ถาม : ปกติจะปลูกต้นไม้
ปลูกผลไม้ที่บ้าน จะมีปัญหาเรื่องแมลงรบกวน
มันจำเป็นต้องฉีดยาฆ่าแมลงเพราะคนอื่นเขาฉีดกันหมด ถ้าไม่ฉีดอยู่บ้านเดียว
แมลงก็จะมารุมที่บ้านประจำ ใจคิดว่าเราฉีดไล่แมลง ไม่รู้ว่าหลอกตัวเองหรือเปล่า
เราไม่ต้องการฉีดฆ่าแมลง ไม่ทราบว่าควรจะทำใจหรือตั้งจิตอย่างไรคะที่ไม่ให้เป็นบาปค่ะ?
ดังตฤณ:
แค่การที่เราไม่ได้คิดฆ่ามัน
ก็เท่ากับเราไม่ได้ก่อกรรมครบวงจรเป็นปาณาติบาตแล้ว
อันนี้ฟังดีๆนะ ฟังให้เข้าใจนะ
มันขึ้นอยู่กับการรับรู้ตั้งต้นของเราขึ้นมาว่า
ในสิ่งที่เราฉีดลงไปมันจะฆ่าหรือว่าไล่กันแน่
ตัวรับรู้เป็นตัวแรกที่จะตัดสินว่ากรรมของเราจะเป็นไปในทางไหน
แต่ถ้าหากว่าเราคิด เราตั้งอยู่ในใจว่า "ขอให้ไปๆเถอะ:
การฉีดยาครั้งนั้นของเรา
ก็จะเหมือนกับ เข้าข่าย ‘กตัตตากรรม’
หมายความว่าเราไม่ได้ตั้งใจให้มันตาย
แต่มันรู้อยู่ครึ่งๆ ว่าอย่างไรมันก็คงไม่รอด
หรือว่าเราอาจจะเผื่อใจไว้ว่า
ถ้าหากเราหาวิธีที่จะป้องกันหรือว่าขับไล่ได้จริงๆ
เราจะใช้วิธีนั้น เราจะไม่ใช้วิธีทำให้มันตาย
ตัวกำลังใจที่คิดจะจัดการกับแมลงจริงๆ
มันจะเป็นตัวกำหนดทิศทาง
ว่าเราจะเป็นผู้ทำบาปโดยมากหรือว่าไม่ได้ทำบาป
ก็เท่ากับเราไม่ได้ก่อกรรมครบวงจรเป็นปาณาติบาตแล้ว
อันนี้ฟังดีๆนะ ฟังให้เข้าใจนะ
มันขึ้นอยู่กับการรับรู้ตั้งต้นของเราขึ้นมาว่า
ในสิ่งที่เราฉีดลงไปมันจะฆ่าหรือว่าไล่กันแน่
ตัวรับรู้เป็นตัวแรกที่จะตัดสินว่ากรรมของเราจะเป็นไปในทางไหน
แต่ถ้าหากว่าเราคิด เราตั้งอยู่ในใจว่า "ขอให้ไปๆเถอะ:
การฉีดยาครั้งนั้นของเรา
ก็จะเหมือนกับ เข้าข่าย ‘กตัตตากรรม’
หมายความว่าเราไม่ได้ตั้งใจให้มันตาย
แต่มันรู้อยู่ครึ่งๆ ว่าอย่างไรมันก็คงไม่รอด
หรือว่าเราอาจจะเผื่อใจไว้ว่า
ถ้าหากเราหาวิธีที่จะป้องกันหรือว่าขับไล่ได้จริงๆ
เราจะใช้วิธีนั้น เราจะไม่ใช้วิธีทำให้มันตาย
ตัวกำลังใจที่คิดจะจัดการกับแมลงจริงๆ
มันจะเป็นตัวกำหนดทิศทาง
ว่าเราจะเป็นผู้ทำบาปโดยมากหรือว่าไม่ได้ทำบาป
การที่ใจจะเป็นบาปจริงๆ
ก็คือมีความยินดี
มีความคิดตั้งไว้เลยว่าจะให้มันเป็นอย่างนั้น
แต่ถ้าหากว่าเราไม่ได้คิดให้มันเป็นอย่างนั้น
แต่ต้องฝืนทำอย่างนั้นเรียกว่า ‘กตัตตากรรม’
เป็นกรรมที่เมื่อไม่ได้ทำด้วยความตั้งใจไว้อย่างนั้นแล้ว
ก็จะมีความเบา เพราะว่ากำลังใจอ่อน
ถึงเวลาเผล็ดผลจะไม่ออกมาเต็มเม็ดเต็มหน่วย
สมมุติว่าออกแรงไป ๑๐ ในแบบที่เป็นกตัตตากรรม
เวลาผลเหวี่ยงกลับมามันจะกลับมาสัก ๕ หรือว่า ๔
ไม่เท่ากับแรงที่เราทำลงไป
แต่ถ้าหากว่าเราตั้งใจอะไรเต็มเหนี่ยวเลย
มีความยินดีเต็มที่เลย
ทำเข้าไป ๑๐ มันก็ได้กลับมา ๑๐ หรือมากกว่า ๑๐
อันนี้เป็นหลักการทางธรรมชาติของกรรมวิบาก
ที่พุทธศาสนาเราเปิดเผยไว้
ไม่ใช่มีใครไปตั้งกฎอย่างนี้ไว้ตามอำเภอใจ
แต่เป็นสิ่งที่มันเกิดขึ้นตามธรรมชาติของจิต
ตามธรรมชาติของกรรม
มีความคิดตั้งไว้เลยว่าจะให้มันเป็นอย่างนั้น
แต่ถ้าหากว่าเราไม่ได้คิดให้มันเป็นอย่างนั้น
