ถาม : อยากทราบว่าจะสร้างกรรมดีอย่างไร
ให้ชาติต่อๆไปเป็นคนมีสัมมาทิฏฐิ และมีใจหนักแน่นไม่ทำบาปต่อ แม้จะมีเรื่องยั่วยุ
หรือถึงแม้ว่าจะมีสิทธิ์มากพอที่จะทำ?
ดังตฤณ:
ถ้าจะเดินทางต่อไปเรื่อยๆในสังสารวัฏ
พระพุทธเจ้าตรัสเองเลยนะว่า
ไม่มีทาง ไม่ใช่วิสัยที่จะเลี่ยงนรก
ไม่ใช่วิสัยที่จะเลี่ยงความพลาด
อย่างไรๆก็ต้องพลาด
ก็เกิดมาจำไม่ได้
ไม่รู้ว่าเคยเป็นใครมาก่อนทำอะไรมาก่อนมันถึงมาเกิด
แล้วก็เถียงกันอยู่นั่นแหละ
นรกสวรรค์มีจริงหรือเปล่า
ชาตินี้ชาติหน้ามีจริงหรือเปล่า
คนตายเท่านั้นที่ถึงจะรู้ !
และทุกวันนี้มีคนรู้กันวันละประมาณ ๒ แสน
ไม่ใช่ไม่มีคนรู้นะ มีคนรู้กันประมาณ ๒ แสนทุกวัน
มีคนตายทุกวันเกือบ ๒ แสน
ได้รู้ได้เห็นความจริงนะว่าตายแล้วไปไหน
แต่พอรู้มันก็สายเกินไปมันไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว
ที่ขึ้นสวรรค์..
ก็ไม่สามารถที่จะมาสั่งสมบุญให้สูงขึ้น
ที่ลงนรก..
ก็ไม่สามารถที่จะทำดีชดใช้ความผิด
แล้วก็ลอยขึ้นมาจากนรกนะ
ความลืมมันทำให้เราหลง
ความหลงทำให้เราเลือกที่จะตามใจกิเลส
นี่แหละ ตัวนี้แหละ
พระพุทธเจ้าตรัสเองเลยนะว่า
ไม่มีทาง ไม่ใช่วิสัยที่จะเลี่ยงนรก
ไม่ใช่วิสัยที่จะเลี่ยงความพลาด
อย่างไรๆก็ต้องพลาด
ก็เกิดมาจำไม่ได้
ไม่รู้ว่าเคยเป็นใครมาก่อนทำอะไรมาก่อนมันถึงมาเกิด
แล้วก็เถียงกันอยู่นั่นแหละ
นรกสวรรค์มีจริงหรือเปล่า
ชาตินี้ชาติหน้ามีจริงหรือเปล่า
คนตายเท่านั้นที่ถึงจะรู้ !
และทุกวันนี้มีคนรู้กันวันละประมาณ ๒ แสน
ไม่ใช่ไม่มีคนรู้นะ มีคนรู้กันประมาณ ๒ แสนทุกวัน
มีคนตายทุกวันเกือบ ๒ แสน
ได้รู้ได้เห็นความจริงนะว่าตายแล้วไปไหน
แต่พอรู้มันก็สายเกินไปมันไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว
ที่ขึ้นสวรรค์..
ก็ไม่สามารถที่จะมาสั่งสมบุญให้สูงขึ้น
ที่ลงนรก..
ก็ไม่สามารถที่จะทำดีชดใช้ความผิด
แล้วก็ลอยขึ้นมาจากนรกนะ
ความลืมมันทำให้เราหลง
ความหลงทำให้เราเลือกที่จะตามใจกิเลส
นี่แหละ ตัวนี้แหละ
เป็นเหตุที่ทำให้ก่อบาปก่อกรรมไม่มีที่สิ้นสุด
!
