วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

๒.๕๐ ทำไมกระแสเมตตาของคนไม่เหมือนกัน?

ถาม :  เวลาที่ไปทำบุญกับคนที่เป็นประเภทดูธรรมะธรรมโม ชอบทำบุญตลอดเวลา แต่ทำไมรู้สึกว่าเวลาไปกับเขาแล้วไม่ค่อยสบายใจ รู้สึกไม่ค่อยดี และไม่รู้สึกถึงพลังกระแสเมตตาเลย ได้ทดลองมาหลายครั้ง ซึ่งผิดไปกับอีกกลุ่มหนึ่งที่ธรรมะธรรมโม ชอบทำบุญเหมือนกัน แต่รู้สึกสบายใจมากๆรับรู้ได้ถึงพลังกระแสเมตตา ทำไมถึงรู้สึกไม่เหมือนกัน?


รับฟังทางยูทูป
: https://youtu.be/oe1_z8vnONw



ดังตฤณ:  ตอนที่ไปทำบุญนี่นะ จิตที่คิดเป็นกุศล จิตที่ตั้งใจดี จิตที่ตั้งใจจะไปให้ทานนะครับ ให้ทานกับผู้มีฐานะสูงกว่าเรา เหนือกว่าเรา คือพระสงฆ์องค์เจ้า หรือไม่ก็ไปทำบุญประเภทสงเคราะห์กับคนชราหรือว่าเด็กอนาถา หรือว่าไปปล่อยสัตว์ปล่อยปลาอะไรก็แล้วแต่ ที่ออกจากบ้านไป ตั้งใจว่าจะไปทำดี จะไปทำกุศล จะไปทำเรื่องของการเกื้อกูลกันกับสัตว์โลกนะครับ ตัวเจตนา ตัวความเป็นจิตที่มีความสว่างนั้น ก็จะเผยตัวตนที่มีภาคสว่าง แต่ละคนมีภาคมืด ภาคสว่าง ตั้งใจทำชั่ว ก็จะดึงเอาภาคชั่วออกมา ตั้งใจไปทำดี ตั้งใจไปในสถานที่ที่เป็นกุศล ก็จะดึงเอาตัวตนภาคสว่างออกมา

ทีนี้ถ้าหากว่า เราเกิดมีความสามารถมากพอที่จะแยกแยะว่า ไปกับกลุ่มหนึ่ง รู้สึกอย่างหนึ่ง ไปกับอีกกลุ่มหนึ่งรู้สึกอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็สะท้อนถึงตัวตนของเราด้วย ไม่ใช่ตัวเขาอย่างเดียว คือความเป็นคนดีมีหลายแบบ พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า คนเราเข้ากันได้โดยธาตุนิสัย ถ้าหากว่ามีคลื่นกรรม คลื่นของเจตนา คลื่นของการกระทำ คลื่นของวิธีคิด วิธีพูด วิธีทำ ที่สอดคล้องกัน กลมกลืนกัน จะมีความรู้สึกว่าไปกันได้ เข้ากันได้

บางคนเจอหน้ากันไม่ต้องจูนชีวิต ไม่ต้องจูนความรู้สึกนึกคิด ไม่ต้องปรับตัวเข้าหากันเลย มีความรู้สึกเข้ากันได้ทันที บางทีไม่ใช่เป็นเรื่องของเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อนในอดีตชาติ แต่เป็นเรื่องการเข้ากันได้โดยธาตุ

พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า สัตว์โลกคบกันโดยธาตุนิสัย ถ้าหากว่ามีนิสัยใกล้เคียงกันไปทางมืดเหมือนๆกัน ก็จะรู้สึกว่าเข้ากันได้ ไม่ต้องมาปรับความเข้าใจ หรือว่าพูดทำความรู้จักกันมาก ก็รู้สึกว่ามันเข้ากันได้เองอยู่แล้ว ในทางตรงข้าม ถ้าหากว่าใฝ่บุญด้วยกัน รักษาศีลด้วยกัน แล้วก็มีความรู้สึกว่าชีวิตนี้ เป็นไปเพื่อที่จะเกื้อกูล ไม่ใช่เป็นไปเพื่อที่จะเบียดเบียน คลื่นความรู้สึกเกื้อกูล มันก็จะทำให้เกิดความสุข ต่างฝ่ายต่างมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้กัน คุยกันก็รู้สึกถูกคอ ถูกอัธยาศัยโดยทันที

