วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

๔.๓๒ วิบากกรรมที่ทำให้ถูกใส่ร้ายนินทา


ถาม : หนูเข้าเฟสบุ๊ค แล้วเคยเห็นมีเพื่อนในห้องกำลังด่าหนูอยู่ในกลุ่ม สงสัยจะเข้าห้องแชตอะไรสักอย่าง เวลาเขาเจอหนู หนูคุยด้วยก็ไม่คุย ไม่มอง บางคนก็แกล้งทำดีกับหนูต่อหน้า หนูรู้ว่าเขาเกลียดหนู หนูเลยไม่ค่อยคุย หรือไปยุ่งกับเขาบางครั้งหนูรู้ว่า ควรจะทำดีกับพวกเขา แล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่จิตมันรังเกียจมากเลยค่ะ เวลาพวกเขามาทำดีด้วย พวกเขาชอบกินเหล้า ไปเที่ยวกันเป็นกลุ่ม ใครไม่ไปก็ว่า นินทาคน ด่าคนเป็นประจำ หนูเป็นคนไม่สังสรรค์ หนูควรจะสนิทกับพวกเขาอย่างเดิมหรือเปล่า? แล้วอยากรู้ว่ากรรมของคนพูดคำหยาบ ชอบนินทาคนอื่นเป็นประจำ จะมีผลร้ายแรงอย่างไร?

รับฟังทางยูทูบ :  youtu.be/DyJ60hfu6TQ

ดังตฤณ: 
การตั้งกลุ่มนินทามันเป็นเรื่องปกติของชาวโลกนะ แล้วก็นั่นแหละที่เราเห็นผลเป็นปกติเช่นกันนะ คนส่วนใหญ่มักจะโดนนินทาลับหลัง คนส่วนใหญ่มักถูกเข้าใจผิด มันจะมีเป็นช่วงๆ หลายคนเลยชอบบ่นว่า เอ๊ะ ไม่รู้ช่วงนี้เป็นยังไงอะไรน้า พูดอะไรไปคนเข้าใจผิดตลอด หรือไม่ก็หนักกว่านั้น ช่วงนี้มีแต่คนใส่ไคล้ คือเราไปรับรู้ว่า สังคมเขาพากันกระหน่ำ พากันโจมตี อันนี้ก็เป็นผลที่ได้มาจากการเคยตั้งโต๊ะนินทาชาวบ้าน

มันทั้งนั้นน่ะ คือทุกคนมีอารมณ์สนุกที่จะพูดพาดพิงถึงคนอื่น และพูดพาดพิงไม่พอนะ จะมีการตีไข่ใส่สี เพื่อความสนุก เพื่อความสะใจ มันเรียกว่า เป็นเหมือนกับธรรมชาตินิสัยของมนุษย์เลยก็ได้ ปกติเนี่ยเวลาเจอหน้ากันกับใครก็มักไม่รู้จะพูดอะไร ไม่รู้จะคุยเรื่องอะไร ไม่รู้จะพูดอะไร ก็เอาคนที่รู้จัก ต่างฝ่ายต่างรู้จักมาพูดถึง สังเกตมั้ย เวลามาถามไถ่อะไรถึงสิ่งที่จะยกมาเป็นหัวข้อสนทนากันได้ ก็มักจะพูดถึงคนรู้จัก คุณรู้จักคนนั้นมั้ย คุณเคยเห็นคนนี้มั้ย มันเป็นเหมือนเป็นเรื่องที่มันจะเหมือนกับเป็นตัวกระชับมิตร ไอ้เรื่องของคนอื่น หน้าตาของคนอื่น เรื่องราวของคนอื่น มันเป็นเรื่องไกลตัว ที่เอามาพูดกันสนุกปากได้ โดยที่ไม่ต้องกระทบกระทั่งกัน