.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
ไม่มีใครจะเป็นสัมมาทิฐิได้ตลอด
แม้แต่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ครั้งเมื่อท่านเป็นพระโพธิ์สัตว์ใหญ่อยู่
ท่านก็เคยมีความหลง
แม้ตามอำนาจ โลภะ โทสะ โมหะ
ทำบาปทำกรรมท่านก็เล่าให้ฟังหมด
ท่านเคยไปนรกชั้นไหนมา
เคยไปเป็นสหายแห่งเดรัจฉานชั้นไหนมา
คือไม่ใช่ว่าท่านจะสรรเสริญแต่ตัวเองว่า
บำเพ็ญบารมี มีแต่ดีกับดีนะ
ท่านบอกเลยบอกว่า
ถ้าหากตั้งใจจะเดินทางท่องเที่ยวไปในสังสารวัฏเรื่อยๆ
และคิดว่าจะเป็นสัมมาทิฐิได้ตลอด
ไม่ต้องลงนรกเลยนี่
อันนั้นผิดแล้ว แค่คิดก็ผิดแล้ว !
ท่านยกเอาตัวท่านเองเป็นตัวอย่างเลยว่า
บุพจริยา
เป็นสูตรที่ว่าด้วยความผิดพลาดที่พระองค์เคยทำมา
แล้วก็ต้องไปเสวยผลกรรมเผ็ดร้อนต่างๆนานา
.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
แต่ถ้าหากว่าเรายังไม่มั่นใจ
เราจะสามารถเข้าถึงพระนิพพานได้ในเร็วๆนี้
ก็มีคำแนะนำคือ อันดับแรกเลย
ให้ถือเอา ครู อาจารย์ ที่ถูกที่ชอบ
เรียกว่า ปาระโตโทสะ เป็นหลักนะ
อย่างเช่นกัลยาณมิตร
เช่น "พระพุทธเจ้า" ขอให้ยึดไว้
อย่าไปเบี่ยงเบนไปไหนเลยนะ
ไม่ว่าใครเขาจะร่ำลือกันว่าเทพองค์ไหนศักดิ์สิทธิ์
อย่าให้ใจไขว้เขว
เอาพระพุทธเจ้าไว้เป็นสรณะแค่พระองค์เดียวเลย
เหนียวแน่นเลย
แล้วก็ "พระธรรมคำสอน" ของท่าน
แล้วก็ "พระอริยสงฆ์"
ที่เป็นสาวกปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ
ตามคำสั่งสอนของท่านเจริญรอยตามท่าน
เราเอาแค่นี้จะไม่เอาที่อื่น
ถ้าตั้งใจไว้อย่างนี้เป็นหลัก
แล้วก็ปฏิบัติตามคำสอนของท่านด้วยนะ
ไม่ใช่ว่าจะยึดไว้ด้วยใจอย่างเดียว
แต่ว่าทำเอาอะไรตามอำเภอใจนะ
แล้วด้วยความที่เรามีศรัทธา
ทั้งมีทาน มีศีล ที่เราทำมั่นคงในปัจจุบัน
ตัวนี้แหละที่จะเป็นพลังดลใจให้เราอยู่ในทางดีทางชอบ
แล้วก็เลือกทางที่ถูกมากกว่าทางที่ผิด
ตรงนี้แหละเป็นที่สุดที่เราจะสามารถสะสมเสบียง
จากชาติที่อุบัติในใต้ร่มเงาของพระพุทธศาสนาได้
ครั้งเมื่อท่านเป็นพระโพธิ์สัตว์ใหญ่อยู่
ท่านก็เคยมีความหลง
แม้ตามอำนาจ โลภะ โทสะ โมหะ
ทำบาปทำกรรมท่านก็เล่าให้ฟังหมด
ท่านเคยไปนรกชั้นไหนมา
เคยไปเป็นสหายแห่งเดรัจฉานชั้นไหนมา
คือไม่ใช่ว่าท่านจะสรรเสริญแต่ตัวเองว่า
บำเพ็ญบารมี มีแต่ดีกับดีนะ
ท่านบอกเลยบอกว่า
ถ้าหากตั้งใจจะเดินทางท่องเที่ยวไปในสังสารวัฏเรื่อยๆ
และคิดว่าจะเป็นสัมมาทิฐิได้ตลอด
ไม่ต้องลงนรกเลยนี่
อันนั้นผิดแล้ว แค่คิดก็ผิดแล้ว !
