วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

เจริญภาวนาอย่างไร จึงทำให้เราเป็นผู้มีวิสัยทัศน์


ดังตฤณ : นี่เป็นคำถามแบบโลกๆ ที่หลายคนอาจอยากรู้นะครับ บอกว่า จะภาวนาอย่างไร ให้เป็นคนมีวิสัยทัศน์

คำว่า 'วิสัยทัศน์' นี่ก็น่าจะหมายถึงเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลม แล้วก็มองเห็นอะไรตามจริง มองเห็นอะไรได้ดีกว่าคนอื่นเขาอะไรทำนองนี้นี่นะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นเรื่องเกี่ยวกับอนาคต เรื่องเกี่ยวกับการรู้เหตุรู้ผลนะครับ ว่าอะไรดี อะไรควร

ก็ง่ายๆ เลยนะ การภาวนา พระพุทธเจ้าท่านตรัส่ว่าเป็นเหตุให้เกิดปัญญาอยู่แล้ว แม้แต่อย่างมีคนไปถามพระสารีบุตรซึ่งเป็นอัครสาวกฝ่ายขวานะครับ คือเป็นผู้ทรงปัญญา มีปัญญามากเป็นสองรองก็แต่พระพุทธเจ้าเท่านั้นนี่นะ พระสารีบุตรท่านก็ตอบว่า ถ้าอยากฉลาดแบบเรา ก็ให้ดูว่าจิตนี่ต่างกันอย่างไร สังเกตให้ออก จิตฟุ้งซ่านต่างกับจิตสงบอย่างไร จิตมีราคะต่างจากจิตไม่มีราคะอย่างไร พอมีโทสะ จิตมีโทสะ เอ้าเห็นเข้ามาแป๊บหนึ่ง สองสามลมหายใจต่อมาโทสะหายไปจากจิต เหลือแต่จิตว่างๆ จากโทสะอย่างนี้ เปรียบเทียบจิตแบบนี้เก่งๆ เท่านี้ก็มีปัญญา มีวิสัยทัศน์ได้

หรืออย่างถ้าไปถามพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็อาจตรัสตอบมาเป็นสูตรสำเร็จบอกว่า เจริญกายคตาสติให้มาก จะเป็นผู้มีปัญญามีปฏิภาณ มีวิสัยทัศน์มีอะไรแบบที่คุณถามนั่นแหละ นั่นเพราะอะไร เพราะว่า ผู้ที่สามารถรู้ทันภาวะของกายใจได้อยู่เรื่อยๆ มีสมาธิ มีความรู้ ความเข้าใจออกมาจากภายใน คือไม่ถูกห่อหุ้ม จิตไม่ถูกปิดบังด้วยโมหะ

พอจิตห่างจากโมหะไป ก็เหมือนคนที่ทะลึ่งพรวดขึ้นมาเหนือน้ำนะ จากเดิมที่เห็นอะไรแค่พร่าเลือนใต้น้ำ กลายมาเป็น เห็นอะไรแจ่มชัด เห็นท้องฟ้ากว้าง นี่ทัศนวิสัยจะเปิดกว้างจากการที่มีดวงตาเห็นชัด มีจิตที่แจ่มกระจ่าง ตัวนี้แหละที่ทำให้มีวิสัยทัศน์ ถ้าภาวนาถูกทาง 

พูดง่ายๆนะ ภาวนามาให้ถูกทาง วิสัยทัศน์จะตามมาเอง!

________________

ปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน ภาวนาพุทโธถึงมรรคผลได้อย่างไร?
16 พฤษภาคม 2563
ถอดความ : เอ้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น