แต่ต้องฝืนทำอย่างนั้นเรียกว่า ‘กตัตตากรรม’
เป็นกรรมที่เมื่อไม่ได้ทำด้วยความตั้งใจไว้อย่างนั้นแล้ว
ก็จะมีความเบา เพราะว่ากำลังใจอ่อน
ถึงเวลาเผล็ดผลจะไม่ออกมาเต็มเม็ดเต็มหน่วย
สมมุติว่าออกแรงไป ๑๐ ในแบบที่เป็นกตัตตากรรม
เวลาผลเหวี่ยงกลับมามันจะกลับมาสัก ๕ หรือว่า ๔
ไม่เท่ากับแรงที่เราทำลงไป
แต่ถ้าหากว่าเราตั้งใจอะไรเต็มเหนี่ยวเลย
มีความยินดีเต็มที่เลย
ทำเข้าไป ๑๐ มันก็ได้กลับมา ๑๐ หรือมากกว่า ๑๐
อันนี้เป็นหลักการทางธรรมชาติของกรรมวิบาก
ที่พุทธศาสนาเราเปิดเผยไว้
ไม่ใช่มีใครไปตั้งกฎอย่างนี้ไว้ตามอำเภอใจ
แต่เป็นสิ่งที่มันเกิดขึ้นตามธรรมชาติของจิต
ตามธรรมชาติของกรรม
.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
คำถามต่อเนื่อง – คือก็พยายามหาข้อมูลว่าจะมีวิธีไหนที่ดีกว่านั้น
ปัญหาคือพวกแมลงทั้งหลายก็ดื้อยามากและมาอยู่เรื่อย เลยไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร
สรุปว่าถ้าเราตั้งจิตไว้ว่าเราตั้งใจไล่ให้เขาไป
เมื่อก่อนตอนยังไม่ฉีดก็ภาวนาให้เขาไป แต่เขาไม่ไป
เพราะธรรมชาติเขาต้องมากินต้นส้มต้นไม้ของเรา ก็เลยกลัวบาปอยู่ค่ะ
เอาเป็นว่ากรณีนี้มันแค่ครึ่งๆ
มันไม่ได้เป็นการตั้งใจฆ่า มันเป็นการตั้งใจไล่
แต่บังเอิญว่าในการรับรู้ของเรา
เรารู้ว่าถึงแม้จะตั้งใจไล่มันก็มีสิทธิ์ที่จะไม่รอด
แม้กระทั่งพระเวลาท่านกวาดลานวัด
ท่านก็กังวลใจกันตอนแรกๆ
โดยเฉพาะพวกพระนวกะ จะคอยถามครูบาอาจารย์
เพราะเห็นชัดๆ เลยกวาดใบไม้ไป มดมันจะต้องตาย
สัตว์เล็กๆ เห็นกับตาเลยว่ากวาดไปมันก็โดนไปด้วย
แล้วก็บางทีมันอาจจะไม่รอด ครูบาอาจารย์วัดป่าท่านสั่งสอนลูกศิษย์ว่าอย่าไปกังวล
อย่าไปมองว่าตรงนั้นเป็นการฆ่า
เพราะเราไม่ได้ตั้งใจจะฆ่า
เราตั้งใจจะกวาดลานวัด นี่คือคำตอบของท่าน
แม้แต่ในพระวินัย พระพุทธเจ้าท่านก็บัญญัติไว้นะ
ห้ามไม่ให้มีหยากไย่ใยแมงมุม
นั่นหมายความว่าอะไร
หมายความว่าเราจะต้องทำให้หยากไย่ใยแมงมุม
ซึ่งแมงมุมถักทอขึ้นมามันหายไป
คงเข้าใจความหมายนะ
มันไม่ได้เป็นการตั้งใจฆ่า มันเป็นการตั้งใจไล่
แต่บังเอิญว่าในการรับรู้ของเรา
เรารู้ว่าถึงแม้จะตั้งใจไล่มันก็มีสิทธิ์ที่จะไม่รอด
แม้กระทั่งพระเวลาท่านกวาดลานวัด
ท่านก็กังวลใจกันตอนแรกๆ
โดยเฉพาะพวกพระนวกะ จะคอยถามครูบาอาจารย์
เพราะเห็นชัดๆ เลยกวาดใบไม้ไป มดมันจะต้องตาย
สัตว์เล็กๆ เห็นกับตาเลยว่ากวาดไปมันก็โดนไปด้วย
แล้วก็บางทีมันอาจจะไม่รอด ครูบาอาจารย์วัดป่าท่านสั่งสอนลูกศิษย์ว่าอย่าไปกังวล
อย่าไปมองว่าตรงนั้นเป็นการฆ่า
เพราะเราไม่ได้ตั้งใจจะฆ่า
เราตั้งใจจะกวาดลานวัด นี่คือคำตอบของท่าน
แม้แต่ในพระวินัย พระพุทธเจ้าท่านก็บัญญัติไว้นะ
ห้ามไม่ให้มีหยากไย่ใยแมงมุม
นั่นหมายความว่าอะไร
หมายความว่าเราจะต้องทำให้หยากไย่ใยแมงมุม
ซึ่งแมงมุมถักทอขึ้นมามันหายไป
คงเข้าใจความหมายนะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น