เวลาโกรธ
มักร้องไห้ แก้ได้อย่างไร
ดังตฤณ : การร้องไห้
แสดงให้เห็นว่าเรามีโทสะแรง
แล้วโทสะกับความอ่อนแอทางจิตใจนี่ บางทีมาด้วยกัน
ถ้าเป็นโทสะในแบบที่เราไม่สามารถจะปีนข้ามความกดดัน
ความรู้สึกหนักอกหนักใจ หรือว่าความรู้สึกเจ็บปวดไปได้
ก็จะพยายามหาทางทำลายกำแพงออกมาด้วยการที่ น้ำจากตานี่ ทะลักทลายออกมานะ
ต้องตั้งโจทย์อย่างนี้
คือไม่ใช่เราไปตั้งโจทย์ว่า ‘ทำอย่างไรจะไม่ร้องไห้ตอนโกรธ’ แต่เป็น ‘ทำอย่างไร จะมีสติรู้
ไม่ว่าเราจะมีโทสะเบาระดับที่หงุดหงิดเฉยๆ หรือว่า แรงระดับที่ต้องร้องไห้ออกมา’
อันนี้สำคัญกว่า
เพราะว่าอยู่ๆ เราหาอุบายหรือว่าหาวิธี หรือสั่งตัวเอง จงอย่าร้องไห้
บางทีจะขัดกับของที่สะสมมาเนิ่นนาน บางทีเป็นนิสัยทางความโกรธของเรา เป็นเอกลักษณ์
เป็น
signature ของเราที่โกรธ จะต้องร้องไห้ กลายเป็นความเคยชินไปแล้ว
สมองถูกเทรนให้เป็นแบบนั้น เป็นไปตามนั้นแล้ว
ทีนี้ถ้าเรามองใหม่ว่า
ไม่ต้องไปอายอะไรหรอก เพราะว่าคนเขาเห็นกันหมดแล้วว่าเราเป็นอย่างไรตอนโกรธ
เราเอาสิ่งที่จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นดีกว่า อย่าเอาตรงแค่ภาพ
ภาพนี่จริงๆแล้วไม่ได้ช่วยให้เราดีขึ้นสักเท่าไหร่หรอก แต่สติต่างหาก
ภาพนี่
เป็นอะไรที่เอาไว้ให้คนอื่นเห็น เป็นเรื่องของสายตาคนอื่น
ซึ่งเขาจะไปแอบหัวเราะเยาะต่อหรือเปล่า ต่อให้ไม่ร้องไห้
เขาจะไปหัวเราะเยาะหรือเปล่าไม่รู้
แต่
สติ ถ้าเกิดขึ้นข้างในของเรา แล้วเรามีความรู้อยู่ ตัวนี้ ที่เราได้ประโยชน์
คนอื่นจะหัวเราะ ไม่หัวเราะ ช่างมัน แต่ใจของเรามีพัฒนาการขึ้นมาก็แล้วกัน
สติ
ที่จะเกิดขึ้น ณ ขณะที่เกิดความโกรธ เราถามตัวเองง่ายๆ อันดับแรกเลย
เป็นความโกรธระดับหงุดหงิด หรือ ความโกรธระดับร้องไห้ สังเกตแค่ตรงนี้
สังเกตความต่างให้ออก
ถ้าเป็นความโกรธอ่อนๆ
จะเหมือนไปเรื่อยๆ หงุดหงิดๆ แต่ว่าไม่มีอาการกรี๊ดออกมาอยู่ข้างใน แต่ถ้ามีความโกรธที่รุนแรง
จะมีอาการกรี๊ด ปี๊ด เป็นนกหวีด นำขึ้นมา ตรงนี้เราก็รู้ตามจริงว่า อ้อ
นี่อย่างนี้เรียกว่าโทสะชนิดแรง
พอเรามีจุดสังเกต
จุดจับสังเกต คือไม่ใช่ไปดู ... ฟังดีๆ นะ คือไม่ใช่ไปดูเฉพาะตอนที่โทสะแรงนะ
ต้องดูตอนที่โทสะอ่อนด้วย ถึงจะเกิดการเปรียบเทียบ มีสติที่รู้ว่า
มันต่างกันอย่างไร
ตอนที่เกิดสติ
รู้ว่าหงุดหงิดๆ แล้วบอกตัวเองว่า นี่คือโทสะอ่อนๆ ก็จะเริ่มสังเกตเข้ามาที่จิตตัวเองว่า
หน้าตาเป็นอย่างนี้ เหมือนกับคุณหนูอยากกระฟัดกระเฟียด แต่ถ้าโกรธระดับร้องไห้
เหมือนจะคล้ายๆ กับคนสติแตก ที่อะไรๆ มันพัง ทำนบพัง แล้วน้ำพร้อมทะลักทลายออกมา
พอเห็นความต่างไปเรื่อยๆ
ว่า โทสะเหมือนกัน แต่ต่างระดับกัน ก็จะเริ่มเห็นว่า อ๋อ
จิตนี่ถูกปรุงแต่งไปได้ต่างระดับกัน ตอนที่เราเริ่มมีสติเห็นว่า อันนี้เป็นโทสะอย่างแรง
คุณจะรู้สึกคล้ายกับว่า ตัวเองถอยออกมาเป็นอีกตัวหนึ่งที่ว่างๆ ที่ไม่มีโทสะ แต่เห็นตัวที่มีโทสะเป็น
foreground
อยู่ข้างหน้า ตัวที่ไม่มีโทสะ แยกออกไปต่างหาก เป็น
background
แต่อันนี้ไม่ใช่ให้จำ แล้วไปพยายามให้เกิดขึ้นนะ
วิธีทำตามลำดับคือ ต้องสังเกตให้ออกว่า โทสะที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้งนี่
แรงหรือว่าเบา ถ้ามันเบา แค่หงุดหงิด ถ้ามันแรง ร้องไห้
นี่สังเกตอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งรู้สึกว่าโทสะนี่ ไม่เท่าเดิม ตามเหตุปัจจัย
สติถึงจะเกิด
แล้วเวลาที่สติเกิดนี่
อันนี้ผมพูดถึงผลลัพท์นะ ผลลัพท์ก็คือเหมือนกับแยกออกมาดูเป็นต่างหากนะครับ!
_________
รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน
ตอน เจริญสติขณะมีปากเสียงได้ไหม?
วันที่
23 พ.ค. 2563
คำถามเต็ม : เวลาโกรธ
ชอบร้องไห้ ทำอย่างไรได้บ้าง ไม่อยากร้องไห้ค่ะ?
ถอดความ
/ เรียบเรียง : เอ้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น