ดังตฤณ : ข้อสังเกตที่จะช่วยให้คุณได้เกิดความมั่นใจว่า
ตัวเองดูมาอย่างเป็นกลางแล้วก็คือ ไม่มีความสงสัย หรือถ้ามีความสงสัยขึ้นมา
เอ้นี่ฉันกำลังดูถูกอยู่รึเปล่า ก็ให้รู้ว่าความสงสัยนี้มันเกิดขึ้นยังไง แล้วมันหายไปยังไง
จริงๆคือ
ถ้าจะตอบแบบให้ตรงจุดเป๊ะๆเลยนะครับ การที่เราจะเกิดความมั่นใจได้ว่า
รู้กายใจมาอย่างเป็นกลางเนี่ย จิตต้องเป็นสมาธิ แล้วก็มีอุเบกขา
แล้วก็มีความเป็นปกติ คือเนี่ยอยู่ในชีวิตประจำวันอย่างนี้เนี่ยนะ แล้วจิตมันว่างจากความยึดมั่นถือมั่น
เห็นกายเห็นใจกำลังแสดงความไม่เที่ยงอยู่โดยไม่คิดอะไร
ไม่หวังอะไรแม้กระทั่งมรรคผล
เห็นไปเฉยๆว่า
เออมันกำลังแสดงความไม่เที่ยงอยู่ หรือบางคนเนี่ย
พอมีความสามารถพอที่จะเห็นกระดูกได้ เห็นลมหายใจเป็นสายได้ ก็มีความพอใจ
ที่จะดูอยู่อย่างนั้นว่า เออมันกำลังแสดงความไม่เที่ยงอยู่ เข้าแล้วต้องออก
ออกแล้วต้องเข้า ออกแล้วเดี๋ยวก็หยุด แล้วเดี๋ยวก็เข้าใหม่ มีความเพลิน
มีความพอใจที่จะดูอยู่แค่นั้น เห็นความไม่เที่ยงแล้วรู้สึกว่า ไม่ใช่เราชัดๆเลย
หรือเห็นกระดูกไปแล้วก็รู้สึกว่า
เออเนี่ยมันเคลื่อน มันมีการเคลื่อนไหวอยู่นะ แล้วสิ่งที่เคลื่อนไปเนี่ย
มันไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนของเรานะครับ เป็นสิ่งที่เราไม่ได้สร้างขึ้นมา
เนี่ยแค่ความพอใจอยู่อย่างนี้ ดูอยู่อย่างนี้ แล้วนำไปสู่การพิจารณาว่า
ทั้งกายทั้งใจนี้ อะไรที่มันกำลังปรากฏเด่นอยู่ เราสนใจแค่ตรงนั้นดูแค่ตรงนั้น
จะเป็นความคิดฟุ้งซ่านก็ตาม จะเป็นความสุขก็ตาม จะเป็นความทุกข์ก็ตาม เราไม่สนใจดูอย่างอื่นเลย
ดูไปเฉพาะอย่างนั้น ด้วยจิตที่มันมีสมาธิที่จะดู มันมีความเป็นอุเบกขานะครับ
คือใจเนี่ยไม่เข้าไปยินดียินร้าย ตัวไม่ยินดียินร้ายไม่คาดหวัง ในผลการปฏิบัติในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง
ตัวนี้แหละที่ถ้าเกิดขึ้นเป็นปกติ แล้วจิตของเราอยู่กับความพอใจตรงนี้จริงๆ
นี่แหละตัวนี้แหละนะครับ บอกว่าจิตของเราเป็นกลาง
-------------------------------------------
ผู้ถอดคำ แพร์รีส แพร์รีส
วันที่ไลฟ์ ๕
พฤษภาคม ๒๕๖๓ (รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน)
คำถาม มีข้อสังเกตว่า
เรารู้กายใจด้วยใจที่เป็นกลางแล้ว ไหมคะ?
ระยะเวลาคลิป ๓.๐๐ นาที
รับชมทางยูทูบ https://www.youtube.com/watch?v=unrWsGFrQlY&list=PLmDLNhxScsWPHpIdf0LAQiQM1j9ZebEMx&index=6** IG **
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น