ท่านยกเอาตัวท่านเองเป็นตัวอย่างเลยว่า
บุพจริยา
เป็นสูตรที่ว่าด้วยความผิดพลาดที่พระองค์เคยทำมา
แล้วก็ต้องไปเสวยผลกรรมเผ็ดร้อนต่างๆนานา
.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
แต่ถ้าหากว่าเรายังไม่มั่นใจ
เราจะสามารถเข้าถึงพระนิพพานได้ในเร็วๆนี้
ก็มีคำแนะนำคือ อันดับแรกเลย
ให้ถือเอา ครู อาจารย์ ที่ถูกที่ชอบ
เรียกว่า ปาระโตโทสะ เป็นหลักนะ
อย่างเช่นกัลยาณมิตร
เช่น "พระพุทธเจ้า" ขอให้ยึดไว้
อย่าไปเบี่ยงเบนไปไหนเลยนะ
ไม่ว่าใครเขาจะร่ำลือกันว่าเทพองค์ไหนศักดิ์สิทธิ์
อย่าให้ใจไขว้เขว
เอาพระพุทธเจ้าไว้เป็นสรณะแค่พระองค์เดียวเลย
เหนียวแน่นเลย
แล้วก็ "พระธรรมคำสอน" ของท่าน
แล้วก็ "พระอริยสงฆ์"
ที่เป็นสาวกปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ
ตามคำสั่งสอนของท่านเจริญรอยตามท่าน
เราเอาแค่นี้จะไม่เอาที่อื่น
ถ้าตั้งใจไว้อย่างนี้เป็นหลัก
แล้วก็ปฏิบัติตามคำสอนของท่านด้วยนะ
ไม่ใช่ว่าจะยึดไว้ด้วยใจอย่างเดียว
แต่ว่าทำเอาอะไรตามอำเภอใจนะ
แล้วด้วยความที่เรามีศรัทธา
ทั้งมีทาน มีศีล ที่เราทำมั่นคงในปัจจุบัน
ตัวนี้แหละที่จะเป็นพลังดลใจให้เราอยู่ในทางดีทางชอบ
แล้วก็เลือกทางที่ถูกมากกว่าทางที่ผิด
ตรงนี้แหละเป็นที่สุดที่เราจะสามารถสะสมเสบียง
จากชาติที่อุบัติในใต้ร่มเงาของพระพุทธศาสนาได้
.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
ชีวิตนี่เป็นของน้อยนะครับ
แต่ว่ากรรมสามารถที่จะเป็นของใหญ่ได้
ถ้าหากว่าเราโชคดีพอ มีวาสนาพอ
ที่จะได้ฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า
ก็มีแก่ใจที่จะปฏิบัติประพฤติตาม
หรือเอาตามตลอดชีวิต
ถ้าทำได้ตลอดชีวิตก็ขอให้บอกตัวเองเลยว่า
เราเป็นชนหมู่น้อย
หนึ่งในชนหมู่น้อยที่โชคดีที่สุดในสังสารวัฏ
ประกันความปลอดภัยไว้พอสมควร
มีความสว่างนำทางข้างหน้าไว้พอสมควร
แต่อย่าหวังว่าจะเป็นไปได้ตลอดไป
เพราะเป็นไปไม่ได้ !
แต่ว่ากรรมสามารถที่จะเป็นของใหญ่ได้
ถ้าหากว่าเราโชคดีพอ มีวาสนาพอ
ที่จะได้ฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า
ก็มีแก่ใจที่จะปฏิบัติประพฤติตาม
หรือเอาตามตลอดชีวิต
ถ้าทำได้ตลอดชีวิตก็ขอให้บอกตัวเองเลยว่า
เราเป็นชนหมู่น้อย
หนึ่งในชนหมู่น้อยที่โชคดีที่สุดในสังสารวัฏ
ประกันความปลอดภัยไว้พอสมควร
มีความสว่างนำทางข้างหน้าไว้พอสมควร
แต่อย่าหวังว่าจะเป็นไปได้ตลอดไป
เพราะเป็นไปไม่ได้ !
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น