แต่ในความเป็นจริง มันแบ่งแยกได้ยิบย่อยกว่านั้นเยอะ ชอบดนตรีด้วยกัน ดนตรีประเภทไหน แบ่งออกไปอีก ดนตรีร็อก กับดนตรีคลาสสิค บางทีคุยกันไม่รู้เรื่อง นั่งด้วยกันไม่ได้ หรือแม้กระทั่งไปทำบุญด้วยกันอย่างนี้ ก็ทำบุญด้วยเจตนาแบบไหน ทำบุญอยากจะเอา หรือว่าทำบุญเพราะอยากจะมีจิตใจสว่างเดี๋ยวนี้นะครับ

ถ้าหากว่าทำบุญแบบอยากจะเอาโลกหน้า จะเอาผลกำไรที่ได้ภายในเดือนสองเดือน หรือว่าจะเอาหน้าเอาตาอะไรก็แล้วแต่ พูดง่ายๆว่าคิดจะเอา ไม่ได้คิดจะให้ ไปเพื่อไปลงทุน ไม่ใช่ไปเพื่อที่จะเสียสละอย่างนี้นี่ คนที่เข้ากันได้นี่ ก็จะจับกลุ่มกัน แล้วรู้สึกว่าไปด้วยกันแล้วมีความสุข บางทีไม่ใช่ความสุข มันเป็นความรู้สึกกลมกลืน

ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งไปคิดให้จริงๆแล้วก็รู้สึกสบายใจที่จะให้ ไม่ได้หวังจะเอาอะไรทั้งสิ้น โดยนิสัยส่วนตัวก็เป็นเหมือนกับคนที่ไม่มีอาการปากว่าตาขยิบ ไม่มีอาการที่ว่าซ่อนมีดไว้ข้างหลัง จะมีความตรงไปตรงมา ซื่อๆเหมือนๆกัน ก็จะรู้สึกถึงความเมตตา ลักษณะของความเมตตามันไม่ใช่ว่าฉันอยากจะให้เธอมีความสุขเหลือเกิน ไม่ใช่นะครับ เอาง่ายๆเลย ไม่คิดเบียดเบียนกัน ไม่มีซ่อนมีดอยู่ข้างหลัง ปากว่าอย่างไร ตาว่าอย่างนั้น ไม่ใช่ปากว่าอย่าง ตาขยิบไปอีกทางหนึ่ง

การที่เรา เอาง่ายๆก็แล้วกันนะครับ ถ้าหากว่าเรารู้สึกว่าสบายใจ แล้วก็รู้สึกถึงกระแสเมตตากับคนกลุ่มไหน ก็ให้รวมกันกับกลุ่มนั้น ไม่ต้องไปแสวงหา ไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนได้หลายกลุ่ม บอกว่าฉันใจกว้าง คบคนได้มากอะไรแบบนั้น เพราะว่าในทางบุญในทางกุศลแล้วนี่นะ มันไม่มีหรอกที่ว่าจะไปคบกับพระได้ คบกับโจรก็ไม่ขัดขืน ในทางบุญทางกุศล คบคนเช่นไร ถ้าหากว่ามีความสว่างอย่างเรา ถ้าหากว่าพระมีความสว่างเหนือกว่าเรา อย่างนี้จะทำให้จิตของเรา นับวันมีความสว่างตาม นับวันมีความสว่างยิ่งๆขึ้นไป แต่ว่าหากว่า จะเอาแบบที่สว่างครึ่งหนึ่ง และก็เพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งแบ่งความมืดมาให้ครึ่งหนึ่ง ในที่สุดตัวเราจะกลายเป็นสีเทา ตัวเราจะสับสน ว่าอันไหนถูกอันไหนผิดกันแน่

อย่างเช่น บางคน บางกลุ่มไปทำบุญด้วยกันแล้วก็ เหมือนเท่าที่ได้ยินมานี่ ก็จะออกแนวไปโจมตีคนที่ไม่ใช่พวกของตัว ทั้งทริป ทั้งการเดินทางมีแต่การว่ากัน สาดเสียเทเสีย เอาคนโน้นคนนี้มานินทา เผลอไม่ได้ ต่อให้เคยคุยกันดีๆ พอลับหลังหน่อยเดียวเอามาขุดคุ้ย เบื้องลึกเบื้องหลัง ถ้าสมมติว่าเรายังไม่เคยที่จะเป็นคนแบบนั้นมาก่อนนี่ ก็ในที่สุดจะต้องเคยจนได้ แล้วก็เป็นคนแบบนั้นไปจนได้

ถ้าพิจารณาอย่างนี้นะครับ เราก็เลือกเอาก็แล้วกัน เอาแบบที่เห็นๆว่าไปด้วยกันแล้วมีจิตใจที่มีความเกื้อกูล ไม่คิดเบียดเบียนกัน ด้วยกาย วาจา ใจ จริงๆ ไม่มีการปากว่าตาขยิบจริงๆ เอาแบบนั้นก็แล้วกันนะครับ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น