วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

เคยได้ยินมาว่า ถ้าปฏิจจสมุปบาทครบวงรอบ คือ การเกิดชาติอีก ๑ ชาติ ถูกมั้ยคะ?


ดังตฤณ :  ไม่ใช่นะครับ คือถ้าคิดในวงใหญ่ จะว่าอย่างนั้นก็ได้ วงใหญ่จริงๆมันอยู่ตรงที่ว่า เราเกิดมาด้วยความไม่รู้ แล้วเสร็จแล้วก็ตายไปด้วยความไม่รู้ ความไม่รู้นั้นมันยังคงอยู่มันก็เลยทำให้เกิดใหม่ อันนี้เรียกว่าเป็นการเกิดชาติใหม่ครบวงแบบอย่างใหญ่

แต่จริงๆแล้วมันยังมีปฏิจจสมุปบาทอย่างย่อย คือเวลาเราพิจารณาปฏิจจสมุปบาทเนี่ย เราพิจารณาแค่ส่วนย่อย ส่วนใดส่วนหนึ่งก็ได้ เช่น บางคนเนี่ยเอาแค่การรับรู้ที่เป็นในปัจจุบันนะครับ 

อย่างท่านพุทธทาสท่านก็จะสอนแนวนี้ว่า พอเกิดผัสสะเรารู้ว่า มีความสุขมีความทุกข์จากผัสสะนั้นยังไง แล้วความสุขความทุกข์นั้นมันไปเร้า ไปกระตุ้นให้เกิดความอยากได้ อยากมี อยากเอามา หรือว่าอยากผลักไสออก อยากทำลายทิ้ง จนกระทั่งเกิดอุปาทานว่า ไม่มีไม่ได้ ไม่ยอมไม่ได้ อะไรแบบนี้

พอพิจารณาอย่างนี้ว่า เออเนี่ยเป็นสายของการเกิด อิงการเกิด อิงการมี เพราะสิ่งนี้มี เพราะกระทบมี เราถึงมีเวทนา ถึงมีสุขทุกข์ เพราะมีสุขทุกข์ ถึงได้มีความอยากได้ หรืออยากจะเสีย เพราะมีความอยากได้อยากเสีย มันถึงมีอุปาทานว่า ต้องเอาให้ได้ หรือไม่ยอมไม่ได้อะไรแบบนี้ พิจารณาอย่างนี้ไปเรียกว่า เป็นการเห็นความสมบูรณ์แบบของปฏิจจสมุปบาทชนิดหนึ่งเหมือนกันนะครับ 

มันไม่ได้มีอยู่แบบครบวงรอบแบบเป๊ะๆ อวิชชาเป็นปัจจัยให้เกิดสังขาร อปุญญาภิสังขาร ปุญญาภิสังขาร กองบุญกองบาปอะไรอย่างนี้ แล้วกองบุญกองบาปเนรมิตวิญญาณให้เกิดขึ้น มันไม่ใช่จะต้องครบรอบในแบบอย่างนั้นเสมอไปนะครับ

คือเรื่องปฏิจจสมุปบาทเนี่ย อยากให้เข้าใจว่า โดยแก่นโดยเนื้อแท้ที่พระพุทธเจ้าท่านให้พิจารณาจริงๆเนี่ย คือเพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี สิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ก็ไม่มี อันนี้คือหัวใจจริงๆ

ถ้าไปดูในมหานิทานสูตรน ที่พระพุทธเจ้าตรัสจะเห็นเลยว่า ท่านไม่ได้ตรัสในลักษณะครบวงรอบแบบที่เราเข้าใจกันนะครับ อย่างบางทีเนี่ย มันไปจบที่เรื่องของอัตตา อัตตามีอยู่ วิญญาณฐิติหรือว่าที่ตั้งของวิญญาณมีอยู่ ไปอีกเรื่องหนึ่งเลยนะครับ

แล้วก็เป็นความเข้าใจในภาพรวม ว่าภพชาติหรือว่าความเป็นแบบนี้ ความเป็นทุกข์อย่างนี้เนี่ยมันเกิดขึ้นได้ยังไง แล้วจะดับลงอย่างไร ไม่ใช่ว่าท่านให้พิจารณาครบรอบที กลายเป็นชาติใหม่ทีมันไม่ใช่แบบนั้น 

ปฏิจจสมุปบาทโดยมุมมองของนักปฏิบัติหรือว่านักเจริญสติ ไม่ใช่การเห็นการเกิดใหม่ชาติใหม่เสมอไป เป็นการเห็นภาวะ หรือว่าภาพรวมที่มันมีการเวียนว่ายตายเกิดอยู่เนี่ย ขึ้นมาได้ยังไง 

ที่ผมจะสรุปในคลิปก็จะตัดตอนในพระสูตรอื่น ที่พระพุทธองค์ตรัสว่า กรรมเหมือนผืนนา วิญญาณเหมือนพืช ตัณหาเปรียบเหมือนยางในพืช 

อันนี้ก็ทำให้มองปฏิจจสมุปบาทได้ในแง่ของการเจริญสติจริงๆนะครับ ที่เราจะรู้เข้ามาว่า ตอนนี้เรามีตัณหา หรือว่าอุปาทานอยู่แค่ไหน อันนี้เขาเรียกว่าเป็นการจบสมบูรณ์ในตัวเองแล้ว ถ้าหากเรามองเห็นนะครับ

-------------------------------------------

ผู้ถอดคำ                      ครอบครัวกิติวิริยกุล
วันที่ไลฟ์                  ๒๕ เมษายน ๒๕๖๓ (รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน)
คำถาม                         เคยได้ยินมาว่า ถ้าปฏิจจสมุปบาทครบวงรอบ คือ การเกิด
                              ชาติอีก ๑ ชาติ ถูกมั้ยคะ?         
ระยะเวลาคลิป           ๔.๒๘ นาที
รับชมทางยูทูบ              https://www.youtube.com/watch?v=a-2St9U_geY&list=PLmDLNhxScsWPHpIdf0LAQiQM1j9ZebEMx&index=4

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น