เสร็จแล้วพอตอนแรกๆเนี่ย คนที่ไม่ค่อยสนิทกันเนี่ยนะ เวลาพูดถึงคนอื่นก็มักจะพูดเรื่องดีๆ พอสนิทกันขึ้นมานิดนึง ก็จะเอาเรื่องที่มันเป็นความลับ หรือว่าเรื่องที่ดูว่า เออ นี่อินไซด์เดอร์เท่านั้นถึงจะรู้อะไรแบบนี้มา แล้วถ้าสนิทกันที่สุดเลย ก็คือจะขุดคุ้ยเอาไอ้เรื่องที่ แหม อยากจะระบาย แหม อยากจะด่ามันขึ้นมา เป็นประเด็นหยิบยกขึ้นมา อันนี้เป็นธรรมชาติของมนุษย์

ทีนี้ระดับการนินทาว่าร้าย ตัวนี้แหละจะเป็นตัวกำหนดกรรม ถ้าพูดพาดพิงเฉยๆ หรือว่ากล่าวถึงในทางที่ยกย่อง กล่าวถึงในทางที่ดี เรียกว่าสรรเสริญผู้ควรสรรเสริญเนี่ยนะ กรรมแบบนั้นจะทำให้มีคนพูดถึงในทางที่ดี หรือว่าเข้าใจไปในทางดีๆนะ ณ ที่ที่กรรมเผล็ดผล ต่อให้เป็นคนไม่ค่อยจะมีพฤติกรรมที่ดีเท่าไหร่ พูดง่ายๆว่าเน่าใน แต่ว่าข้างนอกดูดีเนี่ยนะ คนก็จะพูดถึงแต่ในทางที่ดี มีอันนี้ที่ผมรู้จักเลย รู้จักตัวเป็นๆเลยนะว่า ผลของการที่เขาเคยกล่าวสรรเสริญผู้อื่นไว้มากในอดีต และในปัจจุบันก็เรียกว่า เป็นคนที่พูดถึงอะไรดีๆของผู้อื่นไว้ เวลาที่คนพูดถึงจะพูดถึงในด้านดี แต่ถึงแม้ว่าจะมีพฤติกรรมในมุมกลับ หรือว่าพฤติกรรมในด้านมืดอย่างไร คนก็มักไม่พูดถึง อันนี้เป็นผลของการที่เคยสรรเสริญคนที่ควรสรรเสริญไว้

แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยสรรเสริญชาวบ้าน จะมีแต่นินทาว่าร้าย หรือขุดคุ้ยเอาเรื่องที่เป็นเรื่องในมุ้ง หรือเรื่องที่เค้าตบตีกับคนอื่น ทะเลาะกับคนอื่น หรือว่าแยกทางกับสามีภรรยาของตนเนี่ย แบบนี้นะเป็นเรื่องสนุกปากที่พูดถึงได้ แล้วรู้สึกว่ามันเกิดความรู้สึกว่าคึกคัก เออ กลับไปบ้านแล้วนอนหลับอะไรแบบนั้น พวกนี้ก็คือเป็นคนปกติทั่วไป อาจจะว่า ๙๙ เปอร์เซ็นต์ หรือว่าเกินครึ่งแล้วกัน อาจจะ ๖๐-๗๐ เปอร์เซ็นต์อะไรแบบนี้นะ ก็จะมีเป็นช่วงๆที่เราอาจจะต้องโดนบ้าง อาจจะโดนตั้งโต๊ะกาแฟว่ากันเป็นกลุ่ม หรือไม่ก็อาจจะ อย่างที่ผู้ถามเจอมา ก็เป็นเรื่องที่เห็นได้ในปัจจุบันว่า เขาก็ชอบทำกันอย่างนี้ และแล้วก็เป็นผลในอดีตที่คุณเคยชอบทำอย่างนั้นมาก่อน ถ้าหากเขาทำแบบอย่างนี้กับคุณ วันนึงเขาก็ต้องโดน แล้วก็โดนกันหมดนั่นแหละ เพราะว่าตราบใดที่กิเลสยังบอกว่า นินทาสนุกกว่าสรรเสริญนะครับ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น