ดังตฤณ : คืออย่าไปคิดเป็นเหตุเป็นผลนะครับ
ถ้านึกเป็นภาพที่ไม่เกิดขึ้นจริงเนี่ย บางทีมันเหมือนกับหลงเข้ารกเข้าพงแห่งความฟุ้งซ่าน ป่าของความฟุ้งซ่าน มันเป็นป่าที่เข้าง่ายแต่ออกยาก
เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน
เพื่อที่จะให้แน่ใจว่า เรากำลังยอมรับตามจริง ลองฝึกแบบที่พระพุทธเจ้าท่านแนะนำไว้ดูไหมว่า
กำลังหายใจเข้า หรือหายใจออกอยู่ แล้วลมหายใจนี้เนี่ย มันยาวสบาย
หรือว่าสั้นกระชาก
ถ้าเราสามารถยอมรับความจริงได้
เห็นความจริงตรงนี้ได้บ่อยๆ
จิตมันจะมีความสามารถรู้สิ่งที่กำลังเป็นจริงในปัจจุบันเช่นกัน
ไม่ว่าสิ่งนั้นมันจะกำลังปรากฏอยู่ภายในหรือว่าภายนอก
เพราะโลกทั้งใบนี้นะครับ ที่มันจะมาปะทะ แล้วก็มากระทบเรา ให้เกิดสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้
มันไม่เกินลมหายใจหรอก อย่างเช่น ถ้าเราผิดหวังจากเรื่องที่คาดหวังมาแรมปี
หรือว่าตั้งอกตั้งใจเอาผลมาหลายเดือน
แล้วมันพลาดไป คนปกติทั่วไปมันจะยอมรับไม่ได้ใช่ไหม แต่ทีนี้ถ้าหากว่าฝึกรู้ลมหายใจมาจนเกิดความชำนาญ มันก็จะทราบได้ว่า ณ ขณะที่ผิดหวัง ความผิดหวังวิ่งเข้ามากระทบ โอ้โหเจ็บ เสร็จแล้วนึกได้ ณ ลมหายใจนี้ มันเกิดความเจ็บปวดอยู่
เป็นลมหายใจแห่งความเจ็บปวด
เสร็จแล้วลมหายใจแห่งความเจ็บปวดเนี่ย สอง สามทีมันกลายเป็นลมหายใจแห่งการรู้สึกสบายอกขึ้น
เนี่ยโลกทั้งใบนะ
เหตุการณ์อะไรก็ตาม
ใครผู้ไหนก็ตาม จะมาตัดมือตัดเท้าเราอยู่ก็ตาม
ทำได้ที่สุดกับใจของเรา ก็แค่ดูที่ลมหายใจนั่นแหละว่า กำลังเข้า หรือว่าออก กำลังยาว หรือว่าสั้น
ถ้ายาวอยู่แปลว่าเหตุการณ์นั้นๆ บุคคลนั้นๆ ทำให้เรามีความสุข ถ้าสั้นแปลว่าเหตุการณ์นั้นๆ บุคคลนั้นๆ ทำให้เรามีความทุกข์ มันมีอยู่แค่นี้
-------------------------------------------------------------------------------------------------
ผู้ถอดคำ ครอบครัว กิติวิริยกุล
วันที่ไลฟ์ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ (รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน)
คำถาม การยอมรับของจิตคือคิดเอา หรือจิตเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นคะ และไม่มีการปรุงแต่ง
แบบไหนถูก ?
ระยะเวลาคลิป ๓.๓๐ นาที
รับชมทางยูทูป https://www.youtube.com/watch?v=WWyyrPBuJwk&feature=youtu.be
*** IG ***
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น