งกันไม่ถูกหรอก
ถ้าตั้งกันถูกเนี่ย ไม่ต้องรอพระพุทธเจ้ามาอุบัติ ไม่ต้องรอพระพุทธเจ้ามาเปิดเผย
ไม่ต้องรอพระพุทธเจ้ามาบัญญัติพระสัทธรรมสั่งสอนไว้
เราต้องเอาตัวสำคัญเลยนะครับ มีสติ มีสติอยู่กับภาวะตรงหน้า ภาวะอันเป็นปัจจุบัน แล้วค่อยมาพิจารณาว่า
ภาวะตรงหน้าเนี่ยมันเที่ยงหรือไม่เที่ยง แล้วถ้าเราทำได้เรื่อยๆ อันนั้นแหละ ถึงจะเรียกว่าวิริยะ ไอ้ที่มันจดจ้อง
ที่มันอะไร เพราะว่ามันไม่มีสติ มันไม่มีมีการพิจารณาธรรมที่พอดี มันก็เลยมีความอยากนำขึ้นมา หรือมีความหลงเป็นตัวหัวหมู่ทะลวงฟัน
ถ้ามีความหลงว่า เราจะปฏิบัติธรรม เสร็จแล้วก็เพ่งๆจ้องๆ แบบไม่มีสติเนี่ย
ตรงนั้นนี่หลายปีก็วนอยู่ตรงนั้นแหละเท่าที่เห็นมานะ
คือบางทีเราฟังธรรมจากครูบาอาจารย์ ท่านมีธรรมะจริง แล้วเราก็เหมือนกับไปปล้นทรัพย์ของท่านมา เอามาเป็นของตัวเอง
แล้วนึกว่าเป็นของเราแล้ว แต่จริงๆ ความสว่างของท่าน ความชื่นบานของท่าน
ความเบิกบานของท่าน มาประดิษฐานในใจเราได้แค่แป๊บเดียว แล้วแป๊บนึง มันก็ต้องคืนกลับสู่ความว่างไป คืนให้ท่านไป
แต่ถ้าเราจะเจริญสติในแบบที่พระพุทธเจ้าสอน ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจจริงๆว่า พระพุทธเจ้าให้ดูอะไร ดูยังไง แล้วพอปลงใจแล้วว่า เราจะดูให้ถูกตามที่พระพุทธเจ้าสอน ตัวเนี้ยสติมันถึงมีสิทธิ์ที่จะค่อยๆ ก่อร่างสร้างตัวขึ้นมา
แล้ววิริยะถึงจะพอดีขึ้นมาเอง พอดีหลังจากมีสติ
ไม่ใช่พอดีหลังจากที่เรามาพยายามตบ พยายามปรุงแต่ง พยายามทำยังไงให้มันเข้าลู่กลางพอดี แบบนั้นเนี่ยมันเป็นการพยายามที่จะหยุดอาการเพ่ง ด้วยอาการเพ่งเพิ่มนะครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------
ผู้ถอดคำ ครอบครัว กิติวิริยกุล
วันที่ไลฟ์ ๑๖ พ.ย. ๒๕๖๒ (รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน)
ชื่อเรื่อง อย่างไรจึงเรียกว่าเป็นวิริยะแบบพอดีๆ โดยไม่จดจ้อง ทะยานอยาก
แค่"ทำเรื่อยไป" ไม่ว่าจะผ่องหรือหมองพอไหมคะ?
แค่"ทำเรื่อยไป" ไม่ว่าจะผ่องหรือหมองพอไหมคะ?
ระยะเวลาคลิป ๓.๒๖
นาที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น